“พร้อมพงศ์”ฟ้อง“นริศ”50ล.กล่าวหาฝากเด็ก

โชว์ตั๋วเครื่องบินไปพังงาวันถูกปูดวิ่งเต้นกระทรวงทรัพย์ฯ  แฉเจ้าตัวโทรขอโทษแต่เดินหน้าฟ้อง 

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีนายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เตือนประชาชนรับมือวิกฤติการเมืองรอบใหม่ใน 6 เดือนจากการใช้อำนาจเกินขอบเขตของรัฐบาล ว่าเป็นกล่าวหาพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลโดยใช้จินตนาการของนายอรรถพรเอง อีกทั้งตั้งข้อสังเกตว่าการทำนายดังกล่าวน่าจะเป็นแผนการล้มรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือไม่ รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพิ่งทำงานมาได้ 20 วัน แต่กล้าตัดสินใจบริหารราชการหลายเรื่อง อาทิ ลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชนที่พรรคประชาธิปัตย์บริหารประเทศมา 2 ปีแต่ยังไม่กล้าดำเนินการ รวมถึงกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้เป็นวาระแห่งชาติ แสดงให้เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นสุภาพสตรีแต่ทำงานไม่แพ้ผู้ชายอกสามศอก และผ่านมา 20 วันน่าจะทำงานมากกว่า 2 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ การที่นายอรรถพรพูดจาถากถางว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำงานไม่เป็น แค่เดินโชว์หุ่นไปวันๆ นั้น เป็นการกล่าวหาที่ไม่ให้เกรียติสุภาพสตรี ถือว่าไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ รับรองว่า 6 เดือน ไม่มีวิกฤตการเมืองแน่ แต่รัฐบาลจะแก้ปัญหาสร้างความสุขให้ประชาชน

นายพร้อมพงศ์  กล่าวอีกว่า  ส่วนที่นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวหาใส่ร้ายตนว่าไปพบนายดำรง พิเดช อธิบดีกรมอุทยาน เมื่อวันที่ 9 ก.ย.

เพื่อฝากคนของตนในการโยกย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่งแต่นายดำรงไม่ยอมและทำให้ตนเองจะวางมวยกับนายดำรงนั้น ขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิง เป็นเพียงวิชามารการเมืองกล่าวหาใส่ร้ายด้วยข้อความเป็นเท็จ ตนไม่เคยรู้จัก ไม่เคยไปพบนายดำรง  วันดังกล่าวตนเดินทางไปร่วมรับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.พังงา ตามคำเชิญของผวจ.และหอการค้า ในฐานะที่เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 201  เวลา  07.35 น. ถึงภูเก็ต 09.00 น. มีตั๋วเครื่องบิน ภาพนิ่งและคลิปวีดีโอบันทึกการร่วมประชุมเป็นหลักฐานชัดเจน และยังได้พูดคุยกับเลขานุการส่วนตัวนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์และนายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ที่ไปร่วมงานดังกล่าวด้วย จากนั้นเดินทางกลับกรุงเทพฯ วันที่ 10 ก.ย.เที่ยวบิน ทีจี 617 เวลา 19.00 น. เพื่อเตรียมตัวแถลงข่าวในวันอาทิตย์ ที่ 10 ก.ย. ที่พรรคเพื่อไทย 
               

“การกระทำของนายนริศ เป็นการกล่าวหาโจมตีผมได้รับความเสียหาย ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่พี่น้องประชาชน จึงมอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้องร้องเอาผิดต่อนายนริศ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 328  พร้อมกับฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 50 ล้านบาท โดยจะยื่นฟ้องในสัปดาห์นี้ เรื่องนี้จะเป็นคดีตัวอย่าง ไม่ใช่เป็นฝ่ายค้านอยากกล่าวหาใครลอยๆ ก็ได้ และผมจะนำเงินครึ่งหนึ่งคือ 25 ล้านบาทที่ชนะฟ้องคดีแพ่งไปมอบให้กับบ้านเด็กปัญญาอ่อน” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่านายดำรงให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าวันที่ 9 ก.ย.พบนายพร้อมพงศ์ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแต่ไม่ได้มีเรื่องตามที่กล่าวหา
 
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า จะเจอได้อย่างไร ตนอยู่ จ.พังงา ถามว่าวันที่ 9 ก.ย.ที่บอกเจอกันในปีไหน แต่ยอมรับว่าเคยเจอนายดำรงมาก่อนซึ่งอาจจะเป็นในปี 2553 ตอนนั้นนายดำรงเป็นรองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ก็แค่สวัสดีทักทายกันปกติเพราะพอจำได้ว่าท่านเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันเลย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานก็ไม่เคยไป

เมื่อถามว่าจะฟ้องนายดำรงเพราะให้สัมภาษณ์ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด รวมถึงสื่อที่เผยแพร่ข่าวด้วยหรือไม่ นายพร้อมพงศ์ กล่าว นายดำรงไม่เกี่ยวและคงไม่สอบถามอะไรกับนายดำรงด้วย ส่วนสื่อมวลชนทำตามหน้าที่ตนจึงไม่ฟ้องร้อง จะฟ้องเอาผิดนายนริศคนเดียว 

“เช้าวันนี้ (12 ก.ย.) ประมาณเก้าโมง นายนริศโทรศัพท์มาหาผม 2-3 ครั้ง ขอโทษผมเป็นการส่วนตัว บอกว่าการให้สัมภาษณ์มีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ซึ่งผมก็ติงไปว่าจะคลาดเคลื่อนได้อย่างไรเมื่อเอ่ยชื่อผมชัดเจน และทำไมไม่สอบถามผมก่อนให้ข่าว ซึ่งผมก็บอกกับนายนริศไปว่ายังไงผมก็ต้องฟ้อง เพราะผมเป็น ส.ส. เป็นโฆษกพรรคเป็นตำแหน่งในกรรมการบริหารพรรค การบอกว่าผมไปวิ่งเต้นฝากเด็กถือว่าฝ่ายนิติแทรกแซงข้าราชการ เป็นความผิดตามรัฐธรรมนูญ เขาอาจจะยื่นถอดถอนได้ ผมต้องฟ้องให้เป็นคดีตัวอย่าง คนเราจะพูดปากไม่มีหูรูดไม่ได้” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
 


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์