ครม.เงา เรียกร้องรัฐบาลชัดเจนการระบายน้ำในเขื่อน หลังพบปริมาณน้ำ 2 เขื่อนใหญ่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
หวั่นน้ำจะท่วมซ้ำหนัก ขณะเดียวกัน ยังเดินหน้าตรวจสอบการจ่ายเงินชดเชย เหตุมีความพยายามขยายฐานช่วยพวกตัวเองที่น้ำไม่ท่วม และ 2 มาตรฐาน ไม่ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมใต้
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (เงา)
แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเงาของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ครม.เงาได้ติดตามการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนของรัฐบาล เพราะประชาชนกังวลมากว่า น้ำจะท่วมซ้ำ เนื่องจากฝนตกมาเร็วกว่าปกติ และรัฐบาลยังไม่มีแผนชัดเจน
นายสาทิตย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 31 ม.ค.
พบว่ามีปริมาณน้ำสูงมาก เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีที่แล้ว โดยนายกรัฐมนตรีบอกให้เร่งระบายน้ำ แต่กรมชลประทานกลับบอกว่า มีแผนระบายน้ำในเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม และเมษายน จึงต้องการถามว่า รัฐบาลมีความชัดเจนในการระบายน้ำในเขื่อนอย่างไร เพราะถ้าการระบายน้ำไม่เป็นไปตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม เกรงว่าน้ำที่จะท่วมจะหนักกว่าปี 2554
“ครม.เงา ยังเห็นว่ามีความขัดแย้งภายในคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ที่มีแต่แผนการขอใช้งบประมาณ แต่ไม่มีรายละเอียดว่า จะใช้งบประมาณไปทำอะไร และป้องกันน้ำท่วมได้อย่างไร” นายสาทิตย์ กล่าว
นอกจากนี้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ครม.เงายังติดตามการอนุมัติเงินเยียวยา และช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ ครม.อนุมัติงบฯ 5,000 ล้านบาท
กำหนดเวลาจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 45-60 วัน ซึ่งขณะนี้เลยกำหนดมาแล้ว โดยพบว่าที่เกิดความล่าช้า เพราะมีความพยายามในการขยายฐานไปในพื้นที่พรรคพวกตัวเองที่น้ำไม่ท่วม และการจ่ายเงินในบางพื้นที่ ก็ต้องรอบุคคล ซึ่งเป็นนักการเมืองของรัฐบาลไปจ่าย แต่กลับมีความพยายามหยิบยกประเด็นความล่าช้ามาโจมตี กทม. เพื่อหลังผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในสมัยหน้า ดังนั้น อย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นการเมือง และเร่งจ่ายเงินชดเชย
“เรื่องใหญ่ที่ต้องการจะเรียกร้องคือ กรณีน้ำท่วมภาคใต้ต้นปี 2555 เฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช 50,000 กว่าครัวเรือน ยังไม่รวมในงบประมาณที่รัฐบาลเยียวยา 5,000 บาท ซึ่งได้พยายามขอ แต่รัฐบาลยังไม่อนุมัติ สิ่งที่คนในพื้นที่ไม่เข้าใจคือ ทำไมน้ำท่วมภาคใต้ จึงไม่ได้รับเงินเยียวยาเหมือนจังหวัดอื่น ทั้งที่ส่งเรื่องไปกระทรวงมหาดไทยนานแล้ว ขณะเดียวกัน มีบ้านพังทั้งหลังประมาณ 30 หลัง ซึ่งรัฐบาลที่แล้ววางเกณฑ์ไว้ว่า จะให้เงินจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยช่วยเหลือ หลังละ 240,000 บาท และรัฐบาลก็บอกว่า จะช่วยกรณีบ้านพังทั้งหลังในจำนวนเงินเท่านี้ แต่ในกรณีภาคใต้ที่น้ำท่วม เมื่อต้นปี ขอเงินหลังละ 240,000 บาท รัฐบาลนี้ปฏิเสธ คำถามคือ รัฐบาลกำลังใช้เหตุผลการเมืองในการตัดสินใจ และเป็น 2 มาตรฐานในการตัดสินใจต่อกรณีช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วมหรือไม่” นายสาทิตย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
