รอยเตอร์วิเคราะห์วิกฤตขับ´ทักษิณ´ ขัดแย้งลึกชนชั้นนำและสู้กันสุดชีวิต

รอยเตอร์วิเคราะห์วิกฤตขับ´ทักษิณ´ ขัดแย้งลึกชนชั้นนำและสู้กันสุดชีวิต

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 มีนาคม 2549 19:58 น.

รอยเตอร์ - สำนักข่าวรอยเตอร์ออกบทวิเคราะห์ วิกฤตการเมืองที่กำลังคุกคามนายกรัฐมนตรีอภิมหาเศรษฐี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รูปแบบภายนอกอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับประชาธิปไตย, เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น, และสังคมที่สะอาดยิ่งขึ้นคอร์รัปชั่นน้อยลง แต่เมื่อเจาะลึกเข้าไปแล้ว มันก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินทองและธุรกิจขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน

รอยเตอร์หยิบยกคำพูดของนายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการสายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ภัทร มาอ้างอิง ซึ่งเขากล่าวว่า การประจันหน้าที่กำลังปรากฏขึ้นมา บ่งชี้ให้เราเห็นว่าเดิมพันในการต่อสู้คราวนี้ มีมากกว่าที่พูดกันมา จุดสำคัญของประเด็นปัญหา ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับวันเลือกตั้ง, การชุมนุมประท้วง, การคว่ำบาตรการเลือกตั้ง, หรือกระทั่งการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ แต่มันเป็นเรื่องการต่อสู้เพื่ออำนาจและความอยู่รอดมากกว่า

สำนักข่าวแห่งนี้บอกว่า ตามความเห็นของพวกนักวิเคราะห์แล้ว โอกาสที่จะประนีประนอมกัน ในเวลานี้เรียกได้ว่าไม่มีเลย เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ และเหล่าปรปักษ์ทางการเมืองของเขา กำลังเล่นเกมชิงความเป็นใหญ่ทางการเมือง ซึ่งมีเดิมพันสูงลิ่ว

"นี่อาจจะเป็นการต่อสู้กันไปจนกว่าจะถึงวาระสุดท้าย" รอยเตอร์อ้างคำพูดของนักวิเคราะห์การเมืองในกรุงเทพฯคนหนึ่งที่ไม่ประสงค์ให้ออกนาม "ถ้าทักษิณแพ้ ก็จะมีการสอบสวนติดตามมาซึ่งอาจนำไปสู่การอายัดทรัพย์สินของเขา ในทางตรงกันข้าม ถ้าเขาชนะ พวกซึ่งรณรงค์ต่อต้านเขาก็ควรต้องคาดหวังว่าจะถูกแก้แค้น"

สำนักข่าวแห่งนี้อ้างคำพูดของนายศุภวุฒิที่บอกว่า การที่ครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ ขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปให้แก่บริษัทเทมาเส็กของรัฐสิงคโปร์ ทำให้ชนชั้นนำรุ่นเก่ารู้สึกว่าถูกคุกคาม ในเมื่อเวลานี้เงินต่างชาติกำลังจับมือกับกลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจที่เป็นมิตรกับทักษิณ

"ชนชั้นนำที่กำลังคัดค้านอยู่เวลานี้ อาจจะขุ่นเคืองไม่เท่าใดนักจากข้อเท็จจริงเรื่องนายกฯทักษิณไม่ชำระภาษี แต่รู้สึกถูกคุกคามมากกว่าจากพันธมิตรที่เกิดขึ้นระหว่างทุนต่างชาติกับกลุ่มทุนใหม่" เขากล่าว

บทวิเคราะห์ชิ้นนี้อธิบายว่า พ.ต.ท.ทักษิณถือเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกซึ่งมาจากภาคเอกชน จากที่ในอดีตผู้นำประเทศมักเป็นข้าราชการพลเรือน, นายพล, หรือทนายความ แถมรัฐบาลของเขาซึ่งโปรธุรกิจและมุ่งเน้นความทันสมัย ก็พยายามสถาปนาสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณเรียกว่า "กระบวนทัศน์ใหม่" ทั้งในทางการเมืองและเศรษฐกิจ

รอยเตอร์ยกตัวอย่างนโยบายที่ พ.ต.ท.ทักษิณดำเนินการ อาทิ การสร้างรัฐบาลที่กระจายอำนาจ, การแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ไร้ประสิทธิภาพ, การสร้างโครงการดูแลสุขภาพราคาถูกและโครงการแจกผลประโยชน์ต่างๆ แก่มวลชน, ตลอดจนการเร่งทำข้อตกลงการค้าเสรีเพื่อดึงดูดเงินลงทุนต่างชาติ

แต่สำนักข่าวนี้ก็ชี้ถึงข้อกล่าวหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ทุนนิยมพวกพ้อง, ผลประโยชน์ทับซ้อน และทุจริตคอร์รัปชั่น จนทำให้ชีวิตในปีที่ 6 แห่งการดำรงตำแหน่งของเขาประสบความลำบากขึ้นทุกที

รอยเตอร์บอกว่า การที่กลุ่มธุรกิจใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามเข้าซื้อหนังสือพิมพ์ไทยซึ่งวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเมื่อปีที่แล้ว แม้ไม่ประสบผล แต่ก็ยิ่งเพิ่มความหวาดวิตกที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังพยายามครอบงำสังคมในทุกระดับ

สำนักข่าวแห่งนี้กล่าวว่า ตัวอย่างความไม่พอใจที่กำลังสั่งสมในหมู่ชนชั้นนำของกรุงเทพฯ เห็นได้จากข้อเขียนของนายชัยอนันต์ สมุทวาณิช อดีตประธาน กฟผ. และเป็นมิตรที่หันกลับมาเป็นปรปักษ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณลาออกและเลิกเล่นการเมือง

ทั้งนี้ นายชัยอนันต์เขียนไว้ว่า "ถ้าเขา (พ.ต.ท.ทักษิณ) ยังคงเล่นการเมืองอยู่ ก็จะเป็นการส่งเสริมให้นายทุนจำนวนมากขึ้นแสวงตำแหน่งในรัฐบาลเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว มีแต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณกระทำตามเงื่อนไข 2 ข้อนี้ ประเทศและสังคมจึงจะปลอดภัย"

ขณะเดียวกัน รอยเตอร์บอกว่า ยังมีคนอื่นๆ ชี้ว่า พวกชนชั้นช่างพูดในกรุงเทพฯไม่เคยยอมรับอย่างแท้จริงต่อความปรารถนาอำนาจของบุรุษผู้ถือกำเนิดจากพ่อแม่ที่เป็นเชื้อสายชาวจีนในเมืองเหนืออย่างเชียงใหม่

บทวิเคราะห์นี้อ้างคำพูดของผู้บริหารทางการเงินผู้หนึ่งที่กล่าวว่า คนจีนส่วนใหญ่ในเมืองไทยนั้น ทราบดีว่าพวกเขาเป็นนักธุรกิจ เป็นชนชั้นพ่อค้า และไม่เคยก้าวล้ำขอบเขตดังกล่าว

แต่ "นายกฯซีอีโอ" ผู้นี้ถูกกล่าวหาว่า มีความรู้สึกชื่นชอบต่อการอวดตัวแบบพวกสร้างฐานะเศรษฐกิจขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

รอยเตอร์บอกว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณมีบทบาทอย่างสูงเด่นในพิธีซึ่งทำกันในวัดพุทธศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว โดยเป็นนายกฯคนเดียวที่เคยทำเช่นนี้ในประวัติศาสตร์ไทย ได้สร้างความขุ่นเคืองในหมู่ชนชั้นนำของกรุงเทพฯ

"มันไม่ใช่เรื่องเงินทองหรอกที่เป็นปัญหา แต่เป็นเรื่องที่คุณต้องรู้ที่ทางของคุณ" สำนักข่าวแห่งนี้อ้างคำพูดของผู้บริหารบริษัทแห่งหนึ่งที่ไม่ประสงค์ให้ระบุชื่อ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์