ชูวิทย์ลั่นพร้อมลาออก-ยุบพรรค

ชูวิทย์ลั่นพร้อมลาออก-ยุบพรรค

ที่รัฐสภา วันที่ 8 ก.พ.  นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย

กล่าวถึงกรณีที่นำคลิปวิดีโอการสนทนาถึงการผลักดันโครงการสร้างถนนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ของนายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย และอดีตเลขาธิการพรรคออกมาเปิดเผยว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องการเมือง ตนเป็นคนไม่ชอบเล่นการเมือง ตนและนายชัยวัฒน์เป็นเพื่อนกันมาแต่ตอนนี้มีอุดมการณ์ที่ขัดแย้งกัน เปรียบเหมือนนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแลคณะรัฐมนตรี หากคนในคณะรัฐมนตรีทำไม่ดีไปสมรู้ร่วมคิดก็เหมือนพายเรือให้โจรนั่ง สถานการณ์ตอนนี้ของนายชัยวัฒน์เหมือนกับตนเป็นเจ้าอาวาสแล้วนายชัยวัฒน์เป็นพระในวัด หากพระมาบอกกับเจ้าอาวาสว่าจะเอาเด็กอายุ 15 มาข่มขืน ตนก็ต้องออกมาเปิดเผยความจริง

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายชัยวัฒน์ออกมาปฎิเสธคลิปดังกล่าวว่าไม่ใช่ของจริงและมีการตัดต่อนั้น คลิปดังกล่าวมีความยาวถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที
 
สามารถเปิดฉายในโรงหนังเป็นภาพยนตร์ได้เรื่องหนึ่งเลย คลิปที่ตนเอามาเปิดนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น หากตนเปิดคลิปชุดเต็มรับรองว่ายิ่งเปิดนายชัยวัฒน์จะยิ่งตาย ถ้าบอกว่าเป็นการตัดต่อก็ไม่เป็นไรเพราะตนส่งคลิปฉบับเต็มให้กับปปช.เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้ว ค่อยดูข้อเท็จจริงกันในศาล

            
นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า สถานะความเป็นเพื่อนกับสถานะความเป็นหัวหน้าพรรคนั้นจะต้องแยกออกจากกัน ต้องแยกแยะให้ถูกต้อง

ตนไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัว กรณีของนายโปรดปราน โต๊ะราหนี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย ก็ขอให้ระวังให้ดี เพราะตนยังมีคลิปอีกชุดหนึ่งที่เป็นของนายโปรดปราน อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่า หากพรรคจะถูกยุบตนก็จะเป็นผู้ยุบพรรคเอง ระบบพรรคการเมืองของประเทศไทยเป็นระบบที่เฮงซวย เป็นระบบพวกมากลากไป ถ้าคนไทยต้องการระบบแบบนี้ตนก็จะขอลาออก เพราะตนคงรับไม่ได้กับการที่เอางบประมาณไปลงไว้ที่จังหวัดบ้านตัวเองทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง ทั้งนี้หากตนไม่เล่นการเมืองทั้ง 2 คนก็คงไม่สามารถเข้ามาในสภาฯ ได้ คนหนึ่งคงกลับไปเย็บมุ้งขาย ส่วนอีกคนคงกลับไปขายโรตี


"เฉลิม"หาช่องฟ้องหมิ่นประมาท"ชูวิทย์"

            
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนดีใจอย่างยิ่งที่นายชูวิทย์วิจารณ์ตน เพราะที่ผ่านมาทั้งนักการเมืองและสื่อเข้าใจว่าตนรู้กันกับนายชูวิทย์ เวลานายชูวิทย์ทำอะไรก็กระแนะกระแหนว่าตนอยู่เบื้องหลัง พอนายชูวิทย์ออกมาวิจารณ์ตนก็ไม่โกรธดีใจและถูกใจ ก็จะทำให้รู้ว่าตนและนายชูวิทย์ไม่ได้ซัมติ้งลองไม่ได้มีนิติสัมพันธ์อย่างที่เข้าใจกัน

            
"ทั้งนี้การวิจารณ์ก็เป็นเรื่องดีทำให้ผมรู้และตรวจสอบ ถ้าตรวจสอบแล้วไม่จริงผมก็รับฟังไม่ได้ อย่างตอนนี้ผู้กำกับสน.สายไหมยืนฟ้องนายชูวิทย์สองข้อหา คือ หมิ่นประมาทและดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และการที่นายชูวิทย์พูดจาวกวนแขวะไปแขวะมาผมก็ให้ฝ่ายกฎหมายดูว่าตรงไหนเข้าข่ายผิดกฎหมาย ถ้าเข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะยื่นฟ้องฐานหมิ่นประมาทต่อไป" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์