“มาร์ค”จวกรัฐบาล-ศปภ.

“มาร์ค”ป้องผู้ว่าฯกทม. ซัด รัฐบาล-ศปภ.แก้ปัญหาไม่ชัดเจน ท้า“เฉลิม”สอบทุจริตโครงการรถไฟฟ้า 

ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 พ.ย.  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ยังมีผู้ประสบภัยน้ำท่วมรวมตัวกันชุมนุมกดดันรัฐบาลให้แก้ปัญหาว่า รู้สึกผิดหวังกับการตอบกระทู้ถามสดของพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศปภ. ไม่ตระหนักถึงความผิดชอบ ในการบริหารจัดการเหมือนหนีปัญหา โยนความขัดแย้งให้ผู้ว่าฯกทม.จัดการ ทั้งที่นายกรัฐมนตรีมีอำนาจ ตามคำสั่ง พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาตรา 31 ซึ่งผู้ว่ากทม.ก็ยืนยันว่านายกฯสั่งให้ดูแลพื้นที่กทม.จึงไม่สามารถทำอย่างอื่นได้

ที่สำคัญศปภ.มีหน้าที่ดูแลไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชน ซึ่งความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาจากความไม่ชัดเจนในการแก้ปัญหา
 
แต่ศปภ.จะตอบสนองต่อเมื่อมีการชุมนุมเรียกร้องความสนใจ ซึ่งความจริงศปภ.ควรจะเดินเข้าหาปัญหามากกว่า ต่อไปหากประชาชนต้องการอะไรก็จะมีการชุมนุมกันอีก ขยายในวงกว้าง แต่ถ้าเป็นตนจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ ไม่ใช่คอยแก้ปัญหาวันต่อวัน เพราะจะทำให้ประชาชนทุกและเดือนร้อนมากขึ้น ส่วนมาตรการเยียวยาที่รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจน คงจะกังวลถึงยอดเงิน ซึ่งตนยืนยันแล้วว่าจะมีไม่มาก จนไม่สามารถหามาได้ รัฐบาลสามารถปรับลดวงเงินจากโครงการอื่นมาช่วยเหลือได้

“จากการฟังคำตอบในสภาเหมือนมีการเล่นการเมืองไม่จบ รัฐบาลและศปภ.พยายามแบ่งแยกคน ดูได้จากการอภิปรายของส.ส.ในสภา ถือว่าไม่มีความรับผิดชอบในการทำงานเพื่อส่วนรวม” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคดีปล้นบ้านของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม

ที่อาจนำไปสู่การตรวจสอบการทุจริตในช่วงรัฐบาลชุดที่ผ่านมาว่า ป.ป.ช.ต้องเดินหน้าตรวจสอบอย่างเต็มที่ ซึ่งร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้มาพูดคุยกับตน หลังการตอบกระทู้ในสภา ซึ่งตนได้บอกว่าไม่มีปัญหาขอให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ ให้ตรวจสอบอย่างตรงไหนตรงมา ว่าเกี่ยวข้องกับใครยุคไหน เรื่องอะไร แต่ก็ไม่ทราบว่าเขามีตัวหลักฐานอย่างไร และเรื่องนี้ตนยังไม่ได้พูดคุยกับนายโสภณ ซารมย์ อดีตรมว.คมนาคม

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้า ร.ต.อ.เฉลิมก็ได้คุยกับตนเกี่ยวกับมติครม.ในรัฐบาลที่แล้ว

ซึ่งตนยืนยันว่าตัวมติครม.ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่าอาจมีการโยงถึงอดีตรัฐมนตรีในช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ นายอภิสิทธ์กล่าวว่า ก็ให้ตรวจสอบได้เลย หลายโครงการที่เสนอต่อครม.ก็ตรวจสอบกันละเอียด โดยในกรณีของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่มีประเด็นเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม เราก็ให้ตรวจสอบให้ชัดว่ายอดรวมของโครงการได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วหรือไม่อย่างไร ซึ่งในทางปฏิบัติถ้ามีการนำมารวม ก็ถือว่าผิดจากมติครม. ส่วนใครจะต้องรับผิดชอบ ก็ต้องไปดูว่าใครฝ่าฝืนมติครม.ทั้งนี้ ข่าวที่ว่าไจก้ายกเลิกความช่วยเหลือนั้น ก็มาจากปัญหาการขาดคุณสมบัติของบริษัท

ส่วนกรณีการโยกย้าย น.พ.ชูชัย ศุภวงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ไปเป็นที่ปรึกษาระดับ 11 นั้น ตนยังไม่ทราบเรื่อง
 
แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงก็จำเป็นจะต้องจับตามอง เมื่อถามว่า เป็นการกดดันการทำงานของกรรมการสิทธิฯหรือไม่  นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ามีความพยายามกดดันกรรมการสิทธิฯมาตลอด โดยเฉพาะช่วงที่ทำผลสอบ 91 ศพหลุดออกมา.