“ยงยุทธ” เร่งทุกส่วนที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหายาเสพติด

“ยงยุทธ” ย้ำทุกส่วนราชการร่วมกันดูแลและป้องกันปัญหายาเสพติด ยืนยันกระทรวงมหาดไทยพร้อมสนับสนุน
 
เตรียมประสานองค์กรปกครองท้องถิ่นสนับสนุนการฟื้นฟู-เยียวยาผู้เสพ ด้าน “พระนาย” กำชับผู้ว่าฯ-นายอำเภอ เร่งดำเนินการปราบปรามยาเสพติด และทำเอ็มโอยูร่วมหน่วยงานอื่น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเกิดขึ้นอย่างจริงจัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายของการประชุมเร่งรัดการดำเนินงาน สร้างพลังสังคม และพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติดในระดับพื้นที่ (ภาคกลาง)

เพื่อกระตุ้นเตือนให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด ปฏิบัติไปตามนโยบายและแนวทางอย่างเป็นรูปธรรมตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดปี 2555 ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน จ.ชลบุรี

นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายและข้อสั่งการช่วงการประชุม ว่า ข้อมูลปัญหายาเสพติดที่ได้รับ
 
ชี้ให้เห็นว่ายังมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดอยู่มากในหลายพื้นที่ การค้าและการแพร่ระบาดยังมีอยู่ทั่วไป ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอต้องเร่งรัดดำเนินงานตลอดทั้งปี หากพบความบกพร่องในการปฏิบัติ ให้ดำเนินการตามระเบียบที่กำหนดไว้โดยกระทรวงมหาดไทยจะเข้าไปสนับสนุนอย่างเต็มที่  จึงขอให้แต่ละจังหวัดดำเนินการตามแผนได้ทันที ทั้งในเรื่องของการเฝ้าระวัง ป้องกันปราบปราม รวมถึงการบำบัดรักษา ส่วนการลงนามร่วมกันในบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) เพื่อการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง  ขอให้จังหวัดได้จัดทำบันทึกข้อตกลงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดกับนายอำเภอ และในส่วนของอำเภอกับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองท้องถิ่น เพื่อเป็นคำมั่นในการแก้ปัญหายาเสพติดต่อไป

“ยงยุทธ” เร่งทุกส่วนที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหายาเสพติด

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อประเทศ 

การดูแลป้องกันปัญหายาเสพติด มีการเว้นช่วงในการเข้มงวดอย่างจริงจังมาระยะหนึ่ง หลังสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และยังไม่มีรัฐบาลชุดไหนแก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จทั้งหมด  ดังนั้นบทบาทการทำงานแก้ปัญหาที่สำคัญ ต้องอาศัยกลไกของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น และตำรวจในพื้นที่ เพราะไม่เชื่อว่าผู้นำชุมชนจะไม่รู้ปัญหา และหากร่วมกันทำงาน ปัญหายาเสพติดจะคลี่คลายลง ทั้งนี้ ในการทำงานคงไม่สามารถกำหนดเป็นแผนงานตายตัวได้ทั้งหมด แต่ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ นายตำรวจในพื้นที่ ช่วยกันพิจารณากำหนดทิศทาง

“ปัญหายาเสพติด เป็นพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยต้องรับไปปฏิบัติ เพื่อเร่งแก้ปัญหาให้หมดไป อยากเห็นภาพการทำงานระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดกับผู้บังคับการตำรวจและนายอำเภอร่วมกับผู้กำกับตำรวจ จับมือทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการ มั่นใจว่าภายใน 1 ปี ปัญหายาเสพติดจะเห็นชัดเจนมากขึ้น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า ในสังคมที่เจริญ ปัญหายาเสพติดก็เพิ่มการระบาดมากขึ้นด้วย เหมือนกับในต่างประเทศ
 
ที่ความเจริญจะเข้ามาพร้อมยาเสพติด ดังนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องลดความรุนแรงและปราบปรามให้หมดสิ้นโดยเร็ว ซึ่งอยากฝากความหวังและความร่วมมือไว้กับทุกฝ่าย ในการทำงานอย่างรับผิดชอบ และคาดหวังว่าประชาชนจะปลอดภัยจากปัญหายาเสพติดมากขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยจะเข้ามาสนับสนุน ทั้งในเรื่องการป้องกันและปราบปราม และในฐานะที่ดูแลองค์กรปกครองของท้องถิ่นด้วย จะประสานเพื่อให้เข้ามาสนับสนุน ฟื้นฟู  และเยียวยาผู้เสพยาเสพติด โดยแต่ละท้องถิ่นจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวตลอดจนจัดหาบุคลากรเข้ามาทำงานอย่างพร้อมเพรียง

ขณะที่ นายประชา เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า

อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดดำเนินการในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะตามชุมชน โรงงาน สถานบันเทิง และสถานศึกษาในพื้นที่ เพื่อให้พื้นที่เหล่านี้ปราศจากยาเสพติด และเป็นพื้นที่สีขาวทั้งหมดทั่วประเทศโดยเร็ว  ทั้งนี้ ในการทำงานแก้ปัญหา ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ จะต้องประสานงานบูรณาการร่วมกับฝ่ายตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การควบคุมป้องกันยาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และปราบปรามอย่างเด็ดขาด  ทั้งนี้ จะต้องเฝ้าระวังป้องกันตามจุดเสี่ยงและล่อแหลมต่อการระบาดยาเสพติด ทั้งตามสถานศึกษา สถานบันเทิง และตามโรงงานต่าง ๆ ต้องมีการจัดเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบตลอดเวลา ทั้งนี้ มั่นใจว่าหากผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ลงพื้นที่ทำงานด้วยตัวเอง จะเห็นผลการทำงานออกมาใน 6 เดือน ทั้งนี้ทางกระทรวงจะมีการประเมินผลการทำงานด้วย

ด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ต้องเร่งรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการสร้างพลังชุมชนป้องกันยาเสพติด

ขณะที่การทำงานของเจ้าหน้าที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของยาเสพติด โดยตำรวจจะต้องไม่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งทาง ผบ.ตร.ได้อนุมัติโครงการตรวจสอบกำลังพลไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยใช้เครื่องตรวจสอบสารเสพติดกับตำรวจที่ดูแลด้านยาเสพติดทุกนาย นอกจากนี้จะมีแผนรณรงค์ โดยนำแบบอย่างมาจากสหรัฐฯ มาปฏิบัติใช้ในการป้องกัน โดยเฉพาะกับนักเรียนกลุ่มเสี่ยงชั้น ม.6  และจะสอนทักษะในการหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง ป้องกันการทะเลาะวิวาทในหมู่นักศึกษาด้วย  นอกจากนี้จะต้องดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจังในทุกพื้นที่ มีการตรวจสอบรื้อค้นในทุกเรือนจำทั่วประเทศอย่างน้อยเดือนละ 1ครั้ง

นพ.อภิชัย มงคล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าปัญหายาเสพติดมีการระบาดในหลายระดับ ไม่เพียงเฉพาะยาบ้าที่ระบาดตามชุมชนเท่านั้น
 
แม้แต่ในสังคมชั้นสูง ก็มีการระบาดของยาไอซ์ เนื่องจากติดได้ง่ายและมีโทษรุนแรงกว่า  เช่น เสก โลโซ ก็เสพยาไอซ์ ดังนั้นจากดูแลป้องกัน จะต้องมีการวางแผนให้รัดกุมเพื่อป้องกันการระบาดในทุกระดับชั้น ส่วนการบำบัดรักษาก็จะมีการตั้งศูนย์ระดับอำเภอ เพื่อบำบัดผู้เสพยาให้กลับคืนสู่สังคม

นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า นอกจากเจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมยาเสพติดหรือยาบ้าได้จำนวนมากแล้ว

ในการจับกุมแต่ละครั้ง ก็พบยาไอซ์ปะปนมาด้วย และมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอยู่ตลอด จากรายงานทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติด มีการชวนเชื่อให้ผู้เสพหันมาใช้ยาไอซ์มากขึ้น โดยอ้างมีคุณภาพที่ดีกว่า ทั้งนี้ในการจัดตั้งศูนย์บำบัดในแต่ละอำเภอขอให้เลือกอำเภอที่เป็นต้นแบบ เพื่อให้อำเภออื่นๆ นำไปปฏิบัติใช้   ทั้งในเรื่องของปราบปรามและการบำบัด.- สำนักข่าวไทย
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์