โอนตัว วีระ-ราตรี ทำได้ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล


แหล่งข่าวระดับสูงเปิดเผยว่า การดำเนินการขอโอนตัวนักโทษ กรณีนายวีระ สมความคิด กับน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ 2 คนไทยที่ถูกคุมขังในเรือนจำเปรซอร์ ในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย บุกรุกเขตทหาร และจารกรรมข้อมูล เพื่อเป็นภัยต่อปีความมั่นคง จะสามารถทำได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ที่จะสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการยื่นเรื่องร้องขอตัวนายวีระ และน.ส.ราตรี ตามสนธิสัญญาโอนตัวนักโทษไปยังกัมพูชา ในลักษณะต่างตอบแทน ที่เรียกกันว่า ช่องทางพิเศษ โดยมีกรณีตัวอย่างเกิดขึ้นแล้วใน ปี 2552 ตามที่ทางการกัมพูชาได้พิจารณาให้มีการโอนตัว 2 นักโทษ คือ นายมูฮัมหมัดยาลาลุดดิน มะมิง และ นายอับดุลอาซิ หะยีเจ๊ะมิง สองอุสตาซ (ครูสอนศาสนา) จาก จ.ยะลา ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาก่อการร้ายในประเทศกัมพูชา และถูกศาลกัมพูชาพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ถือเป็นฐานความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศเช่นกัน โดยทั้ง 2 ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเขมรแล้วหลังถูกจองจำนานถึง 6 ปี ตามข้อตกลงโอนตัวนักโทษระหว่างไทยกับกัมพูชา


ทั้งนี้ การพิจารณาโอนตัวนักโทษ ในลักษณะต่างตอบแทนนี้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของประเทศผู้ถูกร้องขอจะเป็นผู้อนุญาตให้มีการโอนตัวนักโทษได้หรือไม่ ซึ่งการโอนตัวไม่จำเป็นต้องระบุจำนวนนักโทษที่ถูกโอนตัวของสองประเทศต้องเท่ากัน หรือระยะที่ถูกจำคุกมาก่อนเข้ากระบวนการโอนตัวนักโทษ รวมไปถึงข้อหา เนื่องจากการโอนตัวนักโทษ ในช่องทางพิเศษนี้ ไม่มีกฎใดตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ต่างตอบแทนที่ประเทศผู้ร้องขอจะเรียกตอบแทนเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการโอนตัวนักโทษใช้เวลาพอสมควร แต่ดูจากเจตนาของทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว เปิดช่องให้ขอตัวนายวีระ และ น.ส.ราตรี ผ่านสนธิสัญญาโอนตัวนักโทษ อีกทั้งมีการพิจารณาลดโทษให้ด้วย จะเห็นว่า ฝ่ายการเมืองได้เปิดทางไว้แล้ว จากนี้ไปจึงขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไร



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์