น้ำลดปรับครม.ผุด ′ยิ่งลักษณ์′รื้อเล็กๆ สะเทือนชาติไทยพัฒนา

คอลัมน์ การเมือง  มติชน 24 พ.ย. 2554

 
หลายคนเชื่อว่าหลังน้ำลด และเมื่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ซึ่งเป็น "สูตรตายตัว" ของรัฐบาลทุกยุค ทุกสมัย ที่เชื่อว่า เมื่อถึงคราว "ดวงตก" สุดสุด ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม

การปรับ ครม.เป็นเสมือนการ "กู้ภาพลักษณ์" ของรัฐบาลในภาวะที่ตกต่ำใกล้ติดดิน

แน่นอนภาพลักษณ์ของรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ที่เกิดขึ้นมาจากการ "บริหารจัดการน้ำ" ที่ล้มเหลวแบบล้วนๆ

จริงอยู่ แม้ว่าการบริหารจัดการน้ำจะมีหน่วยงานหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็น "ฟันเฟือง" สำคัญ

แต่สปอตไลต์แห่งความผิดพลาด และล้มเหลวกลับพุ่งตรงมาที่รัฐบาลในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดแต่ผู้เดียว

จำเป็นอย่างยิ่งที่นายกฯยิ่งลักษณ์ อาจต้องสลับปรับเปลี่ยนตำแหน่งใน ครม.สัก 4-5 ตำแหน่ง เพื่อรักษาสมดุลในเรื่องภาพลักษณ์ของรัฐบาล

แน่นอน "บุคคล" ที่อาจจะถูกจับโยก ส่วนใหญ่ล้วนเกี่ยวข้อง เกี่ยวพัน กับสถานการณ์น้ำท่วมทั้งสิ้น

เพราะรัฐบาลรู้ดีว่า นั่นคือการแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหาร ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ที่ถูกมองและกล่าวหาว่าบริหารงานอ่อนยวบยาบ ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร

คือเป้าหมายแรก

หากแต่การทำงานของ พล.ต.อ.ประชา ที่ผ่านมา นายกฯยิ่งลักษณ์ รู้ดีว่าเป็น "ผู้รับ" มาโดยตลอด

คมหอกคมดาบทุกเล่มฝังอยู่ในร่างหลายต่อหลายเล่ม แต่ไม่ยอมปริปาก และไม่เล่นเกมการเมืองจนเกิดปัญหา

แต่ในฐานะผู้อำนวยการ ศปภ.ต้องรับผิดชอบ

หากเป็นเช่นนั้นจริง พล.ต.อ.ประชา อาจเป็นคนหนึ่งที่ถูกขยับออกจากตำแหน่ง

แต่หลายคนในพรรคเชื่อว่าจะ "ขยับดีขึ้น" เพื่อทดแทนในการทำงานแบบไม่มีปริปาก

เป้าหมายต่อมา ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รอง นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ที่หน่วยงานสังกัดอย่าง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เกิดเรื่องอื้อฉาว คาวคลุ้งไปทั่ว ในการทุจริต "ถุงยังชีพ"

จะว่า "ยงยุทธ" ไม่รู้ไม่เห็นก็คงไม่ใช่ เพราะ เป็นคนเซ็นอนุมัติเงินงบประมาณในการ จัดซื้อถุงยังชีพ เรือไฟเบอร์กลาส ส้วมลอยน้ำ

ที่สำคัญในหนังสือที่เซ็นอนุมัติ ก็มีรายละเอียดของรายการ-ราคาจัดซื้อทุกขั้นตอน

จึงถูกมองว่า ทำไม ไม่สงสัยในรายการจัดซื้อที่แพงเกินจริงเลยหรือ

แต่ด้วยบุคลิกที่เป็นคนนุ่มนวล ทำทุกอย่างตามคำสั่ง ไม่บิดพลิ้ว หลายคนในพรรคเพื่อไทยประเมินว่า "ยงยุทธ" อาจจะไม่ถูกขยับให้พ้น ครม.

หากแต่ลดตำแหน่งลง เหลือแค่รองนายกฯเพียงตำแหน่งเดียว

นัยว่าเพื่อรักษาน้ำใจ แบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น

นอกจากการปรับระดับ "หัวแถว" แล้ว ยังมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการปรับอีก 2-3 ตำแหน่ง เพื่อเป็น "น้ำจิ้ม"

เพราะ พล.ต.อ.ประชา และยงยุทธ จะได้ไม่รู้สึกว่ากลายเป็น "แพะ" สังเวยพิษน้ำท่วม

ที่สำคัญ ตำแหน่งที่จะปรับเปลี่ยนทุกตำแหน่ง เป็นไปตามเงื่อนไข เป็นไปตามสัญญาในพรรค

อย่าง กฤษณา สีหลักษณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีสัญญาใจไว้กับ "ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย" ส.ส.อุตรดิตถ์ ที่จะอยู่ในตำแหน่ง

หรือแม้แต่ ภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ พรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ก็เป็นอีก 2 ในอีก

หลายๆ คนที่มี "สัญญาสุภาพบุรุษ" ไว้กับพรรคเพื่อไทย

ที่น่าจับตาอีกตำแหน่งก็คือ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในโควตาพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ "ธีระ วงศ์สมุทร" นั่งเป็นเสนาบดี

ว่ากันว่า พรรคเพื่อไทยกำลังจะขอ "ริบคืน" อันเนื่องมาจากความเชื่อที่ว่า "ธีระ" บริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาด และมีเกมการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหตุเพราะไม่ยอมผันน้ำเหนือลงในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ของ บรรหาร ศิลปอาชา จนเกิดปัญหากับคนสิงห์บุรี และคนชัยนาท ก่อนที่จะทะลักเข้าท่วมกรุง

ที่สำคัญ "ธีระ" ก็ยอมรับในการประชุมสภาว่าเป็นคนสั่งกักน้ำในเขื่อนภูมิพลเอาไว้เอง เพื่อให้เกษตรกรเอาไว้ใช้ทำนา แต่เกิดปัญหามีพายุ 5 ลูก เข้ามาจึงไม่สามารถจัดการได้

เวลานี้จึงเกิดกระแสเป็นวงกว้างว่า กำลังมีการ "ต่อรอง" ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคชาติไทยพัฒนา

โดยมีการยื่นเงื่อนไข 2 ทางเลือกให้พรรคชาติไทยพัฒนาคือ

1.เปลี่ยนตัวรัฐมนตรี 2.แลกกระทรวงในระดับเดียวกัน

แม้จะยังไม่มี "คำตอบ" จากการต่อรองอย่างไม่เป็นทางการ

แต่มีเสียงก้องออกมาว่า การเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีจะเท่ากับ "ธีระ" จะกลายเป็น "แพะ"

การแลกกระทรวง จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

น่าสนใจ เพราะเวลานี้พรรคชาติไทยพัฒนาได้โยนชื่อกระทรวงคมนาคมลงบนฟลอร์เรียบร้อยแล้ว