“ยงยุทธ”จวกสื่อคิดไปเองหมู่บ้านเสื้อแดงเพิ่มปมขัดแย้ง

“ยงยุทธ”จวกสื่อคิดไปเองหมู่บ้านเสื้อแดงเพิ่มปมขัดแย้ง

วันนี้ ( 16 พ.ค.)ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย
 
กล่าวถึงกรณีการตั้งหมู่บ้านและใช้ชื่อหมู่บ้านเสื้อแดงที่อาจไม่เหมาะสม ว่า ไม่เป็นอะไร ต้องดูเนื้อหาของการจัดตั้งหมู่บ้านว่าเพื่ออะไร ถ้าตั้งเพื่อมาต่อต้านรัฐ ก็ไม่ควรจะตั้ง แต่นี่ตั้งขึ้นมาเพื่อประชาธิปไตย และไม่มีว่าตั้งขึ้นมาแล้ว จะทำให้สถานการณ์ขัดแย้งเพิ่มขึ้น  อย่าคิดไปเอง อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองที่เป็นเจ้าของพื้นที่นี้อยู่เดิม ก็ต้องไม่พอใจเป็นเรื่องธรรมดา สาระสำคัญของการจัดตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดง และกิจกรรมของเขาคือการดำเนินการเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รัฐธรรมนูญ และประชาธิปไตย เมื่อเขาตั้งขึ้นมาเพื่อความแข็งแกร่งของสถาบัน รวมถึงความแข็งแกร่งของประเทศและประชาชน อีกทั้ง การจัดตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดงก็ใช้งบประมาณเงินทุนของเขาทำกันเอง ไม่เกี่ยวกับภาครัฐ ไม่มีการนำงบประมาณภาครัฐไปสนับสนุน มิฉะนั้นจะมีหน่วยงานหลายแห่งมาตรวจสอบ 

ผู้สื่อข่าวถามถึงการไม่แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นายยงยุทธ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้แถลงในนามของพรรคเพื่อไทยแล้ว เมื่อถามย้ำว่าตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดงยังเรียกร้องอยากให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขกฎหมายนี้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้บอกให้รัฐบาลทำ แต่เป็นความเห็นของเขาที่เสนอมา ซึ่งช่องทางในการเสนอขอแก้ไขมีมาก

เมื่อถามอีกว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นประเด็นขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทย รัฐบาล กับกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวอย่างไม่พอใจว่า "ไม่มี ทำไมจะถามแต่เรื่องที่มันจะมีปัญหาตลอด ทำไมไม่ถามเรื่องที่ไม่มีปัญหาหรือเรื่องที่สร้างสรรค์"

เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.)
 
ได้จัดการประชุมสัมมนาและสรุปเสนอตัวเลขใหม่ในการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ว่าผู้เสียชีวิตจะได้รับรายละ 3.2 ล้านบาท นายยงยุทธ กล่าวว่า ถ้าเขาตกผลึกเมื่อใด ก็เสนอมายังรัฐบาล แต่รัฐบาลก็ทำในส่วนที่เป็นประโยชน์สูงสุด แต่จะไม่มีผลกับที่รัฐบาลได้อนุมัติจ่าย 7.7 ล้านบาทไปแล้ว ส่วนการที่ยังไม่สามารถเริ่มจ่ายเยียวยาได้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามมติคณะรัฐมนตรีนั้น คงเพราะต้องรอทางศาล กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และอัยการตรวจสอบผู้ติดคดีก่อน แต่เราพยายามเร่งรัด เพราะเห็นใจคนที่เดือดร้อนแต่ก็ต้องให้รอบคอบ เพราะเป็นภาษีอากรของประชาชน
 


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์