นายกฯเดินตลาดปากเกร็ดสำรวจราคาสินค้า-ปชช.แห่รับ

นายกฯเดินตลาดปากเกร็ดสำรวจราคาสินค้า-ปชช.แห่รับ


นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าและพบปะกับประชาชน พ่อค้า-แม่ค้า ในตลาดสดพิชัย เทศบาลปากเกร็ด จ.นนทบุรี ประชาชน นำกุหลาบแดงมารอต้อนรับ แม่ค้า ยืนยันสินค้าหลายชนิดราคาสูงขึ้น

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางตรวจสอบราคาสินค้า และพบปะกับประชาชน พ่อค้า-แม่ค้า ในตลาดสดพิชัย เทศบาลปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมีประชาชนนำดอกกุหลาบสีชมพูและสีแดง รอรับจำนวนมากจนเต็มพื้นที่ตลาด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ซื้อผัก ไข่ และสินค้าหลายชนิด อีกทั้งได้อวยพรให้ขายดีอีกด้วย ซึ่งจากการสำรวจราคาสินค้าในตลาดสดแล้ว พบว่าราคาสินค้าสูงขึ้นจริง โดยแม่ค้าขายผักได้ยืนยันว่าราคาผักมีราคาสูงขึ้นเกือบเท่าตัว

 โดยเฉพาะถั่วฝักยาว ที่ราคาจากเดิมกิโลกรัมละ 30 บาท ขึ้นราคาเป็น 70 บาท หากถั่วฝักยาวเกรดเอ จะราคาสูงถึง 100 บาทเลยทีเดียว โดยที่ร้านไม่นำถั่วฝักยาวมาขายเนื่องจากราคาสูงมาก ส่วนร้านไข่ไก่ ได้บอกกับ นายกรัฐมนตรี ว่า ราคาไข่ไก่แพงขึ้นจริง แต่เนื่องจากไก่ตายเพราะอากาศร้อนผลผลิตไข่จึงออกมาจำนวนน้อยจึงทำให้ไข่ราคาแพงขึ้นไม่ได้มาจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลแต่อย่างใด

สินค้าตลาดฝั่งธนฯรอบสัปดาห์ขึ้นไม่เกิน5บ.ปชช.ยันแพงจริง

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า ย่านตลาดสดฝั่งธนบุรี โดยเฉพาะในส่วนของ เนื้อหมู และ เนื้อไก่ พบว่า ราคาขายปลีกในตลาดสดส่วนของเนื้อหมูนั้น ราคายังคงทรงตัวจากสัปดาห์ที่ผ่านมา และจากการสอบถามแม่ค้าในตลาด พบว่า ราคาปรับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เกินกิโลกรัมละ 5 บาท ทำให้ ราคาหมูเนื้อแดง ขายอยู่ที่หน้าเขียง กิโลกรัมละ 125 บาท เนื้อหมูสันใน อยู่ที่กิโลกรัมละ 140 บาท ซี่โครงหมู อยู่ที่กิโลกรัมละ 135 บาท และหมูบด อยู่ที่กิโลกรัมละ 70 บาท ขณะที่ ราคาไก่สดในตลาดปรับขึ้นเพียง 5 บาท เช่นกัน ทำให้ราคาเนื้อไก่ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 75 บาท น่องติดสะโพก อยู่ที่กิโลกรัมละ 85-90 บาท ขาไก่อยู่ที่กิโลกรัมละ 65 บาท ในส่วนของปีกบนนั้น อยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท ซึ่งจากการสอบถามประชาชน พบว่าในช่วงนี้ราคาสินค้าเริ่มปรับตัวสูงขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลโดยเร่งด่วน

ขณะที่ ราคาผักสดปรับตัวสูงขึ้นกว่ากิโลกรัมละ 10-15 บาท ซึ่งในส่วนของถั่วฝักยาวนั้น ปรับราคาขึ้นมาสูงที่สุดในจำนวนผักทุกชนิด ทำให้ราคาขายหน้าร้าน อยู่ที่กิโลกรัมละ 50-70 บาท รองลงมาเป็นผักคะน้าฮ่องกง ขายที่กิโลกรัมละ 90-100 บาท แต่ในส่วนของมะนาวนั้น เริ่มปรับราคาลดลง ทำให้มีราคาขายปลีกตั้งแต่ลูกละ 3 บาท ไปจนถึง 8 บาท ซึ่งจากการสอบถามพ่อค้าในตลาดสด พบว่าในช่วงนี้อากาศร้อนขึ้น ทำให้ปริมาณผักออกสู่ตลาดลดน้อยลง จึงทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น แต่ทั้งนี้คงไม่เป็นจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท ต่อวัน เนื่องจาก ได้มีการปรับขึ้นค่าแรงดังกล่าวให้กับลูกจ้างไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งจากการสอบถามประชาชน ยอมรับว่า สินค้าในช่วงนี้ โดยเฉพาะผักสด ปรับราคาขึ้นสูงมาก ทำให้ยากต่อการตัดสินใจในการนำมาประกอบอาหาร


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์