ขุนคลัง-หม่อมเต่าแอบคุยหย่าศึก แย้มร่วมแบกหนี้กองทุนฟื้นฟู แนะกนง.ลดดบ.แรงช่วยฟื้นอุตฯ

ขุนคลัง-หม่อมเต่าแอบคุยหย่าศึก แย้มร่วมแบกหนี้กองทุนฟื้นฟู แนะกนง.ลดดบ.แรงช่วยฟื้นอุตฯ

รัฐมนตรีคลังดอดเข้า ธปท.ถกหม่อมเต่า"หาข้อยุติหย่าศึกหนี้กองทุนฟื้นฟู ย้ำชัดร่วมกันรับภาระผ่อนใช้หนี้ 5-10 ปี
 
ชี้สถานการณ์ตอนนี้เหมาะสุด ประเทศมีหนี้ต่ำ พร้อมเคลียร์หนี้ ยุติเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง แนะบอร์ด กนง. 30 พ.ย.นี้ลดดอกเบี้ยแรงช่วยฟื้นอุตสาหกรรม

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางมาหารือกับ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานคณะกรรมการ ธปท. โดย ม.ร.ว.จัตุมงคลกล่าวภายหลังว่า เป็นการหารือส่วนตัว ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยเบื้องต้นนายธีระชัยได้หารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งตนมองว่าถึงเวลาที่ต้องจบเรื่องเก่าได้แล้ว โดยเฉพาะการแก้หนี้กองทุน เนื่องจากขณะนี้ฐานะการเงินของประเทศดีขึ้น จะตกลงร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลังและ ธปท.ให้ผ่อนชำระทันที หรือผ่อนจ่ายรายปี 15-20 ปี ขณะเดียวกันได้ให้กรอบแนวคิดไปว่า จะโทษ ธปท.ทำให้เกิดความเสียหาย ให้ ธปท.รับผิดชอบคนเดียวก็ไม่ได้ ขณะเดียวกัน ธปท.จะไม่ช่วยแก้ปัญหาหนี้เลยก็คงไม่ได้เช่นกัน

ม.ร.ว.จัตุมงคลกล่าวว่า แนวทางที่จะให้ ธปท.พิมพ์เงินออกมาใช้หนี้ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท.คงไม่ยอมแน่ เพราะจะเป็นการผิดวินัยทางการเงิน กระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ธนาคารกลาง และส่งผลเสียต่อการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจการเงินของประเทศในภาพรวม ขณะเดียวกัน แนวทางของ ธปท.ที่จะใช้วิธีโอนทรัพย์สินของกองทุนให้กระทรวงการคลังไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาพื้นฐาน เพราะหากไม่ขายหุ้นที่ถืออยู่ก็นำไปลดหนี้กองทุนได้น้อย ขณะที่รัฐมนตรีคลังเห็นว่า ควรให้มีกองทุนไว้เพื่อง่ายต่อการแก้ปัญหาในระยะข้างหน้า ซึ่งไม่แน่ชัดว่าผู้ว่าการ ธปท.จะเห็นด้วยหรือไม่ เพราะเรื่องใหญ่ของธปท.ในขณะนี้คือ เรื่องบุคลากร

"จะเป็นการผ่อนชำระ 5-10 ปี โดยต่างฝ่ายต่างรับภาระร่วมกัน ทั้งรัฐบาล ธปท.และคนในอนาคต การเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจจะได้ไม่ต้องมาพะวงกับปัญหาเก่า ซึ่งตอนนี้ยังมีเรื่องที่เคลียร์ไม่จบอยู่มาก ซึ่งขณะนี้ระดับหนี้สาธารณะของไทยอยู่ในระดับต่ำ 40% ของจีดีพีก็ควรแก้ปัญหาให้จบได้ หรือวางรูปแบบระยะยาวไว้ ไม่เช่นนั้น จะต้องทะเลาะกัน ไม่ได้ประโยชน์ ควรจะพิจารณาหาข้อสรุปร่วมกันว่าจะช่วยแก้ปัญหาอย่างไร"

ม.ร.ว.จัตุมงคลกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า ธปท.น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมากกว่าระดับปกติในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 30 พฤศจิกายน จากปัจจุบันดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.50% เพราะหากพิจารณาการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมบางสาขาโดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่า จะใช้เวลาในการฟื้นฟู ขณะเดียวกัน คงต้องจับตาดูว่า กนง.จะส่งสัญญาณที่ผิดหรือไม่ ถึงแม้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้อยังมีอยู่ แต่จะทำนโยบายสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจคงไม่ได้ ยิ่งหากปรับขึ้นดอกเบี้ยก็อาจจะทำให้ตลาดเกิดความสับสนได้


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์