ยิ่งลักษณ์เตือนมวลน้ำใกล้กรุงเทพแล้ว ปกป้องสถานที่สำคัญ

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 วันที่ 22  ต.ค. 

โดยนายกฯกล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในตอนนี้ว่ามวลน้ำเริ่มเข้าใกล้กรุงเทพมหานครมากขึ้นแล้ว ดังนั้น รัฐบาลย้ำว่านโยบายเรื่องการบริหารน้ำเป็นสิ่งสำคัญ ต้องเลือกในการบริหารสถานที่สำคัญ อาทิ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ เขตพระราชฐาน โรงพยาบาล พื้นที่ทางเศรษฐกิจ เส้นทางการขนส่ง สนามบิน และแหล่งผลิตสาธารณูปโภค ซึ่งจะมีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นส่วนใหญ่


สถานการณ์น้ำยังมีมวลน้ำก้อนใหญ่จากทางเหนือซึ่งต้องเร่งระบายน้ำลงทะเลให้มากที่สุด

แต่ธรรมชาติของน้ำนั้นจะไหลจากที่สูงลงที่ต่ำซึ่งหากไปปิดกั้นจะทำให้ไม่สามารถควบคุมได้ เห็นได้จากการไหลของน้ำที่ผ่านมาทำแนวพนังกั้นน้ำพังลง ซึ่งการตั้งพนังเป็นเพียงการชลอน้ำ ไม่สามารถกั้นน้ำได้อย่างถาวร หรือบางครั้งปริมาณน้ำรวมกับน้ำจากฝนตกก็ทำให้น้ำเอ่อมาในพนังกั้น สำหรับสถานการณ์ขณะนี้เป็นสถานการณ์หนักมีผลกระทบต่อชีวิต และทรัพย์สินของประเทศ


น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า การเร่งระบายน้ำและบรรเทาต้องจัดการร่วมกัน ซึ่งมีความเกี่ยวพันหลายพื้นที่

จึงจำเป็นต้องประกาศอำนาจควบคุมและกำกับการป้องกันและบรรเทาตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 โดยนายกฯใช้อำนาจตามมาตรา 31 ซึ่งศปภ.ยังเป็นศูนย์กลางแต่ทั้งนี้เป็นไปเพื่อเป็นช่วยให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว สอดคล้อง สัมพันธ์กันอย่างสมบูรณ์ และให้ดูแลอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว


ยิ่งลักษณ์เตือนมวลน้ำใกล้กรุงเทพแล้ว ปกป้องสถานที่สำคัญ


สำหรับพื้นที่กทม.อยู่ทางด้านใต้ติดกับทะเล จึงจำเป็นต้องเป็นพื้นที่ทางผ่าน จึงต้องเปิดประตูระบายน้ำร่วมกันทางกทม.ผันน้ำจากทางเหนือลงทะเลโดยเร็วที่สุด แต่ต้องคำนึงถึงระดับน้ำที่เหมาะสม ไม่สร้างความเดือดร้อน ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเหมาะกับสถานการณ์ โดยรัฐบาลมีแผนรองรับกรณีเกิดผลกระทบดังกล่าวด้วย


นายกรัฐมนตรีได้ฝากประชาชนอยากให้ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารในช่วงวันหยุด เตรียมการย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงอย่างน้อย 1 เมตร และดูแลระบบไฟฟ้า รวมถึงรถยนต์และสิ่งของมีค่า แต่ทั้งนี้ถือเป็นการเตรียมตัวอย่างรอบคอบ โดยไม่ประมาท แต่อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์จะชี้แจงให้ทราบข่าวเป็นระยะ


ด้านการดูแลประชาชนในศูนย์พักพิง ระหว่างรอน้ำลดก็มีจัดศูนย์พักพิงทุกจังหวัดที่มีน้ำท่วม วันนี้ รัฐบาลมีศูนย์ 1,743 แห่งซึ่งสามารถรองรับได้ 8 แสนคน

ขณะนี้มีผู้เข้าอยู่แล้วประมาณ 113,369 คน โดยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลได้จาก 1111 กด 5 โดยในช่วง 4-6 สัปดาห์ระหว่างรอน้ำลดนั้นรัฐบาลได้เตรียมปรับแผนให้ดีขึ้น มีการเข้าดำเนินการให้ประชาชนที่พักพิงเกิดการเรียนรู้ และจ้างงาน เสมือนเป็นชุมชนใหม่ ซึ่งอาจมีการฝึกทักษะ ประยุกต์ซ่อมแซมสิ่งของ หรือสามารถปรับใช้เป็นอาชีพใหม่หลังน้ำลด กลุ่มแม่บ้านก็มีกรมแรงงานฝึกอาชีพให้


ส่วนแผนฟื้นฟูในการช่วยเหลือมีการเตรียมตัวเรื่องต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเยียวยาความเสียหายให้พี่น้องโดยเร็ว มีการช่วยเหลือผู้ใช้แรงงาน ผู้ประกอบการ รายใหญ่ หรือย่อย รัฐบาลจะบรรเทาความเสียหายที่กระทบทั้งจิตใจ และธุรกิจของประชาชน


ส่วนราคาของผู้อุปโภค รัฐบาลยืนยันว่าจะมีการควบคุมราคาไม่ให้สูงเกินปกติ และให้แน่ใจว่ามีพอเพียง และทั่วถึง


สำหรับในช่วงวันที่ 28-30 ตุลาคมนี้จะมีน้ำทะเลสูงขึ้น โดยได้สั่งการให้กรมชลประทานมีการปฎิบัติการทั้งลดระบายน้ำ ควบคุมประตูน้ำ ปิดเขื่อนทางผ่านของน้ำ ควบคุมระดับน้ำทะเลที่จะหนุนเข้ามาได้


นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การเตรียมตัวใดๆต้องไม่ตื่นตระหนก ไม่ประมาท และมีสติ ต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่และเต็มความสามารถ หลายพื้นที่ต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน พร้อมกันนี้ยังได้ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่รวมพลังแก้ไขปัญหา และขอให้ทุกคนอดทนร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคให้ได้


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์