ครั้งแรกรัฐบาลปูพบปชช.


โวผลงาน 1 เดือน เดินหน้าช่วยเหลือประชาชน ยันทุกนโยบายหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ-รักษาวินัยการเงินการคลัง

วันนี้ ( 1 ต.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ในตอนหนึ่ง ว่า วันนี้ถือเป็นเสาร์แรกที่มีโอกาสพูดคุยกับประชาชน ซึ่งหลังจากที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นเวลาเดือนกว่าแล้ว มีหลายเรื่องเหลือเกินที่อยากจะเล่าให้ประชาชนรับฟัง ทั้งนี้เรื่องที่หลายคนเป็นห่วงตั้งแต่ตอนแถลงนโยบายคือเรื่องเศรษฐกิจ เพราะมีความไม่แน่นอนอยู่มาก และสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีความผันผวนทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นในยุโรป ถือเป็นวิกฤติทางการคลัง เพราะมีการใช้หนี้เกินตัว แต่ทางเยอรมันก็ให้การช่วยเหลือแล้ว เชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ  จะคลี่คลายลง สำหรับประเทศไทยนั้น รายได้ส่วนใหญ่มาจากการส่งออก แม้ว่าจะกระจายความเสี่ยงไปจากสหรัฐ ยุโรป มาทางจีน แต่ก็ยังไม่พอ เพราะเราอยากเห็นการสร้างเศรษฐกิจในประเทศให้แข็งแรงขึ้น คือการเพิ่มรายได้ในครัวเรือนให้ประชาชน จนเป็นที่มาของนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลที่เราเร่งรัดนำมาแก้ไขภายในปีแรกนี้ ซึ่งไม่ต้องเป็นห่วง แม้ว่าจะมีสถานการณ์ต่าง ๆ แต่รัฐบาลก็จะยังคงเดินหน้าในการดูแลประชาชน ทำอย่างไรให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ และรักษาวินัยการเงินการคลัง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า ตัวอย่างนโยบายของรัฐบาลที่เราได้เริ่มทำแล้วในปีนี้ เช่น การดูแลเกษตรกร โดยวันที่ 7 ต.ค.นี้ จะมีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ซึ่งถือเป็นระบบที่เราต้องการให้เกษตรกรได้รับประโยชน์จริง ๆ โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ประชาชนมีข้าวเท่าไหร่มาจำนำได้ทั้งหมด และยังมีทางออกว่าหากขายที่อื่นได้ราคาสูงกว่ารัฐบาลก็สามารถเลือกได้ ส่วนผู้ใช้แรงงาน ทางกระทรวงแรงงานก็กำลังทำงานอย่างเร่งด่วนร่วมกับไตรภาคี ในเรื่องการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งคำว่ารายได้ขั้นต่ำ และค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทนั้น มีความหมายเดียวกัน คือทำอย่างไรให้ประชาชนมีเงินในกระเป๋า 300 บาท นอกจากนี้ก็ต้องมาแก้ปัญหาท้องถิ่น โดยจะเพิ่มเงินในกองทุนหมู่บ้านทั้งหมด 8 หมื่นแห่ง เพื่อให้เป็นเครื่องมืออีกอย่างของเกษตรกรในการกู้ยืมเงินหลังจากน้ำลด เพื่อบรรเทาความลำบาก และจะเพิ่มเงินในโครงการเอสเอ็มแอลด้วย 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อีกมาตรการที่ช่วยผู้ที่เริ่มตั้งตัวได้ คือการเพิ่มรายได้ขั้นต่ำให้กับบุคคลากรภาครัฐที่จบปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาท ซึ่งครม.เห็นชอบแล้ว และจะเริ่มใช้ในเดือน ม.ค.2555 อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ตนได้ให้กระทรวงการคลังหารือร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อหาแนวทางปรับเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบด้วยอีกครั้ง ซึ่งจะพิจารณาในโอกาสต่อไป นอกจากนี้ยังมีมาตรการลดภาษีบ้านหลังแรก เพื่อช่วยผู้ที่เริ่มตั้งตัว ที่สำคัญยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย อย่ามองว่าเป็นการเสียภาษีอย่างเดียว แต่การซื้อบ้าน 1 หลังจะเกิดการจ้างงาน จ้างคน และยังมีการจับจ่ายใช้สอยซื้อของเข้าบ้าน ซึ่งทำให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมาก และสิ่งที่ภาครัฐจะได้กลับคืนมาคือการเก็บภาษี ไม่ว่าจะเป็นค่าโอน VAT ส่วนประชาชนก็จะได้คืนภาษี ถือเป็นนโยบายที่ให้ประชาชนโดยตรง ไม่ผ่านผู้ประกอบการ อีกนโยบายที่หลักการคล้ายกันคือรถยนต์คันแรก ซึ่งกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเช่นกัน แต่ต้องเป็นรถยนต์ไม่เกิน 1500 ซีซี และประกอบในไทย ไม่มีเจตนากีดกันใด ๆ ทั้งสิ้น

นอกจากนี้ยังมีมาตรการลดราคาน้ำมัน ซึ่งได้ประกาศชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันไปแล้ว แต่ถือเป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อปะทังภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ยืนยันว่ารัฐบาลยังให้การส่งเสริมพลังงานทดแทนเหมือนเดิม ส่วนระยะยาวก็ต้องมีการปรับให้สะท้อนกลไกการตลาดมากขึ้น



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์