สุเทพชี้แดงเชื่อมสัมพันธ์เขมรไร้ผล


'สุเทพ'บ่นเสียดายแดงลงทุนเชื่อมสัมพันธ์เขมรแต่ไร้ผล จับตาดูรบ.เริ่มเจรจาผลประโยชน์ทางทะเล ไม่หวั่นรัฐบาลเอาตั้งกระทู้คุยซกอาน มั่นใจแจงได้

         20 ก.ย.54 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงท่าทีของประเทศกัมพูชาในปัจจุบันซึ่งส่งผลด้านลบกับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นที่ชัดเจนว่า สมเด็จฮุนเซนได้เลือกข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย


 ดังนั้นสิ่งที่ สมเด็จฮุนเซน แสดงออกจึงสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ซึ่งน่าเสียดายที่ สมเด็จฮุนเซน กระทำการก้าวล่วงเข้ามาในการเมืองไทย และเป็นเรื่องที่เขาไม่ทำกัน

        
ทั้งนี้ตนเสียดายที่ได้ลงทุนลงแรงไปมากในการเชื่อมไมตรีกับ สมเด็จฮุนเซน แต่สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามเป็นหน้าที่ของคนไทยที่ต้องติดตามความเปลี่ยนแปลง ใครจะมีความสัมพันธ์จะดีร้ายอย่างไร แต่ต้องไม่ให้ชาติเราขาดทุน

        
ส่วนกรณีการตั้งข้อสังเกตเรื่องผลประโยชน์ทางทะเลนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องรอดูก่อนอย่าเพิ่งรีบสรุป สิ่งที่เขาเคยพูดคุยและเจรจากัน หรือที่กำลังจะเจรจาต่อไปข้างหน้ามีรายละเอียดอย่างไร แต่วันนี้มีอย่างหนึ่งการเจรจาระหว่างประเทศถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและเรื่องเขตแดนจะต้องมีการอนุญาตต่อรัฐสภา

        
ส่วนกรณีที่กัมพูชาแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าจะสนับสนุนแต่กลุ่มการเมืองแค่กลุ่มเดียวคือพรรคเพื่อไทย ซึ่งเท่ากับว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเป็นรัฐบาลจะส่งกระทบต่อความสัมพันธ์อีกนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ดูทีท่าว่าจะเป็นอย่างนั้น และคิดว่าน่าเสียดาย

เมื่อถามย้ำว่าหากเป็นอย่างนี้ 2 ประเทศจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปคิดไกล เพราะถึงวันนั้นสมเด็จฮุนเซ็นอาจจะหมดแรง ที่กัมพูชาก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้

        
เมื่อถามว่ามีการมอบเหรียญให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายนพดล ปัทมะ ทนายความส่วนตัวนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ เพราะมีความสัมพันธ์กัน ทำงานร่วมกันมาโดยตลอด จึงถือเป็นเรื่องธรรมดา

เมื่อถามว่า 2 คนนี้เป็นคนไทยแต่ไปรับเหรียญเกียรติยศของกัมพูชา ในฐานะที่ทำคุณงามความดีให้นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคงไม่ต้องอธิบายอะไร และไม่ต้องตอบเพราะคนไทยก็จะรู้สึกและสัมผัสได้เอง

        
เมื่อถามกรณีที่หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางกลับมาจากประเทศกัมพูชา และได้มีตัวแทนจากกลุ่มบริษัทเชฟรอนเข้าพบนั้น ถือว่าเป็นการส่อนัยอะไรหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องเป็นเรื่องที่จับตาดูเป็นพิเศษ การเจรจาระหว่าง 2 ประเทศเป็นเรื่องของหลักการ และเป็นเรื่องปกติที่ไม่มีอะไรน่ากังวลใจ เพราะหลังจากมีการตกลงทั้ง 2 ประเทศแล้วก็ต้องไปดูในรายละเอียดว่าเขาได้พูดถึงการบริหารจัดการพื้นที่นี้อย่างไร เช่น จะแบ่งพื้นที่ว่าโซนไหนใครเป็นคนดูแล หรือจะเอาทั้งหมดตั้งเป็นบริษัทร่วมกัน ต้องดูบริษัททั้งหมดได้รับใบอนุญาตสัมปทานหรือไม่ ทั้งๆ ที่เขตแดนยังไม่ชัดเจน จะได้รู้ว่าเขาได้ไปอย่างโปร่งใสหรือไม่ และหากได้บริหารร่วมกันแล้วจะจัดการให้มีการประมูลใหม่หรือไม่อย่างไร ก็ต้องไปพูดคุยกันต่อ

        
เมื่อถามว่าแม้ว่าจะมีการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 แต่คิดว่าจะมีช่องว่างตรงไหนที่สามารถให้รัฐบาลแอบไปดำเนินการบางอย่างได้โดยที่ไม่ต้องผ่านรัฐสภาได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าในหลักการคงเป็นไปได้ยาก ตนคิดว่าพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลจะร่วมกันบริหารอย่างไร จะแย่งผลประโยชน์อย่างไร ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องเจรจากัน แต่เราต้องตั้งคำถามและหาคำตอบว่าเขาจะบริหารอย่างไร เช่น กรณีพื้นที่ทับซ้อนไทย-มาเลเซีย ก็มีการตั้งบริษัทร่วมกัน 2 ประเทศ ซึ่งทุกอย่างต้องโปร่งใส

        
ส่วนกรณีที่ทางพรรคเพื่อไทยเตรียมตั้งกระทู้กรณีที่นายสุเทพไปเจรจาลับกับ นายซกอาน นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องดี ตนก็จะได้ชี้แจง เพราะไม่มีอะไรที่ต้องเป็นเรื่องกังวลใจ




เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์