พท.ปัดบ้าน111กดดันปูปรับครม.

พท.ปัดบ้าน111กดดันปูปรับครม.



"พท" ปัด บ้าน 111 กดดัน "ยิ่งลักษณ์" ปรับ ครม. จวก "ปชป." จุดกระแสของแพง หวัง ล้มรัฐบาล
 
อ้างโพล ประชาชนเชื่อมั่น แก้ปัญหาได้ แฉพบ 5 ข้อพิรุธ กทม.ลงนามขยายสัญญาบีทีเอส.ให้อีก 13 ปี จวก "การุณ" ไม่เคารพกฎหมาย ใช้กฎหมู่ "พท." วางกรอบ แก้ไขรธน.วาระ 2 คาดจบ 14 พ.ค. เชื่ออภิปรายงบ 56 เหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจย่อย
วันที่ 13 พ.ค.55  นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงจากกรณีที่มีข่าวว่าสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่จะพ้นโทษในวันที่ 30 พ.ค. นี้ กดดัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ไม่เป็นความจริง เรื่องการกดดันนายกฯนั้น ตนเชื่อว่าไม่มีใครสามารถกดดันได้ เพราะนายกฯเป็นตัวของตัวเองและมีภาวะความเป็นผู้นำสูง รวมทั้งขณะนี้นายกฯก็ยังไม่ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับครม.แต่อย่างใด เพราะต้องแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ปัญหาสังคมอื่นๆ และยาเสพติด ส่วนในอนาคตหากจะมีการปรับครม.ก็เป็นปกติธรรมดา

ส่วนที่มีข่าวว่าสมาชิกบ้านเลขที่ 111 พ้นโทษแล้วจะได้รับตำแหน่งครม.นั้น ขณะนี้เป็นเพียงแค่สีสันและ เป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นขอให้ประชาชนและสื่อใจเย็นๆ การปรับครม.นั้นมีแน่นอน แต่ยังไม่ใช่ช่วงนี้ โดยรัฐบาลจะแถลงผลงานครบรอบ 1 ปีในเดือน ส.ค. แต่จะปรับครม.หรือไม่อยู่ที่นายกฯ ตนเชื่อว่า111 เป็นนักการเมืองคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ บางคนถูกตัดสิทธิการเลือกตั้ง แต่ก็มีกิจกรรมทางการเมืองเป็นบุคลากรที่มีคุณประโยชน์แต่ยังไม่มีการปรับครม.ในช่วงนี้

จวก "ปชป." จุดกระแสของแพง หวัง ล้มรัฐบาล

 โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พรรคเพื่อไทยได้ตั้งคณะกรรมการสี่ภาคขึ้นตรวจสอบปัญหาสินค้าที่มีราคาแพงได้ โดยได้ให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า ได้แก้ไขปัญหามาอย่างถูกต้อง การที่ฝ่ายค้านได้จุดกระแสเรื่องปัญหาของแพงเพื่อเป็นประเด็นทางการเมือง เนื่องจากต้องการล้มรัฐบาล หลังจากที่จุดมาหลายประเด็นแล้ว แต่จุดไม่ติด หรือเรียกว่าจุดแล้วด้าน สร้างวาทกรรมแพงทั้งแผ่นดินในลักษณะที่เป็นข่าวลือ เพราะจากที่คณะกรรมการฯได้ลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าพบว่าราคาสินค้าบางตัวยอมรับว่ามีราคาที่สูงขึ้นจริง เช่น พืชผัก ผลไม้ เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง แต่รัฐบาลได้แก้ไขปัญหามาโดยตลอด โดยนายกฯได้สั่งให้รัฐมนตรีลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด รวมทั้งการควบคุมราคาพลังงานตรึงราคาสินค้าควบคุม นายกฯแก้ไขปัญหาอย่างมืออาชีพ แต่ปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากพ่อค้าคนกลางที่เอาเปรียบประชาชนด้วย


 " ผมเชื่อว่าหากกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจังนั้นปัญหาเหล่านี้จะหมดไปภายใน 3 - 4 เดือน ดังนั้นขอให้ประชาชนอดทน รวมทั้งช่วยแจ้งมายังกระทรวงพาณิชย์และพรรคเพื่อไทย หากพบว่ามีที่ใดขายสินคาแพงไปจากราคาควบคุมเกิน สำหรับกรณีที่รัฐบาลดำเนินการเปิดร้านสหกรณ์ถูกทั้งแผ่นดิน ร้านถูกใจ รวมถึงโครงการราคาสินค้าธงฟ้านั้นประชาชนให้ความสนใจและได้ประโยชน์ พร้อมทั้งรัฐบาลให้ความมั่นใจได้ว่าจะไมมีสินค้าขาดแคลน และในฤดูฝนนี้ก็จะมาถึงทำให้ราคาสสินค้าพืชผักผลไม้มีราคาที่ถูกลง " นายพร้อมพงศ์ 
         
ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยยังได้ทำการสำรวจโพลล์ของประชาชนในช่วงวิกฤตที่มีการกล่าวหาว่าสินค้ามีราคาแพงนั้น พบว่าประชาชนร้อยละ 78 เชื่อมั่นนายกฯว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ และเชื่อมั่นในตัวรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ ร้อยละ 70.5 ซึ่งเป็นการสะท้อนว่ารัฐบาลเห็นว่าการแก้ไขปัญหาสินค้าแพงและเรื่องเศรษฐกิจ เป็นสิ่งสำคัญ ไม่อยากให้ฝ่ายค้านนำไปเป็นประเด็นล้มรัฐบาล และนำไปเป็นประเด็นเพื่อขยายผลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้ขอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ความจำสั้น เพราะสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็มีปัญหาเรื่องไข่ชั่งกิโล และน้ำมันปาล์มที่ขาดตลาดถึงขนาดที่ประชาชนต้องเข้าคิวและชกต่อยแย่งกัน ดังนั้นอยากให้พรรคประชาธิปัตย์นำตัวเลขราคาสินค้าที่แท้จริงมานำเสนอรัฐบาลซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่า
แฉ พบ 5 ข้อพิรุธ กทม. ลงนามขยายสัญญาบีทีเอส.ให้อีก 13 ปี


 นายพร้อมพงศ์ แถลงถึงกรณีที่กทม.ได้มีการขยายสัญญาบริหารรถไฟฟ้าบีทีเอส ออกไป 13 ปี ทั้งที่สัญญาเดิมยังเหลืออีก 17 ปี ว่า การต่อสัญญาดังกล่าว นั้นเป็นที่น่าสงสัยว่าจะมีการเอื้อประโยชน์ให้เอกชน โดยมีการเร่งรีบและเร่งรัดเพื่อดำเนินการก่อนที่ผู้ว่าฯกทม.จะครบวาระในอีก 8 เดือนข้างหน้า ซึ่งไม่มีใครทำกัน โดยเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยตรวจสอบพบข้อพิรุธ 5 ข้อของผู้บริหารกทม. คือ 1.บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด เดิมชื่อ บริษัทสหสามัคคีค้าสัตว์ จำกัด มีกทม.ถือหุ้นอยู่ ร้อยละ 99.8 โดยกรรมการของบริษัทดังกล่าวนั้นมีความเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ และผู้บริหารกทม. โดยเฉพาะกรรมการที่มีอำนาจในการทำสัญญานั้นมีนามสกุลเวชชาชีวะ และยังมีบุคคลที่มีนามสกุลไกรฤกษ์ เป็นคณะกรรมการฯอีกด้วย 2.จากการตรวจสอบ รอบ 5 ปีตั้งแต่ปี 50 - 54 บริษัทมีรายได้ และกำไรสุทธิสูงขึ้นในช่วงท้ายๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าจะมีการชนะการประมูลของกทม.มาโดยตลอด และน่าจะมีการพ่องถ่ายให้กับนอมินี 3.บริษัทดังกล่าวมักจะชนะในการประมูลโครงการรถไฟฟ้าฯ 4. โครงการขน จัดเก็บและจำกัดมูลฝอยติดเชื้อ มีการทำสัญญาก่อนสิ้นปีงบประมาณเพียงวันเดียวและ 5.บริษัทดังกล่าวชนะการประมูล 23 โครงการ ที่มีมูลค่า 14,000 กว่าล้านบาท 
 
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้กทม.ยังได้ถูกกทม.ทักท้วงโครงการสกายวอร์คว่าไม่มีความโปร่งใสอีกด้วย โดยในวันที่ 17 พ.ค.นี้ ตนและนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พร้อมด้วยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.จะดำเนินการยื่นเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ เรื่องดังกล่าว เพราะคิดว่าน่าจะมีวาระซ่อนเร้นและทำให้คนกทม.
 
          " ผมรู้สึกแปลกใจที่ผู้บริหารกทม.เร่งดำเนินการต่อสัญญาและ ขยายสัญญาไปอีก 13 ปี รวมแล้ว 30 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีผู้บริหารท้องถิ่นคนใดที่น่าจะกล้าทำอย่างนี้ เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นทางการเมืองเหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมากล่าวหา และบิดเบือนข้อมูล เพราะกรรมาธิการปปช. มีทั้งตัวแทนของรัฐบาล และฝ่ายค้าน ซึ่งจะต้องทีการตรวจสอบเชิงรุก ตนเชื่อว่าผู้บริหารกทม.น่าจะติดคุกแน่ และจะต้องเร่งดำเนินการตรวจสอยให้เสร็จก่อนที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. คนใหม่ " นายพร้อมพงศ์ กล่าว



จวก "การุณ" ไม่เคารพกฎหมาย ใช้กฎหมู่


 นายพร้อมพงศ์ แถลงถึงกรณีที่นายการุณ ใสงาม แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบดำเนินการจับกุมตามหมายจับในคดียึดสยามบินสุวรรณภูมิ ว่า เป็นการสะท้อนให้เห็นว่านายการุณ ไม่เคยเคารพกระบวนการยุติธรรม ทั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามกฎหมาย อีกทั้งนายการุณก็เป็นนักกฎหมาย เป็นทนายความ เป็นอดีต ส.ว. และยังเป็นแกนนำพันธมิตรฯที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรม แสดงให้เห็นว่า การออกมาเรียกร้องเป็นแค่เกมการเมืองเพื่อล้มรัฐบาลที่ผ่านมาเท่านั้น และยังมีประชาชนที่เป็นคนของนายการุณ ได้ไปล้อมรถ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการปฏิบัติหน้าที่นั้นเป็นการใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย นักเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างนายการุณ ไม่ควรดำเนินการในลักษณะนี้ การปิดสนามบินนั้นทำให้ประเทศชาติเสียหาย เป็นการประจานการทำงานของนักกฎหมายและคนที่เป็นแกนนำพันธมิตรฯ


"เพื่อไทย” วางกรอบ แก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 คาดจบ 14 พ.ค. 


โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า วันที่ 13.พ.ค.  พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมพรรค เพื่อหารือถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 มาตรา 5 เพื่อวางกรอบให้ส.ส.ของพรรค เพื่อไทยและจะขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านดำเนินการอภิปรายอยู่ในกรอบของการแปรญัตติตามวาระ 2 ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาจบในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เพื่อให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาได้พิจารณากรอบสนธิสัญญาอื่นที่ค้างอยู่ประมาณ 8 ฉบับ และเชื่อว่าจะลงมติในวาระ 3 ได้ภายในเดือนพ.ค. ทั้งนี้ถ้ามีการอภิรายนอกกรอบทางพรรคเพื่อไทยจะมีการจัดทีมประท้วง
 
  นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นก็จะเป็นการพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี56 ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจย่อยของพรรคฝ่ายค้านซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าจะตรวจสอบรัฐบาล โดยเพื่อไทยและรัฐบาลมีความพร้อมในการตอบปัญหาทั้งเรื่องสินค้าที่มีราคาแพง เรื่องการทุจริตคอรัปชั่น แต่ขอให้อยู่ในกรอบการพิจาณาของการประชุม


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์