ลอกคราบ2บริษัทอินเตอร์ วางหมากแม้วกลับไทย


รายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ฮ่องกงชื่อดัง "เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์" เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้คนไทยวงกว้างได้รับรู้ ว่า

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้นำพรรคไทยรักไทย ได้ไปติดต่อขอใช้บริการจากบริษัทนักวิ่งเต้นและสร้างภาพลักษณ์ระดับอินเตอร์ถึง 2 บริษัทด้วยกัน


นั่นคือ บริษัทประชาสัมพันธ์ยักษ์ใหญ่ "เอเดลแมน"


และบริษัทล็อบบี้ยิสต์ หรือ บริษัทนายหน้านักวิ่งเต้น "บาร์เบอร์ กริฟฟิธ แอนด์ โรเจอร์ส" (บีจีอาร์) ซึ่งมีความแนบแน่นยาวนานกับพรรครีพับลิกัน ต้นสังกัดประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้นำสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบัน

บริษัทสัญชาติอเมริกันทั้งสองแห่งนี้ "เขี้ยวลากดิน" ขนาดไหน ถึงได้รับความสนใจจากพ.ต.ท.ทักษิณ มาลองไล่เรียงกันดู..

เริ่มจาก "เอเดลแมน"

ก่อตั้งโดยนายแดเนียล เจ. เอลเดอร์แมน เมื่อประมาณ 50 ปีก่อน ทุกวันนี้มีสำนักงาน 46 แห่ง และมีพนักงานมากกว่า 2,200 คนทั่วโลก เฉพาะในปี 2549 มีรายได้ 299 ล้านเหรียญ (11,960 ล้านบาท) ได้รับรางวัลบริษัทประชาสัมพันธ์ยอดเยี่ยมจากหลายสถาบัน

มีรายชื่อลูกค้าดังๆ ยาวเป็นหางว่าว เช่น

ไฟเซอร์ ผู้ผลิตยาไวอากร้า,

บริษัทขนส่งยูพีเอส,

บริษัทซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ไมโครซอฟท์,

ห้างวอลมาร์ต เจ้าตลาดธุรกิจค้าปลีกสหรัฐ,

ค่ายรถยนต์นิสสัน และบริษัทจีอี เป็นต้น

กลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับลูกค้าของเอเดลแมน มีทั้งบนดินและใต้ดิน

ช่วงต้นปี 2549 หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ แฉว่า


เอเดลแมนอาจอยู่เบื้องหลังแผนการปลุกกระแสใต้ดินให้สังคมอเมริกันต่อต้านการออกกฎหมายบังคับให้ธุรกิจค้าปลีก เช่น "วอลมาร์ต" ต้องมีภาระเสียค่าใช้จ่ายดูแลสุขภาพพนักงานเพิ่มมากขึ้น

เมื่อเรียกเสียงสนับสนุนจากหนังสือพิมพ์ใหญ่ๆ ไม่ได้ ในที่สุดเอเดลแมนจึงใช้วิธี "จ่ายเงิน" ให้กลุ่ม "บล็อกเกอร์" หรือนักเขียนบล็อกข่าวแสดงความเห็นที่มีอิทธิพลในโลกอินเตอร์เน็ต ให้ช่วยกันเขียนบทความต่อต้านกฎหมายฉบับนี้

ข่าวคราวดังกล่าวสร้างแรงสั่นสะเทือนในหมู่บล็อกเกอร์ ซึ่งเป็นสังคมที่คนอเมริกันเคยเชื่อกันว่าทำงานอย่างอิสระและถูกซื้อไม่ได้


นายอลัน แวนเดอร์โมเลน


รองประธานเอเดลแมน ภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาว่าจ้างทางบริษัทดูแลเรื่องภาพลักษณ์และการประชาสัมพันธ์ข้อมูลผ่านสื่อจริง แต่ทำในฐานะชาวบ้านธรรมดา

เป้าหมายของเอเดลแมนก็คือ

ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยได้ในที่สุด

ทางด้าน "บาร์เบอร์ กริฟฟิธ แอนด์ โรเจอร์ส" (บีจีอาร์)


เป็นบริษัทที่นิตยสารธุรกิจการเงิน "ฟอร์บส์" จัดอันดับไว้ ว่า เป็นบริษัทล็อบบี้ยิสต์เพื่อกลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจ-การเมือง ที่ทรงอิทธิพลหมายเลข 1 ของสหรัฐ นับตั้งแต่นายจอร์จ ดับเบิลยู. บุช แกนนำจากพรรครีพับลิกันขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2544

บีจีอาร์

มีสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ก่อตั้งเมื่อปี 2534 จากการผนึกกำลังกันของบุคคล 3 คน นายเฮลีย์ รีฟส์ บาร์เบอร์ นายแลนนี่ กริฟฟิธ นายเอ็ด โรเจอร์ส แต่ละคนมีประสบการณ์ทำงานการเมืองมาอย่างโชกโชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมงานกับพรรครีพับลิกัน โดยบาร์เบอร์เคยช่วยงานรณรงค์หาเสียงให้ประธานาธิบดีนิกสันตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา

ขณะที่กริฟฟิธ กับ โรเจอร์ส


มีบทบาทสูงในทีมงานกฎหมายสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีจอร์จ บุช ผู้พ่อ ส่วนบาร์เบอร์นั้นมีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการพรรครีพับลิกันแห่งชาติ (อาร์เอ็นซี) และผู้ว่าการรัฐมิสซิสซิปปี้ หนึ่งในลูกค้าสำคัญของบีจีอาร์ คือ "อุตสาหกรรมยาสูบสหรัฐ"


กำลังภายในของบาร์เบอร์และบีจีอาร์


ถึงขนาดเคยทำให้รัฐมิสซิสซิปปี้ ต้องยกเลิกการเก็บเงินอุดหนุน "โครงการป้องกันไม่ให้เยาวชนสูบบุหรี่" จากอุตสาหกรรมยาสูบมาแล้ว

นอกจากนั้น ลูกค้าใหญ่ๆ ของบีจีอาร์ยังมีอีกมาก ทั้งอุตสาหกรรมอาวุธ ธุรกิจสุขภาพ สถาบันการเงิน คอมพิวเตอร์ ฯลฯ


นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีต่างประเทศ


ระบุว่า ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณติดต่อขอใช้บริการล็อบบี้ยิสต์แห่งนี้มา 2-3 เดือนแล้ว แต่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ รีบออกมาโต้เร็วจี๋ว่า ไม่มีการว่าจ้างเกิดขึ้น พ.ต.ท.ทักษิณเพียงแค่บังเอิญไปพบ "เพื่อนเก่า" ที่เป็นผู้บริหารบริษัทนี้ขณะอยู่ในฮ่องกงเท่านั้น

ขณะที่อีกกระแสข่าวแพร่สะพัดไปทั่วว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีแผนจะใช้บีจีอาร์ไปล็อบบี้ให้รัฐบาลบุชช่วยเจรจาให้ "รัฐบาลขิงแก่" อ้าแขนรับตนกลับเข้าเมืองไทย!?!


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์