ตำรวจนำการุณขึ้นสอบสวนบนกองปราบฯ เจ้าตัวบอกไม่ขอประกันตัว

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ปรึกษา (สบ 10)
 
หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมปิดสนามบิน เมื่อปี 2551 กล่าวถึงความคืบหน้าในการจับกุมตัว นายการุณ ใสงาม อดีตแกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ที่จ.บุรีรัมย์ หลังไม่ยอมมามอบตัวตามหมายจับกรณีนำมวลชนเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ระหว่างยกรถและตัวนายการุณ มายังกองปราบปราบ หลังออกจากสภ.ประโคนชัย เมื่อเวลา 08.30 น. ทันทีที่มาถึง ทางพนักงานสอบสวนจะรอให้ลงจากรถเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หากไม่ยินยอมในวันที่14พฤษภาคมจะนำตัวส่งฟ้องศาลแม้อยู่ในรถก็ตาม

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า นายการุณ พยายามขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มาตั้งแต่การนำมวลชนมาล้อม ส่วนกรณีมีรายงานว่ากลุ่มพันธมิตรฯ เตรียมเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือนั้น สามารถกระทำได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย

ด้านนายการุณ เปิดเผยถึงสาเหตุที่ไม่ยอมลงจากรถว่า ไม่รู้ว่าใครเป็นใครที่เข้ามา และเป็นช่วงค่ำแล้วด้วย ทั้งนี้ นายการุณอ้างว่า ถึงลงจากรถก็คงถูกจับและเชื่อว่าต้องไม่ได้รับการประกันตัว

ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดบุรีรัมย์ รายงานว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 12 พฤษภาคม ตำรวจกองปราบปราม 3

ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย  จ.บุรีรัมย์  กว่า 30 นาย ได้ใช้รถยนต์เข้าปิดล้อมจับกุมตัวนายการุณ  ใสงาม อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่บริเวณถนนภักดีดำรง  ม.3 ต.ประโคนชัย  อ.ประโคนชัย  ตามหมายจับคดี 411/2555 (ลงวันที่ 7 มี.ค.55)  กรณีทำลายหรือทำให้เสียหายอย่างร้ายแรงต่อสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยานที่ใช้บริการการบินพลเรือน โดยการนำมวลชนเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่นายการุณ ขับรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ไทเกอร์ แคป สีแดง ทะเบียน บท – 9467 บุรีรัมย์ กลับจากสวนกำลังจะเข้าบ้านตั้งแต่เวลา 20.00 น. ซึ่งจุดที่เจ้าหน้าที่เข้าล้อมจับนายการุณนั้น อยู่ห่างจากบ้านเพียงประมาณ 100 เมตรเท่านั้น 

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้แสดงหมายศาลขอเข้าจับกุมตัว 

นายการุณ กลับไม่ยอมลงจากรถให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวกลับปิดล็อครถไว้แล้วโทรศัพท์หาภรรยา จากนั้นภรรยาก็ได้เดินทางยังจุดเกิดเหตุพร้อมได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอให้นายการุณกลับเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าภายในบ้านก่อนแล้วค่อยเข้าควบคุมตัวแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าต้องทำตามหน้าที่เมื่อแสดงหมายจับแล้วต้องเข้าควบคุมตัวทันที    

ต่อมาเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชนธิปไตยทั้งในพื้นที่อำเภอประโคนชัย และอำเภอใกล้เคียงรวมทั้งจากจ.สุรินทร์ที่ทราบข่าวกว่า 100 คน
 
ก็ได้นำเสื่อ เก้าอี้ มานั่งล้อมรถของนายการุณเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ทำให้สถานการณ์ตึงเครียด ขณะที่นายการุณก็ยังนั่งอยู่ภายในรถด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด จนเวลาผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำรถยกเพื่อที่จะมาลากรถของนายการุณแต่ก็ไม่เป็นผลเนื่องจากนายการุณได้ดึงเบรกมือ ล็อคครัช และใส่เกียร์รถไว้ ขณะที่กลุ่มเครือข่ายพันธมิตรก็ยังคงตรึงกำลังปิดล้อมรถของนายการุณไว้  ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าควบคุมตัวนายการุณได้

กระทั่งผ่านไปนานกว่า 10 ชั่วโมงนายการุณ ก็ยังไม่ยอมลงจากรถให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวตามหมายศาล
 
พร้อมทั้งได้มีกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ กว่า 100 คนมาปิดล้อมรถขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวนายการุณด้วย กระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 13 พฤษภาคม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย จึงได้สนธิกำลังกับตำรวจ สภ.บ้านกรวด  อสภ.นางรอง  และ สภ.พลับพลาชัย รวมกว่า 200 นาย  เข้ากันมวลชนออกจากบริเวณรถของนายการุณ โดยมี พล.ต.ต.รัฐพงษ์  ยิ้มใหญ่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ มาบัญชาการในการปฏิบัติการครั้งนี้ด้วยตนเอง  ซึ่งก็ได้เกิดการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงหรือผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ก่อนที่จะใช้รถยกเข้าทำการลากรถของนายการุณไปยังสถานีตำรวจภูธรประโคนชัย ท่ามกลางเครือข่ายพันธมิตรตามไปให้กำลังใจด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายการุณไปยังกองปราบปราม โดยยกรถนายการุณใส่รถบรรทุกเดินทางไปกองปราบ เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านนายการุณ  ใสงาม กล่าวว่า การเข้าจับกุมครั้งนี้น่าจะเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองจากคนบางกลุ่มเพราะคดีดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว 

ทำไมไม่ดำเนินการจับกุมทั้งๆทั้งตนก็อยู่ในพื้นที่ไม่ได้หลบหนีไปไหน พร้อมยืนยันว่าตนจะไม่ยอมเปิดประตูลงจากรถด้วยตัวเองทั้งที่ สภ.ประโคนชัย และที่กองปราบ โดยทางเจ้าหน้าที่จะใช้วิธีการอย่างไรเพื่อนำตัวตนลงจากรถก็จะต้องไม่ละเมิดสิทธิหรือทำให้ตนได้รับอันตรายส่วนที่จะฟ้องกลับในการเข้าจับกุมตัวในครั้งของเจ้าหน้าที่จะขอดูอีกครั้งว่าจะฟ้องในกรณีไหน

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 19.27 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้งัดรถนายการุณได้แล้ว พร้อมทั้งนำตัวขึ้นไปสอบสวน โดยมีพล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.สอบสวนกลาง เป็นคนสอบสวนที่ห้องประชุมสุรสีห์ กองปราบปราบ

โดยนายการุณกล่าวเพียงสั้นๆว่า ร่างกายก่อนแอนิดหน่อย จะไม่ขอประกันตัวในชั้นสอบสวน ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง