ธรรมรักษ์ โต้ เทพเทือก ปัดหนุนพรรคเล็กส่งผู้สมัครภาคใต้

ธรรมรักษ์ โต้ เทพเทือก ปัดหนุนพรรคเล็กส่งผู้สมัครภาคใต้

พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 มีนาคม 2549 12:58 น.

พล.อ.ธรรมรักษ์ รับห่วงม็อบชนกัน สั่งเจ้าหน้าที่เจรจาวอนคนรัก แม้ว อย่าเคลื่อนขบวน จวกสื่อชอบสร้างข่าว-ยุแหย่ให้สถานการณ์รุนแรง ปัดข้อหา เทพเทือก ไม่ได้อยู่เบื้องหลังหนุนพรรคเล็กส่งผู้สมัครในเขตภาคใต้ แขวะ ปชป.กลัวเกินเหตุ ยันดูแลอีสานไม่เคยข้ามถิ่นภาคอื่น

วันนี้ (17 มี.ค.) พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความวุ่นวายของบ้านเมืองขณะนี้ยังไม่มีท่าทีตอบรับคำกล่าวของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ให้ทุกฝ่ายเร่งทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุขว่า พูดมา 3 เดือนแล้วว่าเป็นห่วงม็อบจะชนกัน ในส่วนของสื่อมวลชนก็ต้องไม่เขียนข่าวยุแหย่ให้ม็อบตีกัน ต้องขอความร่วมมือกับสื่อ ต้องพยายามทำให้เบาหน่อย สื่อชอบลงแรงๆ มันก็แรง

ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วง เพราะม็อบที่ชุมนุมกันอยู่ที่สวนจตุจักรก็จะเคลื่อนขบวนไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปหารือ ดึงเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนย้ายขบวน รักษาการ รมว.กลาโหม กล่าว

นอกจากนี้ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พล.อ.ธรรมรักษ์เป็นบุคคลหนึ่งที่มีส่วนในการประสานให้พรรคเล็กพรรคน้อยส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า ตนดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสาน ไม่เกี่ยวข้องกับภาคใต้หรือภาคอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็ลงพื้นที่ภาคอีสานมาตลอด อย่างไรก็ตาม ที่พรรคประชาธิปัตย์มีความกังวลอาจจะเป็นตนเคยรับราชการในจังหวัดดังกล่าว

ก็มีพวกหน้าม้ามาเสนอเยอะแยะ ผมก็บอกไปว่าผมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้หรอก ผมดูแลภาคอีสาน แต่ก็มีคนไปรับอาสาจากผู้สมัคร แต่ไม่เกี่ยวข้องกับผม หรืออาจจะเป็นกรณีของไพฑูรย์ วงศ์วานิช เป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกับผม แต่ไม่ได้เจอตัว เขาบอกให้ช่วยสนับสนุนหน่อย ผมก็บอกถ้าลื้อสมัครได้ เราจะแจ้งรุ่นให้ เพราะผมเป็นประธานรุ่น ให้รุ่นเขาช่วยดูแลให้ รายนี้แหละรู้สึกเขากังวลมาก อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงไม่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน เพราะผมไม่ได้ทำอะไร ผมยังไม่รู้เลยว่าหัวหน้าพรรคพวกนั้นมีใครบ้าง ไม่รู้จักสักคน พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าว

ผู้สื่อถามว่าจะฟ้องร้องนายสุเทพที่กล่าวหาหรือไม่ พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า ยังไม่อยากยุ่งกับนายุสเทพ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงการเลือกตั้ง รอให้การเลือกตั้งเสร็จเสียก่อนจะเดินทางไปที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

พล.อ.ธรรมรักษ์ ยังเปิดเผยถึงความมั่นใจในส่วนของผู้สมัครที่ส่งลงรับเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสาน กรณีที่ขณะนี้หลายพื้นที่พรรคไทยรักไทยอาจจะได้รับคะแนนเสียงไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ว่า ผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นอดีต ส.ส.ทั้ง 126 เสียง จากจำนวน ส.ส.ทั้งหมดในภาคอีสาน 136 เสียง ซึ่ง 10 เสียงที่อดีตผู้สมัครของพรรคไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎรนั้นมีคะแนนแพ้คู่แข่งไม่มาก 300 กว่าคะแนนบ้าง 900 กว่าคะแนนบ้าง เชื่อว่าจะได้คะแนนเสียงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนจะทุกเขตหรือไม่ต้องรอดูคู่แข่งให้ชัดเจนก่อน

ส่วนในภาคอื่นๆ รวมทั้งภาคใต้จะได้คะแนนเสียงถึง 20 เปอร์เซ็นต์หรือไม่นั้น พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า ประธานภาคที่รับผิดชอบดูแลอยู่ อย่างไรก็ตาม จะต้องพยายามประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากๆ

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการร้องเรียนว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แก้ไขฐานข้อมูลของผู้สมัครบางคน พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า เป็นข้อกล่าวหา ตนไม่ทราบ ขนาดที่ กกต.ยังไม่เคยไปเลย

ทรท.ฟ้อง เทพเทือก ซัด 3 ข้อหาหนัก ขู่ถึงขั้นยุบพรรค

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 มีนาคม 2549 13:24 น.

พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล สั่งฝ่าย กม.ฟ้อง สุเทพ อ้างปกป้องสิทธิ หลังถูกกล่าวหาบงการพรรคเล็กส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งในภาคใต้ รับคำท้าซัด 3 ข้อหาหนักหมิ่นประมาท-ใส่ร้าย-ปฎิปักษ์ระบอบ ปชต. ขู่มีสิทธิ์ถึงขั้นยุบพรรค แถมพ่วง 3 ส.ว. มนูญกฤต-เจิมศักดิ์-พิเชฐ เข้าคุกฐานปราศรัยใส่ร้าย ด้าน หมอมิ้ง เชื่อเป็นแผนดิสเครดิต ยันบริสุทธิ์

วันนี้ (17 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.15 น. ที่พรรคไทยรักไทย ถ.เพชรบุรี นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รองเลขาธิการพรรค ร่วมกับฝ่ายกฎหมายของพรรค แถลงข่าวตอบโต้ข้อกล่าวหาของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองหัวหน้าพรรค นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รองเลขาธิการพรรค และนายพงษ์ศักดิ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับบังคับให้พรรคเล็กส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงแข่งกับพรรคไทยรักไทย นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ขอปฏิเสธเรื่องดังกล่าว ปัจจุบันการกล่าวหาเกิดขึ้นทุกวัน ซึ่งกว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาจะมีโอกาสออกมาขี้แจงก็เป็นเวลานาน จึงอยากให้สื่อและผู้ที่ได้รับฟังพิจารณาให้ดี โดยขณะนี้กำลังให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการฟ้องร้องเพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง ส่วนตัวก็ได้สอบถาม พล.อ.ธรรมรักษ์ และ นพ.พรหมินทร์ ก็ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

ส่วน นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การที่นายสุเทพออกมาท้าให้ฟ้องนั้น สะท้อนให้เห็นว่าได้ทำผิดกฎหมายอย่างจงใจ ซึ่งถ้าเราจะฟ้องกลับอย่างน้อยก็มีถึง 3 คดีด้วยกัน คือ 1.หมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 328 2.ทำผิดฐานใส่ร้ายบุคคลอื่นและพรรคไทยรักไทยให้เสียหายผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.มาตรา 44 และ 3.เข้าข่ายทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยผิดกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 66 ความผิดถึงขั้นยุบพรรค นอกจากนี้ ฝ่ายกฎหมายยังได้รับการร้องเรียนจากผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในภาคใต้ว่าถูกคนของพรรคประชาธิปัตย์ข่มขู่ไม่ให้หาเสียง ทั้งยังบีบให้ถอนตัวจากการเลือกตั้ง เรื่องนี้ไม่ต้องมาท้า เราจะยื่นฟ้องแน่ จึงขอให้พรรคประชาธิปัตย์เตรียมรับหมายศาลได้ในสัปดาห์หน้า

ด้าน นายประสพ บุษราคัม ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า จะเดินทางไปฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีตประธานวุฒิสภา นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ว.กทม. และนายพิเชฐ พัฒนโชติ ส.ว.นครราชสีมา ตามกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 44 ข้อหาใส่ร้ายด้วยความเท็จ ความผิดถึงขั้นติดคุก และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี เพราะคำพูดแทบทุกคำบนเวทีข้างทำเนียบเข้าข่ายจะถูกฟ้องร้องได้ ซึ่งหลังจากนี้หากใครพูดใส่ร้ายพรรคทำให้เสียหายเราจะฟ้องร้องทั้งหมด วันนี้ประชาธิปไตยจะกลายเป็นบาทาธิปไตยไปหมดแล้ว จะเกือบอันธพาลครองเมืองในอนาคต จึงอยากให้ทุกฝ่ายอย่าทำให้บ้านเมืองบอบช้ำมากกว่านี้ ขอให้ช่วยกันรักษาประชาธิปไตยที่อุตส่าห์แลกมาด้วยเลือดเนื้อและน้ำตา

ขณะที่ นพ.พรหมินทร์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมหลักฐานการแถลงข่าวและคำให้สัมภาษณ์ของนายสุเทพ และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมดว่าพาดพิงถึงตนและพรรคอย่างไรบ้าง แต่ถ้าพูดเช่นนั้นต้องฟ้องร้องอย่างแน่นอน เพราะไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ขนาดผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคบางคนตนยังไม่รู้จักชื่อเลยด้วย แล้วจะไปยุ่งเกี่ยวกับพรรคอื่นได้อย่างไร ยิ่งการที่บอกว่าคนใกล้ชิดของตนเป็นคนจ่ายเงินนั้น ขอให้ระบุชัดเจนเลยว่าหมายถึงใคร เพราะคนใกล้ชิดมีมากมาย รวมถึงที่พูดถึงเรื่องสถานที่ ค่าใช้จ่าย ก็ไปกันใหญ่ อะไรก็ไม่รู้ ไม่เป็นความจริง เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน เชื่อว่าทั้งหมดนี้น่าจะเป็นแผนดิสเครดิตทำลายกัน โดยเห็นว่าวันนี้ตนอาจมีภาพลักษณ์ มีบทบาทที่ดูสะอาด จึงอยากทำให้เปื้อน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์