´ทักษิณ´ ขอเป็นปีสมานฉันท์

ไทยรัฐ

วานนี้ (30 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.15 น. นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกรณีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ไม่มีการหารือเรื่องการจะอนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับประเทศเพื่อมาสู้คดี ว่าเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว ท่านอยู่ที่กรุงปักกิ่งสบายดี และมีอดีต ส.ส.มาเยี่ยมบ้าง ส่วนใหญ่ พ.ต.ท.ทักษิณใช้เวลาพักผ่อนอ่านหนังสือ แต่ก็เบื่อบ้าง เพราะไม่ได้ทำอะไร ในแง่สถานการณ์การเมืองในปี 2550 พ.ต.ท.ทักษิณอยากให้ปี 2550 เป็นปีแห่งความสมานฉันท์ การตรวจสอบหรือการดำเนินคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวท่านและครอบครัวขอให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เป็นกลาง อย่ากลั่นแกล้งกัน อย่าทำให้การตรวจสอบเป็นการต้อนให้เข้าตาจน นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังฝากแสดงความขอบคุณประชาชนที่ได้ส่งการ์ดอวยพรปีใหม่ไปให้ทั้งที่ทำการพรรคไทยรักไทยและที่บ้านพักอย่างมากมาย

ระบุรักชาติไม่น้อยกว่าคนอื่น

นายนพดลกล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณแสดงท่าทีและจุดยืนที่ชัดเจนว่ามีความประสงค์จะเดินทางกลับหรือไม่นั้น ขอเรียนว่า พ.ต.ท.ทักษิณท่านก็เป็นห่วงบ้านเมืองไม่น้อยไปกว่านายอภิสิทธิ์ พูดได้เลยว่าไม่เคยทำให้บ้านเมืองเสียหาย และจะไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหายด้วย พ.ต.ท.ทักษิณเองสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สำนึกในบุญคุณของแผ่นดินและสำนึกในพระคุณของผู้สนับสนุน ไม่มีวันที่จะไปหวังทำอะไรให้บ้านเมืองเสียหาย ถ้าท่านจะกลับมาประเทศไทยก็เป็นสิทธิที่ทำได้อยู่แล้ว แต่ที่ยอมอยู่ในต่างประเทศ ไม่กลับมาเพราะเสียสละเห็นแก่ความสมานฉันท์ เพื่อให้บ้านเมืองกลับมาสู่ภาวะปกติ

พร้อมกลับมาสู้ข้อกล่าวหา คตส.

ในเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณเสียสละเห็นแก่ประเทศชาติ แล้ว ขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่ว่าเมื่อยอมอยู่ในต่างประเทศแล้วแต่มีการกลั่นแกล้งท่านและครอบครัว โดยที่ไม่ได้ อยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม ตามมาตรฐานกระบวน การยุติธรรมที่ควรจะเป็น ถ้า คตส.มีการแจ้งข้อกล่าวหาเมื่อใด ท่านจะกลับมารับทราบข้อกล่าวเท่านั้นเอง ไม่ได้ มุ่งหวังที่จะไปทำอะไรที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย โดยตอนนี้ยังไม่มีกำหนดที่แน่นอนว่าจะกลับมาเมื่อใด ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์และกระบวนการในการตรวจสอบที่จะเดินไปตามขั้นตอนต่อไป นายนพดลกล่าว

ติง คมช.อย่าเหลิงใช้อำนาจ

ขณะที่นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีข้อเสนอไปถึง คมช. และรัฐบาลใน 3 อย่า คือ 1. อย่าว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง คืออย่าไปกล่าวหาผู้อื่นแต่ในที่สุดก็ทำเสียเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริยธรรม จรรยาบรรณ การทุจริตคอรัปชัน หรือการใช้อำนาจในทางที่ผิด 2. อย่าเดียดฉันท์ แทนสมานฉันท์ แม้การปราบปรามการทุจริตจะต้องนำคนผิดมาลงโทษอย่างตรงไปตรงมา แต่อย่าใช้อำนาจด้วยการตั้งธงทางการเมืองและสร้างความลำเอียง จนเกิดความเดียดฉันท์มากกว่าสมานฉันท์ และ 3. อย่าบิดเบือนเพื่อรักษาอำนาจ หรือสืบทอดอำนาจของตนเอง เพราะสัญญาณที่ทำให้คนไม่สบายใจถึงการสืบทอดอำนาจด้วยการวางพื้นฐานทางรากหญ้า ขยายอายุงานของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นตัวอย่างของการเริ่มต้นในการสืบทอดอำนาจแล้ว

ย้ำชัด คมช.ไม่คิดสืบทอดอำนาจ

วันเดียวกัน พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ว่า ในทางการเมืองคิดว่าปีหน้าปี 2550 ก็เป็นปกติ อาจมีการเคลื่อนไหวเพราะปีหน้าจะต้องเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องทางการเมืองและเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาที่ได้บอกไว้แล้วว่าถ้าการเคลื่อนไหวใดๆก็ตาม ไม่ได้ให้เกิดความเดือดร้อนกับส่วนรวม สถานการณ์ค่อนข้างปกติ และหน่วยราชการเช่นพลเรือน ตำรวจก็จะต้องมารับหน้าที่ไป เราจะคอยดูแลและคอยเตือนโดยจะมีการวางแผนร่วมมือกันทำงาน เมื่อถามว่า คาดหวังอะไรกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ พล.ท.ประยุทธ์ตอบว่า ทุกส่วนมีบทบาททั้งภาครัฐภาคเอกชนและภาคประชาชน แน่นอนว่าต้องมีอะไรดีเพราะถ้าไม่ดีคงลำบาก เพราะได้คัดสรรการเตรียมการต่างๆมากพอสมควรจึงน่าจะมีอะไรดีขึ้นแน่นอน และทุกคนอยากให้มีรัฐธรรมนูญดี อยากให้มีรัฐบาลที่ดีซึ่งเป็นความหวังของคนไทยทั้งชาติ ที่อยากให้บ้านเมืองสงบสุข เมื่อถามว่าเป็นห่วงการลงจากอำนาจของ คมช.หรือไม่ พล.ท.ประยุทธ์ตอบว่า อย่าไปคิดว่ามีอำนาจหรือไม่มีอำนาจดีกว่า ควรคิดว่าเราจะช่วยอะไรบ้านเมืองได้ ซึ่งประธาน คมช.พูดชัดเจนว่า ตั้งใจมาทำงานและไม่คิดสืบอำนาจ เป็นคำพูดที่พูดเสมอว่าเราทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองตามระยะเวลาที่สมควรทำเมื่อถึงระยะเวลาเราก็จะทำหน้าที่ของทหารตามปกติ

ผบ.ทบ.ห่วงเหตุร้ายช่วงปีใหม่

เมื่อถามว่าในช่วงปีใหม่มีอะไรจะต้องระแวดระวังเกี่ยวกับการก่อวินาศกรรมของพวกมือที่ 3 พล.ท.ประยุทธ์ ตอบว่า ผบ.ทบ.ได้ย้ำว่า อย่าให้มีเรื่องมีราวเกิดขึ้นในช่วงปีใหม่ เพราะหยุดรายวันดังนั้นเราจะต้องเสียสละกันประเด็นสำคัญคือ 1. จะต้องรักษาสถานที่ของเราเองด้วยไม่ใช่ดูแลสถานที่ของหน่วยอื่น กองทัพภาคที่ 1 จะต้องดูแลสถานที่ของตัวเองและสถานที่พื้นที่รับผิดชอบใน 26 จังหวัด ซึ่งเราได้มีการแบ่งพื้นที่ไว้แล้วให้หน่วยเข้าไปดูแลทุกจังหวัดใน 26 จังหวัด 14 พื้นที่จะต้องเข้าไปดูแลให้ประชาชนมีความปลอดภัยและสบายใจในช่วงปีใหม่นี้คือ เรื่องความไม่สงบความมั่นคงจึงจะต้องไปดูแลประชาชน ได้รับความเดือดร้อนอะไร เราจะต้องเข้าไปช่วยเหลือโดยจะมีทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ช่วงปีใหม่ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนา ทหารก็จะต้องไปดูแลตามจุดต่างๆหรือสถานที่สำคัญ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์