เพื่อไทยยันยิ่งลักษณ์ค้างสิงห์บุรีไม่จัดฉาก

แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกรณีกองทัพ ออกมาระบุว่าสำนักนายกฯได้ทำหนังสือขอใช้เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 วัน ซึ่งไม่ตรงกับที่นายกฯระบุว่าเป็นเหตุจำเป็นที่ต้องค้างที่จ.สิงห์บุรี

เนื่องจากไม่มีเรดาห์ใช้บินกลางคืน ยืนยันว่า รองเลขาธิการนายกฯเป็นผู้ลงชื่อในหนังสือสำนักนายกฯที่แจ้งขอใช้เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพ เพื่อไปปฏิบัติภารกิจที่จ.สิงบุรีโดยไม่มีการระบุวันที่ว่าจะใช้จำนวนกี่วัน และเนื้อหาใน จม.มี 3-4 บรรทัดเท่านั้น

ยืนยันว่าเครื่องที่ใช้ไม่มีระบบนำร่องกลางคืน แต่กองทัพคงไม่อยากให้คนโทษทหาร จึงออกมาระบุว่าแม้ไม่มีระบบนำร่อง แต่ด้วยประสบการณ์ของนักบินรวมทั้งแสงสว่างของพระจันทร์ทำให้ไม่สามารถบินกลับกลางคืนได้ เชื่อว่าหากเป็นผบ.ทบ.ก็คงไม่บินเวลากลางคืนเช่นกัน เนื่องจาก พล.อ.อ.สุกําพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม ยังเคยเตือนคนใกล้ชิดนายกฯ ให้กำชับนายกฯว่าอย่าขึ้นบินกลางคืนเพราะเป็นอันตราย พล.อ.อ.สุกำพลยังระบุด้วยว่า เป็นทหารอากาศมา 40 ปี ก็ยังไม่อยากขึ้นบินกลางคืนเลย 

ส่วนเรื่องเสื้อสำนักนายกฯที่อาจมีการมองว่าเตรียมล่วงหน้าที่สื่อและนายกฯใช้แบบเดียวกันนั้นก็ไม่เป็นความจริง แต่เพราะหน่วยล่วงหน้าที่เดินทางไปก่อนหน้านั้นเดินทางไปโดยรถยนต์และในรถคันดังกล่าวมีเสื้อสำนักนายกฯอยู่แล้ว ทีมล่วงหน้าก็นำมาแจกนักข่าว เพราะทราบว่าไม่มีใครเตรียมชุดมาเปลี่ยน และไม่มีใครตั้งใจให้นายกฯ ใส่เสื้อสำนักนายกฯดังกล่าวด้วย หากมีการเตรียมการล่วงหน้าจริง ๆ นายกฯก็ไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อของสำนักนายกฯอยู่ดี เพราะนายกฯจะมีชุดสำรอง ติดตัวเวลาไป ตจว.อยู่แล้วแต่วันดังกล่าวที่นายกฯสวมเสื้อสำนักนายกฯนั้นเนื่องมาจากผู้สื่อข่าวขอให้นายกฯสวม เพื่อจะได้ภาพข่าวที่ออกมาแล้วนักข่าวใส่เสื้อเหมือนทีมเดียวกัน 

เรื่องการออกพ.ร.ฎ.นั้น ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าร.ต.อ.เฉลิม ได้แจ้งให้นายกฯทราบก่อนหรือไม่ว่าจะนำเข้าครม. มีเพียงร.ต.อ.เฉลิมเท่านั้นที่รู้ ทั้งนี้ การออกพ.ร.ฎ.อภัยโทษนั้น ยอมรับว่าขณะนี้ กระบวนการไปอยู่ที่สภาองคมนตรีแล้วซึ่ง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จะนั่งหัวโต๊ะเป็นผู้พิจารณา ส่วนหลังจากนี้ พ.ร.ฎ.ดังกล่าวจะต้องมีการแก้ไขหรือไม่ ถือเป็นดุลพินิจของสภาองคมนตรีแล้ว