“ตู่”ซัด“พล.อ.วิชญ์” ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด

“จตุพร” ซัด “พล.อ.วิชญ์” ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด อ้างผลสอบกลาโหมของจริงลงบอกเหตุโค่นรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์”

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่ม นปช. แถลงกรณีได้เปิดเผยว่ามีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เป็นหมอ โดยมีทหารจากหน่วยรบพิเศษซึ่งถูกส่งไปฝึกที่อิสราเอลมาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ ว่า เรื่องดังกล่าวตนแจ้งไปที่ปรึกษารมว.กลาโหมให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง  พบว่าทหารชุดดังกล่าวเคยสังกัดกองร้อยลาดตะเวนระยะไกลของกองพลที่ 1 จริง แต่ปัจจุบันชื่อถูกถอดจากหน่วยดังกล่าวแล้ว ขณะนี้กำลังตรวจเช็คว่าย้ายสังกัดกลุ่มไหนแน่ แต่ที่น่าสนใจคือกรณีพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตผู้ช่วยผบ.ทบ.ที่ออกมาพูดในลักษณะข่มขู่ตน ซึ่งพล.อ.วิชญ์ เป็นนายทหารนอกราชการ ไม่ทราบว่าเอาเกียรติยศอะไรมายืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดไม่เป็นความจริง เพราะเรื่องนี้กระทรวงกลาโหมก็ยืนยันเป็นภารภายในแล้ว และพล.อ.วิชญ์ ยังฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด ตนไม่ได้บอกว่าทหารกลุ่มนี้จะยึดอำนาจเพียงแต่ชี้ให้เห็นเหตุการณ์มีสัญญาณเหมือนก่อนรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ที่ทหารบางหน่วยถูกส่งไปเป็นการ์ดให้แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ดังนั้นสิ่งที่ตนต้องการบอกคือเรียกให้ทหารเหล่านี้กลับกรมกองเสีย และขอให้พล.อ.วิชญ์ ตรวจสอบเรื่องนี้และควรระมัดระวังคำพูดเช่นกัน เพราะแม้แต่กองทักบกเองยังไม่กล้าแถลงในเรื่องนี้ คนที่เป็นอดีตข้าราชการจะเอาอะไรมาเดิมพัน

“กองทัพปล่อยนายทหารกลุ่มนี้อยู่แวดล้อมคนที่มาต่อต้านรัฐบาลได้อย่างไร เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นลางบอกเหตุของกระบวนการโค่นล้มรัฐบาลที่พวกผมจะต้องติดตาม เพราะเมื่อเกิดเหตุพวกผมจะต้องไปต่อสู้ บาดเจ็บล้มตาย และขอเตือนฝ่ายข่าวของรัฐบาลให้ติดตามจิ๊กซอว์จ่างๆ ให้ดี เพราะปรากฏการณ์นี้ไม่ธรรมดา การเปิดประตู 19 ก.ย.2549 เป็นอย่างไร ครั้งนี้เหมือนกันทุกกรณี ดังนั้นเราจะประมาทไม่ได้เลย”นายจตุพรกล่าว

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่ม นปช. 

กล่าวถึงกรณีพล.อ.จงศักดิ์ พานิชกุล ที่ปรึกษารมว.กลาโหมเสนอให้กฤษฎีกาตีความพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมพ.ศ.2551 ว่าถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาลหรือไม่ ว่า กฎหมายฉบับดังกล่าวเป็นกฎหมายที่ออกโดย คมช. และคณะกรรมาธิการที่ยกร่างกฎหมายฉบับนี้ล้วนแล้วแต่เป็นซุปเปอร์สตาร์ในบูรพาพยัคฆ์แทบทั้งสิ้น ที่สำคัญในการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้องค์ประชุมสภาไม่ครบองค์อีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกตนจะต้องต่อสู้กันต่อไป กฎหมายฉบับนี้เป็นผลไม้พิษ ดังนั้นเราจะต้องจัดการผลไม้พิษเหล่านี้ให้เป็นประชาธิปไตย นอกจากกฎหมายดังกล่าวแล้วยังรวมไปถึงกฎหมายอีก 170 ฉบับที่มีลักษณะเดียวกันคือผ่านสภาโดยที่ไม่ครบองค์ประชุม.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์