แม้วไฟเขียวรื้อรธน.ไม่ตั้งสสร.

แม้วไฟเขียวรื้อรธน.ไม่ตั้งสสร.


พท. ส่อแก้รธน.ไม่ผ่าน สสร. หลัง 'ทักษิณ' ไฟเขียว อ้างเสียเวลา-งบประมาณ 'อุเทน' ค้านตั้ง สสร.3 ชี้ เอาเงิน 5 พันล.แก้ปัญหาประเทศดีกว่า รับแนวทางไม่ผ่าน สสร. คิดไว้ตั้งแต่สมัยรัฐบาล 'สมัคร'

         
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ล่าสุดแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้หารือกันถึงกระบวนการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยต่างเห็นด้วย ที่จะให้ดำเนินการแก้ไขให้เร็วที่สุด และอาจจะไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการของ สสร.ก็ได้

 ทั้งนี้ ได้มีการเสนอแนวคิดดังกล่าวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ เองก็เห็นด้วย เพราะหากผ่านขั้นตอนสสร. จะเสียทั้งเวลา และเสียทั้งงบประมาณจำนวนมาก ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นนโยบายที่พรรคได้หาเสียงไว้

         
ดังนั้น เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากมาจัดตั้งรัฐบาล ก็เท่ากับว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงไม่จำเป็นต้องทำประชามติอีก

         
สำหรับสาเหตุที่มีการประกาศต่อสังคมไปก่อนหน้านี้ว่า กระบวนการดำเนินการจะผ่านสสร.นั้น เนื่องจากต้องการลดแรงเสียดทานและแรงต้านจากสังคม

         
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ คงจะต้องพยายามหาเหตุผลมาอธิบาย เพื่อทำความเข้าใจกับสังคมว่า เพราะอะไรจึงจะไม่มี สสร. แต่สุดท้ายหากเกิดแรงต้านมาก ๆ ก็อาจต้องตั้ง สสร.ขึ้นมา แต่จะใช้เวลาให้น้อยที่สุด

         
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ขณะนี้ กลุ่มคนที่ได้รับมอบหมายเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนไว้บ้างแล้ว รวมทั้งมีการล่ารายชื่อประชาชนเตรียมพร้อมไว้แล้วด้วย  โดยรอเพียงจังหวะเวลา ที่จะผลักดันร่างแก้ไขดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของ สสร.หรือสภาฯ

"อุเทน"ค้านตั้ง สสร.3 อ้างเอาเงิน5 พันล. แก้ปัญหาประเทศดีกว่า


ด้าน นายอุเทน ชาติภิญโญ ที่ปรึกษาคณะทำงานน้ำของนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขอพูดอย่างตรงไปตรงมา เพราะไม่อยากดัดจริตพูด ส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ตั้งแต่ต้น เพราะหากเราเปรียบเทียบรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นยา ก็ถือว่า เป็นยาที่ไม่ดี เป็นพิษกับร่างกายเรามาตลอด


"ถ้ารู้ว่า มันไม่ดี แล้วเราจะยังกินยาตัวนี้ต่อไปอีกหรือ ดังนั้น หากมีโอกาสเราก็ควรจะต้องแก้ไขหรือยกเลิกยาตัวนี้เสีย เชื่อว่า ไม่ช้าหรือเร็วจะต้องมีการแก้ไขอย่างแน่นอน ซึ่งคาดว่า หลังปีใหม่ น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น"


อย่างไรก็ตาม ควรจะรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้เรื่องนี้ตกผลึกชัดเจนด้วยว่า จะแก้ไขในประเด็นใดบ้าง ถ้าประเด็นไหนควรเลิกก็เลิก ประเด็นไหนควรแก้ไขก็ต้องแก้ ส่วนประเด็นไหนที่ควรคงไว้ก็ต้องคงไว้ ซึ่งกระบวนการจะแก้ไขอย่างไรคงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภา และควรดำเนินการแก้ไขให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ฉบับที่มาจากผลพวงของการปฎิวัติรัฐประหาร

ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้มีการตั้งสสร.นั้น ส่วนตัวเห็นว่า วันนี้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้แล้ว ไม่มีเวลาที่จะให้เสียอีกต่อไป และไม่ควรที่จะสิ้เปลืองเงินงบประมาณ เพราะการตั้งสสร.มาคัดเลือกตัวแทนแต่ละจังหวัดขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญแต่ละครั้ง เสียเวลายาวนานเป็นปี อีกทั้งยังต้องเสียงบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาทด้วย


 "ครั้งนี้ หากมีการตั้งสสร.อีก คาดว่า จะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นวงเงินจำนวนมาก ที่สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติได้มากกว่า"


 อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เมื่อประกาศเป็นนโยบายหาเสียงแล้ว ก็จะต้องเดินหน้าต่อไป แต่ในมาตรา112 นั้น พรรคไม่ได้พูดไว้ในการหาเสียง ก็คงจะไม่ไปแตะต้อง คาดว่า ความชัดเจน จะต้องรอหลังปีใหม่

รับแนวทางแก้ รธน.ไม่ผ่าน สสร. คิดไว้ตั้งแต่สมัยรัฐบาล"สมัคร"


นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ผ่านช่องทาง สสร. ยอมรับว่าเรามีแนวคิดดังกล่าว มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ทุกคนก็ได้เห็นบทเรียนที่ผ่านมาแล้วว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง


 "เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เราจึงมีการศึกษาอย่างรอบคอบ จึงได้มีการเสนอให้ผ่านช่องทาง สสร. จะได้ไม่เกิดปัญหา หรือถูกกล่าวหาว่าทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ หรือทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่ในเบื้องต้นขณะนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า จะผ่านช่องทาง สสร.หรือไม่" นายไพจิต กล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์