เฉลิมย้อนมาร์คยันไม่ได้ทำคดี 91 ศพหวังเอาใจใคร

เฉลิมย้อนมาร์คยันไม่ได้ทำคดี 91 ศพหวังเอาใจใคร

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวในคดี 91 ศพ ว่า เรื่องนี้เริ่มจากตำรวจนครบาลสรุปเรื่องว่าเป็นการตายโดยผิดธรรมชาติ

แต่ไม่ได้เป็นการตายโดยการกระทำของเจ้าพนักงาน ตอนหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบว่า มีบางคนที่ตายนั้นตายโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และการประชุมครั้งหนึ่งที่ตนได้เข้ามารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบกระทรวงยุติธรรม ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการพิเศษ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้หยิบยกเรื่องนี้มาขออนุมัติที่ประชุมเพื่อให้เป็นคดีพิเศษและขอให้ดีเอสไอทำการชันสูตรพลิกศพเอง ตนก็บอกว่าไม่ได้เพราะดีเอสไอไม่มีอำนาจ ต้องเป็นพนักงานสอบสวนท้องที่ที่พบศพ จึงให้ดีเอสไอส่งเรื่องทั้งหมด 13 ศพ ให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล และต่อมาเพิ่มอีก 3 ศพ เป็น 16 ศพ โดยเป็นการตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ


"ข้อแตกต่างในการสอบสวนระหว่างการตายธรรมดากับตายโดยการะทำของเจ้าหน้าที่รัฐ คือการตายโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้กระทำ ต้องมีทั้งพนักงานสอบสวน ต้องร่วมกับฝ่ายปกครอง แพทย์ และพนักงานอัยการ ทำการสอบสวนเบื้องต้น และส่งพนักงานอัยการ และส่งศาลไต่สวน แต่การตายธรรมดาไม่ต้องมีพนักงานอัยการและไม่ต้องส่งศาลไต่สวนการชันสูตรพลิกศพ ดังนั้น เมื่ออัยการเป็นผู้นำเสนอศาล ศาลก็ต้องมีอำนาจเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบ" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว


ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ทั้งนี้ 5 สำนวนที่อัยการร่วมสอบได้ส่งให้ศาลไต่สวนแล้ว

ตอนหลังมีทหารให้การว่าที่ทหารออกมาปฏิบัติภารกิจเดือนเมษายน และพฤษภาคม 2553 เพราะมาตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายรัฐมนตรี ในขณะนั้น และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. ในขณะนั้น และคดีช่างภาพชาวญี่ปุนถูกฆ่าตาย มีพยาน 6 ปากว่าเป็นการตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อเป็นอย่างนี้ อัยการก็เลยสั่งพนักงานสอบสวนให้สอบสวนนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเพราะมีกรณีพาดพิง แต่นายอภิสิทธิ์เข้าใจผิดว่าตนแทรกแซง ชี้นำ พนักงานสอบสวน ยันว่าไม่ใช่เป็นการกลั่นแกล้ง คนชี้นำคือพนักงานอัยการที่เขาร่วมสอบสวนชันสูตรพลิกศพ


"ที่คุณอภิสิทธิ์มาบอกว่าผมทำเอาใจคนใดคนหนึ่งนั้น ก็ไม่จริง ฝากบอกไปยังคุณอภิสิทธิ์กับคุณสุเทพ ว่า คุณไม่เก่งกว่าผมหรอกเรื่องแบบนี้ แต่ผมเก่งกฎหมายก็ต้องอยู่บนพื้นฐาน ความถูกต้อง ไม่กล้าแกล้งคุณเพราะผมก็กลัวติดคุก อำนาจอยู่ในมือเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ที่ผ่านมารัฐบาลที่แล้วคุณไม่ทำไง (เสียงสูง) พอผมทำก็เป็นเรื่องแปลกขึ้นมา และยังมีการออกมาเอาคดีว่า 91 ศพ ไปเทียบเคียงกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้นก็เป็นคนละเรื่อง เพราะ 91 ศพเป็นเรื่องฆ่าคนตาย ไอ้พวกนี้ต้องเข้าคุก ไม่มีอุทธรณ์ ฎีกา" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว


เมื่อถามว่า ผู้นำฝ่ายค้านแย้งว่ารัฐบาลบอกจะสร้างความปรองดองแต่ทำไมเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่ ตนไม่ได้ชี้นำ คนชี้นำเป็นอัยการ เอกสารก็มี ส่วนเรื่องปรองดองมันเป็นเรื่องหลังปฏิวัติ อันนี้เป็นเรื่องฆ่าคนตาย ไม่ใช่เรื่องการเมือง พอมีการไต่สวนชั้นศาลแล้วเรื่องนี้ก็จบ


เมื่อถามว่าที่มาเร่งผลงานตอนนี้เพราะใกล้ปรับ ครม.หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ต้องเร่ง เพราะทำมาตลอด และไม่ต้องส่งผลงานนายกฯ เพราะนายกฯไม่เคยขอดูผลงาน เพราะตนไม่มีกระทรวงรับผิดชอบ


เมื่อถามว่า ยังยืนยันที่จะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้านเหมือนเดิมหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า

“ผมเป็นคนใจเดียวพูดอะไรไม่เคยเปลี่ยนแปลง และพูดมาตลอดตั้งแต่เป็นฝ่ายค้าน ไปหาเสียง ยังไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่ แต่เป้าหมายคือ ใช่ ต้องนำกลับมา”


เมื่อถามว่า จะกลับมาเหมือนช่วงที่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ช่วงเวลานั้นไม่บอกเดี๋ยวไม่ตื่นเต้น พญาหงส์จะมาอย่างนั้นได้อย่างไร”


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์