ชลิต ชี้การเมืองเป็นเรื่องของทุกคนในชาติ -ฝากปชช.ช่วยกันดูแล

"ชลิต" ชี้การเมืองเป็นเรื่องของทุกคนในชาติ -ฝากปชช.ช่วยกันดูแล

พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 ธันวาคม 2549 13:00 น.

ชลิต เชื่อสถานการณ์การเมืองไทยจะดีขึ้นในปี 50 ฝากประชาชนทุกกลุ่มมีส่วนร่วมดูแลปัญหาบ้านเมือง ติงนักการเมืองอย่าอาสาเข้ามาเล่นการเมือง มุ่งหวังเพียงเข้ามาหาประโยชน์จากตำแหน่ง พร้อมอวยพรให้คนไทยมีความสุขและสมานฉันท์ในปีใหม่ นี้

วันนี้ (31 ธ.ค.) พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศในฐานะ รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงการที่ได้เข้ามาสัมผัสกับการเมือง ว่า การเมืองเป็นเรื่องของทุกคนในชาติ เพียงแต่ว่าแต่ละคนมีหน้าที่ตรงจุดใด ไม่ใช่เรื่องของนักการเมืองเพียงกลุ่มเดียว เพราะนักการเมืองคือผู้อาสาเข้ามาทำหน้าที่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะมีอาชีพทหาร ข้าราชการ พลเรือน แพทย์ ต่างมีหน้าที่ต่อเรื่องการเมืองทั้งสิ้น ในการที่จะเลือกคนที่เหมาะสม มาทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องพยายามให้ความรู้ ความเข้าใจกับประชาชนทุกส่วน

เรามีรัฐธรรมนูญมา 74 ปี ถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับยุโรป หรืออเมริกา ของเราค่อนข้างสั้น

และบางครั้งคนก็ใช้ประโยชน์จากประชาชนในท้องถิ่น ให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองกับพรรค ทำให้การพัฒนาตรงเป็นไปได้ยาก แต่ในอนาคตประชาชนในทุกสาขาอาชีพ ในทุกอำเภอจะค่อย ๆ รู้ว่า เขาจะเลือกใครมาทำหน้าที่ตรงนี้ คิดว่าการเมืองเราคงค่อย ๆ ดีขึ้น กติกาของชาติคือรัฐธรรมนูญจะเป็นกรอบกำหนดเฉย ๆ และถ้าได้วุฒิสมาชิกที่มีวุฒิภาวะ ความรู้ อุทิศตนเพื่อประเทศชาติแท้ ๆ เราจะได้กลุ่มคนที่ช่วยถ่วงดุลอำนาจ ได้สมาชิกสภาผู้แทนฯ ที่ไม่พึงหวังประโยชน์เข้ามาเพื่อจะได้มีกิจการรับเหมา ก่อสร้าง สร้างถนน สร้างฝายน้ำ แต่เข้ามาเพื่อทำให้การปกครอง การบริหารประเทศเป็นไปอย่างดี อันนั้นจะถึงจุดสุดยอดทางการเมืองไทย รองประธาน คมช. กล่าว

พล.อ.อ.ชลิต ยังให้ความเห็นเรื่องที่มาของวุฒิสมาชิก ว่า ถ้าเป็นยุคของประชาธิปไตย การเลือกเข้ามาน่าจะเป็นผลดี แต่ต้องขึ้นอยู่กับพื้นฐานของคนเลือก และการตั้งใจอุทิศตัวของวุฒิสมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาว่าต้องการเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติจริงหรือไม่ หรือทำเพื่อให้ได้รับสิ่งตอบแทนหรือผลประโยชน์ แต่ถ้าไม่สามารถเลือกตั้งเพื่อให้ได้คนที่ดีจริง ๆ เข้ามาได้ อาจจะต้องมาจากการแต่งตั้ง หรือเลือกมาแล้วจำแนกกลุ่มคล้ายกับการสรรหาสมัชชาแห่งชาติของ กดส. แต่ทำให้กว้างขวางมากขึ้นก็อาจจะเป็นหนทางปฏิบัติได้อีกทางหนึ่ง สำหรับการดำเนินการที่แตกต่างจากที่ผ่าน

ที่ผ่านมาที่ห้ามผู้สมัครวุฒิสมาชิกสังกัดพรรคการเมืองก็จะได้กลุ่มคนของอดีต ซึ่งไม่ได้ลงรายชื่อว่าสังกัดพรรค

แต่จริง ๆ แล้วสังกัดหรือไม่ ความผูกพัน เราไม่ทราบเบื้องหลังเป็นอย่างไร แต่ถ้าดูจากการกระทำ บางครั้งก็ไม่แน่ใจว่าผูกและเกี่ยวพันกับพรรคการเมืองหรือไม่ แต่ถ้ามีสัดส่วนของกลุ่ม และให้เลือกกันมาโดยนำวิธีของคณะกรรมการกำกับดูแลการสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ (กดส.) ไปประยุกต์ใช้ อาจจะได้กลุ่มคนที่ดี แต่ละอาชีพเข้ามาเป็นวุฒิสมาชิกได้ และผมคิดว่า การเข้ามาทำงาน 2 เทอม หรือ 8 ปีก็มากเกินไปแล้ว การทำงานการเมืองเป็นเรื่องของการอุทิศตนให้ประเทศและประชาชน บางครั้งต้องไม่ใช้ตรงนี้เป็นอาชีพ ต้องเป็นการอุทิศตัวให้ประชาชน และประเทศแท้ ๆ ถ้าเราเอาตรงนี้มาเป็นอาชีพ เราก็จะประกอบอาชีพ เพื่อให้ได้ผลประโยชน์จากการประกอบอาชีพนี้ รองประธาน คมช. กล่าว

เมื่อถามถึงข้อห่วงใยและสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิกที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในอนาคตดำเนินการ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่มี เพราะแต่ละคนต่างก็มีวุฒิภาวะและประสบการณ์สูงมากพอ อย่างไรก็ตาม การมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือวุฒิสมาชิกในอนาคต ต้องมาทำงานการเมือง ไม่ใช่มาเล่นการเมือง หรือมีอาชีพเป็นนักการเมือง ฉะนั้น ต้องอาสาสมัครเข้ามาโดยที่ต้องไม่หวังผลประโยชน์ แต่ถ้าทำเพื่อให้พรรคได้ประโยชน์จากตรงนี้ ก็จะทำให้เกิดความเสียหาย ควรจะเป็นการให้กับประเทศ มากกว่าที่จะมาเอาอะไรจากประเทศ

พล.อ.อ.ชลิต ยังได้กล่าวอวยพรปีใหม่ให้กับประชาชน ว่า

ในปี 2550 นี้ประชาชนคนไทยคงมีจิตใจที่เบิกบานมากขึ้นกว่าปี 2549 เนื่องจากเรามีความหวังสำหรับความสำเร็จในการแก้ไขสถานการณ์ในบ้านเมือง ทำให้คนเกิดความสมานฉันท์ มีความเข้าใจ และช่วยกันทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น และบ้านเมืองสามารถพัฒนาต่อไปได้

คิดว่าความสุขของคนไทยในปีใหม่นี้จะต้องดีขึ้น และอยากจะขออัญเชิญพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปกปักรักษา พระราชทานพรให้ทุกคนมีความสุข คำนึงถึงความห่วงใยที่พระองค์ท่านทรงมีต่อประชาชน แล้วเราจะซาบซึ้งและมีความสุข รองประธาน คมช. กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์