“มาร์ค”ซัดรัฐมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการ

“มาร์ค” ป้องกทม. ไร้เครื่องมือจัดการม็อบ ซัดรัฐมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการ ชี้ศปภ.สั่งตร.จัดการได้ ทำไมไม่ทำ

วันนี้(14พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะเดินทางไปดูการระบายน้ำของประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ และดูการระบายน้ำที่คลองบางชัน พร้อมกับดูสภาพน้ำท่วมบริเวณถนน หม่อมเจ้าสง่างาม สุประดิษฐ์ ที่เชื่อมไปยังถนนรามอินทรา ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่  ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ดูการระบายน้ำแล้วอยู่ในระดับที่น่าพอใจ มีลักษณะคล้ายกับที่คลองบางซื่อ  ซึ่งทางกทม.เร่งสูบออกและได้ผลและถ้าควบคุมไม่ให้เกิดปัจจัยแทรกซ้อนได้ก็จะทำให้การระบายน้ำได้อย่างต่อเนื่องและน้ำก็จะลดระดับลง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาที่มีมวลชนไปประท้วงกรณีการป้องกันถนนพระราม 2
 
และกรณีการกู้ถนนสาย 340 รัฐบาลต้องทำให้ชัดว่ามีนโยบายและแนวทางช่วยเหลือผู้เดือดร้อนอย่างไร หากมีการปิดถนนรัฐบาลจะรองรับการสัญจรไปภาคใต้ได้แค่ไหน ซึ่งเป็นหน้าที่ของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.)และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯในฐานะผู้บัญชาสูงสุดต้องไปทำความเข้าใจให้ชัดว่าจะทำอย่างที่พูดเพราะเหตุที่เกิดขึ้นที่ดอนเมืองไปพังคันกันน้ำบิ๊กแบ็กก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง เพราะไม่เข้าใจกันใน

ต่อข้อถามว่า ถือเป็นการปัดความรับผิดชอบหรือไม่เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้นทาง ศปภ.ไม่เข้ามาแก้ปัญหากลับโยนเรื่องมาให้กทม.

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ภารกิจในการดูแลเรื่องมวลชนกทม.ไม่ได้มีเครื่องมือหรือกำลังคนเข้าไปดูแล ซึ่งคงต้องกลับไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ความจริงแล้ว ศปภ.สามารถที่จะดำเนินการโดยตรงได้เลย ที่สำคัญต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา มวลชนที่มีปัญหาล้วนแล้วแต่มีนักการเมืองในซีกรัฐบาลเป็นผู้ดูแลพื้นที่อยู่ตรงนั้น ความจริงแล้วต้องทำความเข้าใจกับคนของตัวเองให้มาก ตอนนี้หลายคนสับสน หลายคนคงแปลกใจว่าพอถึงเวลามีการรื้อบิ๊กแบ็กทางศปภ.กลับบอกว่าจะไม่มีผลกระทบอะไร ก็ยิ่งทำให้สับสนว่าทำบิ๊กแบ็กทำไม แต่ก็ต้องยอมรับว่า บิ๊กแบ๊กช่วยชะลอน้ำแต่ได้ ส่วนจุดที่ได้รับผลกระทบหรือได้รับการปกป้องก็ต้องไปดูในรายละเอียด และคงต้องติดตามดูว่าถ้ารื้อบิ๊กแบ็กน้ำจะไปทางไหน

“ปัญหาของระบบการบริหารจัดการ ไม่ควรปล่อยให้เป็นอย่างนี้ และวันนี้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ.ก็ออกมายอมรับว่าเสียมารยาท ทั้งที่เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิด และปัญหาบิ๊กแบ็ก ผมก็ได้นำเสนอมาตลอดว่ารัฐบาลอาจต้องมีมาตรการไปชดเชยเป็นกรณีพิเศษ เพราะในพื้นที่พระราม 2 ก็มีความขัดแย้งกันอยู่ รัฐบาลก็ต้องมีจุดยืนให้ชัดว่าจะทำอะไรเพราะกทม.ก็จะได้เตรียมการได้ถ้าหากรัฐบาลบอกว่าจะปล่อยน้ำออกมากทม.ก็จะได้เตรียมการรับมืออีกแบบหนึ่ง แต่หากมีความไม่แน่นอนเขาก็ทำงานยาก ทั้งนี้นายกฯสามารถใช้อำนาจสั่งการได้อยู่แล้วตามพ.ร.บ.ป้องกันฯ แต่ที่ผ่านมาเห็นอยู่แล้วว่ามามีหลายกรณีไม่เป็นไปตามแผนที่รัฐบาลวางไว้ ดังนั้นรัฐบาลต้องทำให้เข้มข้น เพราะจะทำให้ผู้ปฎิบัติมีความชัดเจน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว.