ทหารจี้โกวิทชี้แจงบึ้มกทม. เชื่อมโยงคาร์บอมบ์อย่างไร

"อนุพงษ์" ระบุ


กองทัพส่งทหารพระธรรมนูญร่วมสอบคดีบึ้มกทม. เผย ทหารเป็นแค่ผู้ต้องสงสัยไม่ใช่ผู้ต้องหา ลั่นทหารไม่อยู่เหนือกฎหมาย หากผิดว่าตามกฎหมาย ย้ำ ผบ.ตร.ต้องชี้แจงให้สังคมเข้าใจเหตุบึ้มกทม.เชื่อมโยงกับคดีคาร์บอมบ์อย่างไร


(22มค.) เวลา 10.30 น.


ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช) กล่าวกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญผู้ต้องสงสัยเกี่ยวพันเหตุลอบวางระเบิดในกรุงเทพฯและปริมณฑลรี รวม 9 จุด ช่วงปีใหม่ ว่า

อย่างที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธาน คมช. เรียนแล้วว่าต้องเป็นผู้ที่กระทำความผิดจริงต้องไม่เป็นอย่างที่พวกเราเรียกว่าแพะหรือว่าจับแบบเหวี่ยงแห เพราะจะเกิดการไขว้เขวต่อสังคม

เมื่อถามว่า อำนาจจากกฎอัยการศึกสามารถทำได้ใช่หรือไม่


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นตำรวจได้ประสานมาว่ามีแนวคิดที่จะสืบสวนมาลักษณะนี้ เราก็ประสานงานโดยให้แม่ทัพภาคที่ 1 จัดคนไปร่วมในการที่จะเชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ ทั้งนี้ทหารที่ถูกเชิญตัวไปสอบ ขณะนี้ถูกคุมตัวไว้ในพื้นที่ที่หน่วยสังกัด เช่น กรุงเทพฯ ลพบุรี ซึ่งก็มีหลายส่วน โดยกรุงเทพฯเท่าที่ทราบ คือทัพภาคที่ 1


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า


คมช.ได้ประสานกองทัพภาคที่ 1 โดยจัดทหารพระธรรมนูญที่มีความรู้ความสามารถเข้าไปสอบสวนด้วย และติดตามการสอบสวนอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามระเบียบปกติ เมื่อมีเจ้าหน้าที่ทหารถูกกล่าวหาหรือถูกเชิญตัวไปลักษณะนี้

เราสามารถจัดทหารพระธรรมนูญเข้ารับฟังได้ แต่กรณีที่จะให้เจ้าหน้าที่สอบคู่ขนานนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องมีคณะกรรมการอีกคณะหนึ่งก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ คณะกรรมการยังไม่ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง แต่คงจะมีการดำเนินการเร็วๆนี้


เมื่อถามว่า การที่ทหารเข้าเกี่ยวข้องจะส่งผลกระทบต่อกองทัพหรือไม่


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าทหารเกี่ยวข้องหรือไม่ และยังไม่ใช่ผู้ต้องหาเป็นแค่ผู้ต้องสงสัยเท่านั้น สังคมทหารก็เหมือนกับสังคมอื่น ไม่ได้หมายความว่าคนในกองทัพบกเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด ส่วนจะมีคนผิดหรือไม่ต้องว่ากันตามความจริง ใครผิดด้องมาลงโทษตามกฎหมาย ทหารไม่อยู่เหนือกฎหมาย ไม่ใช่คนเดียวผิดในสังคมทหาร คือ กองทัพบกผิดหมดทั้งกองทัพ มันไม่ใช่ และหากใครนอกแถวหากจับได้มีโทษก็ต้องลงโทษไปตามความผิด


หลายคนเกรงว่ามีการจับผู้ต้องหาเร็วไปเกรงว่าจะเป็นการจับแพะ


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขั้นต้นให้นายทหารพระธรรมนูญเข้าไปดู เพราะเป็นแง่มุมทางกฎหมาย และเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบว่าเป็นอย่างไร และต้องให้สื่อทราบเป็นระยะ เพื่อไม่ให้สังคมเคลือบแคลง

ขณะนี้ตำรวจยังไม่ราย งานความคืบหน้าให้ทราบ ซึ่งวันนี้ตนจะสอบถามไป แต่ไม่ทราบว่าเขาจะมีเวลามาชี้แจงหรือไม่ เพราะเขาต้องไปสรุปคดี แต่ระดับผู้บังคับบัญชาคงต้องมาคุยกัน

มีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าเหตุใดเรื่องคาร์บอมบ์และเหตุระเบิด 9 จุด เชื่อมโยงกัน


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ตำรวจต้องชี้แจงให้สังคมทราบและผู้บังคับบัญชาทหารให้เข้าใจ ถ้าผิดจริงจบไม่มีปัญหา หากไม่ผิดก็ถือว่าไม่ผิด เมื่อถามว่า เชื่อหรือไม่ว่าอาจจะจับแพะเกิดขึ้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่รู้ เรื่องนี้ต้องว่ากันตามหลักฐาน ที่ผ่านมาตำรวจยังไม่ได้จับแค่เชิญมาสอบสวนเท่านั้น


เป็นไปได้หรือไม่ว่าการตรวจสอบ 18 จุด เป็นการหาความคืบหน้าเรื่องคาร์บอมบ์มากกว่าเหตุระเบิด 9 จุด

พล.อ. อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่เห็นจะไปซูม หรือไปคิดเอาเองว่าต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ตนคงทำไม่ได้ มันจะบังเอิญไปเกี่ยวข้องกับคาร์บอมบ์อย่างไร ตนไม่ทราบ ทั้งนี้ต้องดูเนื้อหา ส่วนคดีจะเป็นรูปธรรมเมื่อไร ยังไม้รู้ และไม่สามารถกำหนดเวลาได้

เมื่อถามว่า ประธาน คมช.ฝากอะไรช่วงที่เดินทางไปเยือนต่างประเทศ


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ในเรื่องของกลไกเป็นไปตามปกติ เพราะมีผู้รับผิดชอบอยู่ รวมถึงรัฐบาลก็ช่วยดูอยู่แล้ว ส่วนในกองทัพก็ดำเนินการอย่างเต็มที่ ขณะนี้ไม่มีอะไรน่าหนักใจ แต่ประธาน คมช. ได้ฝากไว้ว่าช่วยดูแลกันนะ ขณะนี้อยู่ในภาวะปกติ จึงยังไม่ได้มีการสั่งการอะไร





ถาม พล.อ.สนธิ กำชับอะไรพิเศษแก่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.เกี่ยวกับคดีหรือไม่


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่รู้ เรื่องนี้ต้องไปถาม ผบ.ตร. เพราะก่อนที่ พล.อ.สนธิ จะขึ้นเครื่องบินไม่ได้คุยเรื่องนี้ แต่ไม่ทราบว่าท่านได้มีคุยกันทางโทรศัพท์หรือไม่

มีความเป็นห่วงเรื่องกลุ่มอำนาจเก่าหรือไม่


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ดูจากสภาพทั่วไปแล้วไม่มีอะไรที่น่ากังวล เมื่อถามว่า ในวันที่ 23 มกราคมนี้ จะมีการประชุม คมช.หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการสั่งการว่าจะให้เลื่อนหรือประชุม ถ้าไม่มีการสั่งการอะไรก็จะประชุมปกติ โดยมีรองประธานคมช.ทำหน้าที่เป็นประธาน

ท่านเชื่อหรือไม่ว่าคดีดังกล่าวจะเป็นการจับแพะ


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่รู้ ๆ จะต้องว่าไปตามหลักฐาน แต่ขณะนี้ตำรวจเพียงเชิญตัวทหารมาสอบแค่นั้น


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์