วันนี้ (21 มี.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ
กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ของกรุงเทพมหานคร ตามที่ได้รับการร้องเรียนจากพรรคเพื่อไทยว่า พนักงานสอบสวนได้สรุปรายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) แต่พบหลักฐานส่อว่ามีการจัดซื้ออุปกรณ์บางรายการในราคาแพงกว่าปกติ แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวมีผู้เกี่ยวข้องเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และข้าราชการการเมืองที่เป็นผู้ลงนามเห็นชอบโครงการจัดซื้อ 2 ราย คือรองผู้ว่าฯกทม. ที่ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่ากทม. ซึ่งดีเอสไอไม่มีอำนาจสอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้นจึงได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาไต่สวนต่อไป
ทั้งนี้โครงการจัดซื้อและติดตั้งกล้องซีซีทีวีของกทม.เป็นการดำเนินงานที่ต่อเนื่องกับผู้ว่าฯกทม. 2 สมัย
และมีการลงนามโดยรองผู้ว่าฯกทม. 2 ราย ที่ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าฯกทม. สำหรับโครงการจ้างเหมาติดตั้งกล้องซีซีทีวีแบ่งเป็น 6 โครงการ ราคากล้องไม่มีความแตกต่างจากราคาตลาดคือ 1.กล้องซีซีทีวีแบบ FIX IP Camera พร้อมเลนส์ กทม.จัดซื้อตัวละ 39,400-44,000 บาท 2. กล้องซีซีทีวีแบบ PTZ พร้อมเลนส์ จัดซื้อในราคาตัวละ 147,000- 150,000 บาท 3.อุปกรณ์หุ้มกล้องจัดซื้ออันละ 78,000-79,000 บาท แต่เมื่อตรวจสอบรายการจัดซื้ออุปกรณ์อื่น ๆ เช่น สายไฟและสายเคเบิล พบว่ากทม.จัดซื้อแพงกว่าหน่วยงานอื่น เช่น สายเคเบิลเมนไฟฟ้า ชนิด NYY ขนาด 3Cx4Sq.mm เมตรละ 70 บาท เมืองพัทยาจัดซื้อเมตรละ 40 บาท สายเคเบิลเมนไฟฟ้า ชนิด NYY ขนาด 2Cx10Sq.mm เมตรละ 100 บาท เมืองพัทยาซื้อเมตรละ 30 บาท และสายนำสัญญาณ กทม.ซื้อเมตรละ 40 เมืองพัทยาซื้อเมตรละ 20 บาท.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
