ยิ่งลักษณ์ชี้ศก.ไทยฟื้นเร็วเพราะพื้นฐานแกร่ง

นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวสุนทรพจน์ระบุไทยฟื้นตัวจากมหาอุทกภัยได้เร็วเพราะมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของไทย ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำ ระหว่างการเดินทางเยือนออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ เป็นเวลา 4 วัน โดยสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับการขายตัวทางเศรษฐกิจของไทย หลังเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม

"ดิฉันมีความยินดีที่จะกล่าวว่า สถานการณ์การเมืองของไทยขณะนี้มีเสถียรภาพมากขึ้น แผนสร้างความปรองดองแห่งชาติของเรามีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว ผ่านการทำงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และรัฐบาลของดิฉันได้อนุมัติจ่ายเงินชดเชยแก่บรรดาเหยื่อเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา เราตระหนักดีว่า ช่วงเกิดน้ำท่วมใหญ่ ไทยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากมหาภัยพิบัตินี้ แต่ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ เราได้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า เราสามารถฟื้นฟูประเทศจากวิกฤติดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว ดังจะเห็นได้จากการที่ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจของไทยเติบโตประมาณ 11% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้านี้ และสำหรับปีนี้ คาดว่าเศรษฐกิจของเราจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่งที่ 5.5-6.5%

และในโอกาสนี้ ดิฉันใคร่ร่วมแบ่งปันคุณค่าของประชาธิปไตย การเคารพในสิทธิมนุษยชนและกฏหมาย
 
เราทั้งคู่ต่างเห็นพ้องถึงความจำเป็นที่ต้องรับมือปัญหาท้าทายต่างๆในภูมิภาคและสร้างความมั่นคงด้านมนุษย์ อาทิเช่น ลดปริมาณการค้ามนุษย์ และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระดับภูมิภาคในประเด็นสำคัญนี้ และไทยจะจัดตั้งสำนักงานสนับสนุนระดับภูมิภาคที่มีชื่อว่า Bali Process Regional Support Office ขึ้นที่กรุงเทพฯ"

นอกจากนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ จะหารือประเด็นการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับนางจูเลีย กิลลาร์ด นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียแล้ว ผู้นำหญิงทั้ง 2 ประเทศ ยังตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินนโยบายข้ามพรมแดนอื่นๆ อาทิเช่น การร่วมมือกันปราบปรามการลักลอบค้ามนุษย์

ทั้งนี้ โกลบอล คอนเนคชันส์ ของเอชเอสบีซี คาดการณ์ว่า ปริมาณส่งออกของไทยไปออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นปีละ 10% ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าปริมาณนำเข้าจะเพิ่มขึ้นประมาณปีละ 8% โดยไทยถือเป็น คู่ค้าส่งออกที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุดของออสเตรเลีย รองจาก จีน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา