ตู่-จตุพรแขวะมาร์คเหมือนเด็กแว้น

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง

แถลงถึงกรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย ออกมาเตือนรัฐบาลว่าให้ถอนญัตติปรองดอง ไม่เช่นนั้นจะเกิดสถานการณ์ที่รุนแรงกว่า ปี 2553 ว่า หากสถานการณ์รุนแรงกว่าปี 53 นั่นหมายความว่าจะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นใช่หรือไม่ ที่ผ่านมายังไม่มีการบ่งบอกจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่พยายามเคลื่อนไหว ทั้งขึ้นป้ายคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงการที่ ปชป.เคลื่อนไหวในสภา ที่ทำตัวเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง พอไม่ได้อะไรที่ตามใจก็ประท้วง และโวยวายในสภา เท่านั้นไม่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง จนนำไปสู่การล้มรัฐบาล ขอเพียงแต่กองทัพ อย่าออกมายุ่ง ให้นักการเมือง ประชาชน ดำเนินการกันเอง ขอให้ทหารอยู่ในกองทัพ และขอให้พรรคประชาธิปัตย์ คิดด้วยว่าถ้าไม่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.พรรคมาตุภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่มีวันได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะนายอภิสิทธิ์เป็นผลพวกจากการยึดอำนาจ เป็นเงื่อนไขบันได 4 ขั้น ที่ทำให้นายอภิสิทธิ์ได้เป็นายกฯ

"รวมถึงผลการวิจัยของสถาบันพระปกเกล้าก็เช่นกัน ทั้งที่เดิมที่พรรคประชาธิปัตย์มักจะเห็นไปในทิศทางเดียวกันกับสถาบันพระปกเกล้า แต่พอผลการวินิจฉัยออกมาไม่ได้ดั่งใจ ก็โหวกเหวกโวยวาย เหมือนเด็กแว้น สร้างเรื่องสร้างราวเกินเหตุ ทั้งที่เป็นเพียงผลการศึกษา ยังไม่ได้ระบุว่าจะสามารถทำให้ปรองดองได้หรือไม่" นายจตุพรกล่าว

นายจตุพรกล่าวว่า จะเสนอให้รัฐบาลไทยเข้าเป็นภาคีศาลอาญาระหว่างประเทศโดยสมบูรณ์

เนื่องจากคดีสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 91 ศพนั้นการเดินหน้าของคดีเป็นไปอย่างล่าช้าและเอาผิดกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลที่เป็นคนสั่งการเนื่องจากเจ้าตัวถือสัญชาติอังกฤษซึ่งเป็นภาคีของศาลอาญาระหว่างประเทศได้เพียงคนเดียว แต่ไม่สามารถเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรายอื่นๆ ได้

"ผมไม่ได้อาฆาตแต่วันนี้คนทำผิดก็ยังคงมีพฤติกรรมเคลื่อนไหวก่อกวนทั้งในและนอกสภา โดยทราบว่ากำลังมีความพยายามที่จะนำเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญไปเชื่อมโยงกับกรณีใกล้มีคำตัดสินของศาลโลกในคดีพื้นที่ทับซ้อนบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร มีแนวโน้มจะแพ้คดีทั้งที่ต้นเหตุเกิดจากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ และจะปลุกระดมคนสร้างกระแสชาตินิยมว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยทำให้เสียดินแดน เหมือนที่ผ่านมา แต่มั่นใจว่าลำพังพรรคประชาธิปัตย์ล้มรัฐบาลไม่ได้ แต่ทหารจะต้องไม่ออกมาเคลื่อนไหว"นายจตุพรกล่าว

นายจตุพรกล่าวว่า ส่วนข้อเสนอ พล.ต.สนั่นที่ให้มีการพูดคุยระหว่าง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

โดยในอดีต พล.อ.เปรมเคยหยุดความตายจากสงครามคอมมิวนิสต์ด้วยประกาศ 66/23 วันนี้ถ้าไม่มีความตายเกิดขึ้นอีกก็เป็นเรื่องที่สองผู้ยิ่งใหญ่ของบ้านเมืองน่าจะมีโอกาสได้พูดคุยกัน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ พล.อ.เปรม เพราะอาวุโสกว่าจะให้โอกาส ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเด็กกว่าเชื่อว่าพร้อมที่จะเข้าหา พล.อ.เปรมที่อาวุโสกว่าอยู่แล้ว สำหรับคนเสื้อแดงไม่มีปัญหาเพราะไม่ได้ยึดติดกับความเป็นตัวตนของ พล.อ.เปรม และการพูดคุยกันก็ไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นคู่ขัดแย้งหรือไม่ใช่คู่ขัดแย้งเพราะถ้าจะทำให้เกิดความสงบและไม่เกิดความตายขึ้นอีกก็พร้อมสนับสนุนให้เกิดการพูดคุย และถ้ามีคนกลางก็เป็นเรื่องดี แต่ประเทศเราคนกลางหายากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร