เมื่อ 9 ก.พ. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
กล่าวถึงกรณีสถานการณ์น้ำเอ่อจากแม่น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน ที่จ.พระนครศรีอยุธยา นั้น ว่า เรื่องนี้ตนเคยบอกแล้วว่าเขื่อนที่เก็บน้ำไว้ผลิตกระแสไฟฟ้ามากเกินไปควรจะปล่อยน้ำออกมาบ้าง ดังนั้นการไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กฟผ.) จึงปล่อยน้ำออกจากเขื่อน โดยไม่ประสานกับกรมชลประทาน เมื่อกรมชลประธานเห็นว่าน้ำมีบริมาณมากเกินไป จึงเร่งปล่อยน้ำและไม่ประสานไปยังจังหวัด จึงเกิดสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง ซึ่งเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี ไม่พอใจเป็นอย่างมาก และได้ตำหนิ ทางกฟผ. กรมชลประทาน
"การระบายน้ำ จะต้องมีหลักคิดว่าจะต้องระบายเท่าใด ทุนเดิมมีอยู่เท่าใด และต้องลดลงให้เหลือเท่าใด ก่อนที่จะมีน้ำมาเติมในเขื่อนอีก ดังนั้นทุกหน่วยงานจะต้องประสานกัน เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนหรือตกใจ โดยนายกฯ ได้กำชับว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก” นายยงยุทธ กล่าว
ส่วนกรณีการปล่อนน้ำมาซึ่งไม่ท่วมจังหวัดต้นน้ำ แต่กลับท่วมจ.พระนครศรีอยุธยาเพียงจังหวัดเดียวนั้น
นายยงยุทธ กล่าวว่า พื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่ราบลุ่มอยู่แล้ว จึงเกิดเหตุการน้ำล้นตลิ่งได้ง่าย เมื่อถามว่าเหตุน้ำล้นตลิ่งเพราะแม่น้ำตื่นเขิน เนื่องจากน้ำท่วมที่ผ่านมา ทำให้ดินชายฝั่งพังลงในแม่น้ำ ดังนั้นจะมีการขุดลอกคูคลอง ควบคู่กับกทม. หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า นอกจากขุดลอกคูคลองแล้ว ทางจังหวัดจะต้องเร่งซ่อมแซมผนังกั้นน้ำที่ผังทะลายลงในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา ซึ่งในบางจังหวัดจะต้องรองบประมาณก่อน โดยในวันที่ 13-17 กุมภาพันธ์ นี้ ในการทัวร์นกขมิ้น ก็จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบ ตั้งแต่จังหวัด ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ว่ามีปัญหาอย่างไร และจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
