´จาตุรนต์´ ต้านรัฐประหาร - แอนตี้ความรุนแรง ยัน ทรท.ไม่มีเอี่ยวบึ้มกรุง

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการรัฐประหารซ้ำหรือรัฐประหารซ้อน ว่า พรรคไทยรักไทยมีจุดยืนคือไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหารทั้งที่เกิดขึ้นแล้ว และที่อาจจะเกิดการรัฐประหารซ้ำ

โดยกลุ่มอำนาจเดียวกัน หรือการปฏิวัติซ้อนโดยคณะอื่น ไม่ว่าจะนำเหตุผลใดที่ดีเลิศมาอ้างก็ตาม เพราะการทำรัฐประหารเป็นการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองโดยการใช้กำลังอาวุธ ไม่เป็นไปโดยสันติวิธี แม้ว่าอาจจะแก้ปัญหาได้ในบางเรื่อง แต่ก็มักจะสร้างปัญหาใหญ่กว่าตามมา

เสี่ยงต่อการใช้วัฒนธรรมความรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นเครื่องแสดงความล้าหลังไม่เป็นอารยประเทศ ในอนาคตอันใกล้แม้คมช.และรัฐบาลจะบกพร่องอย่างไรเราก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้เกิดการรัฐประหารซ้ำหรือซ้อน แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงท่าทีของพรรคไทยรักไทยก็ไม่ใช่การสมน้ำหน้า เพราะเราไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหารใดๆทั้งสิ้น

อยากขอฝากถึงคมช. นายกฯ และแม่ทัพนายกองต่างๆ ให้ออกมาสยบข่าวลือเรื่องการปฏิวัติซ้ำและซ้อนโดยเร็ว แสดงความจริงใจว่าจะไม่ทำปฏิวัติซ้ำขึ้นมาเสียเอง เพราะมิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายแก่ประเทศโดยรวม ทั้งในแง่สังคม และสภาพเศรษฐกิจ

นายจาตุรนต์ กล่าวและว่า การลือเรื่องรัฐประหารไม่เป็นประโยชน์ใด ๆ เลย ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นจะลือกันอย่างไรก็ไม่มีคนเชื่อ แต่การที่ลือแล้วมีคนเชื่อแสดงว่ามีเหตุให้สงสัย ดังนั้นควรต้องรีบแก้ไข ในส่วนของพรรคก็ได้ติดตามข่าวด้วยความวิตกกังวล เป็นห่วงทั้งบ้านเมืองและพรรคเอง เพราะเห็นว่ารัฐประหารหากเกิดขึ้นสถานการณ์มีแนวโน้มจะรุนแรงกว่าเดิม และหากเกิดจริงคนที่จะโดนลูกหลงกลายเป็นแพะรับบาปคงหนีไม่พ้นพรรคไทยรักไทย ในที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความพยายามเชื่อมโยงกระแสข่าวเรื่องปฏิวัติซ้อนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงพรรคไทยรักไทย

นายจาตุรนต์ตอบว่า มีความพยายามเชื่อมโยงโดยการวิเคราะห์ ให้ข่าว และปล่อยข่าว ตนจึงพยายามพูดถึงหลักกระบวนการยุติธรรม เพราะวันนี้บรรดาผู้มีอำนาจออกมาพูดชี้นำอยู่ตลอด ซึ่งถ้าฝ่ายที่สอบสวนสรุปออกมาแล้วข้อเท็จจริงไม่ใช่ ก็จะไม่ตรงกับคำพูดของผู้มีอำนาจ ฉะนั้นขอร้องว่าอย่าไปพูดชี้นำให้เกิดความเสียหาย

นายจาตุรนต์ กล่าวว่าสำหรับเหตุวางระเบิดหลายจุดในกทม.และนนทบุรีนั้น พรรคไทยรักไทยยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยพรรคมีนโยบายการต่อสู้ทางการเมืองในแนวทางสันติวิธีไม่ใช้การเผชิญหน้า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนอกจากจะสร้างความเสียหายต่อประเทศแล้วยังไม่เป็นผลดีต่อพรรคไทยรักไทยเลย เพราะจะตกเป็นเป้าถูกป้ายสีได้ง่าย อย่างไรก็ตามในอนรคตหากเหตุการณ์ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดเสียงตำหนิรัฐบาล

จนถึงขนาดขับไล่ให้ออกไป เราก็ไม่เห็นด้วยในแนวทางดังกล่าว เพราะต่อไปข้างหน้าถ้ารัฐบาลที่มาจากพลเรือนไม่ได้รับความร่วมมือ ก็จะไม่สามารถปกครองประเทศได้ ก็จะใช้วิธีเอาระเบิดมาวางเพื่อขับไล่รัฐบาล นำไปสู่การเป็นวงจรการปฏิวัติไม่จบสิ้น

ฝากถึงคมช.และรัฐบาล ขอให้ยึดมั่นกระบวนการยุติธรรม นำหลักนิติวิทยาศาสตร์มาใช้มากว่าการแสดวความเห็นโดยปราศจากหลักฐานโดยเฉพาะผู้นำไม่ควรชี้นำหรือใช้อคติเป็นที่ตั้งในการแสดงความเห็น

เพราะหากผู้นำอธิบายเรื่องต่างๆด้วยการใช้การคาดเดาทำทำให้คนแบ่งข้างเชื่อ ตรงนี้จะนำไปสู่ความแตกแยกทางสังคมได้ ขัดหลักการวิเคราะห์ทำให้กระบวนการยุติธรรมหมดความหวัง ยกตัวอย่างเช่นครม.และคมช.

มีมติสรุปว่าแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง ถ้าผู้นำพูดกันอยู่อย่างนี้ ก็แนะนำว่าให้ไปศึกษากระบวนการยุติธรรมและบทบาทผู้นำเสียใหม่

ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์