กกต.ฟุ้ง 3 เดือนพอใจผลงาน !เฮี๊ยบย้ายล้างบางต่อปี 50

กกต.ฟุ้ง 3 เดือนพอใจผลงาน !เฮี๊ยบย้ายล้างบางต่อปี 50

ที่ประชุมกกต.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 ธันวาคม 2549 18:36 น.

"อภิชาติ" พอใจการทำงานช่วง 3 เดือน สามารถประกาศผลเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเกือบ 300 แห่งได้แล้วเสร็จ ย้ำ กกต.จะยึดหลักความเป็นธรรมและซื่อสัตย์ ยอมรับหนักใจต่อปัญหาบุคคลากรภายใน ซึ่งคงต้องมีการปรับเปลี่ยนอีกหลายระลอก

วันนี้ (30 ธ.ค.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการเข้ามาทำงานในฐานะ กกต. ครบรอบ 3 เดือน ว่าผลงานเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งสิ่งที่พอใจมากที่สุดคือการแก้ปัญหาการเลือกตั้งท้องถิ่นที่คั่งค้างการประกาศผลอยู่ รวมทั้งเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก ทำให้ท้องถิ่นไม่สามารถบริหารงานได้ จึงเกิดปัญหาอย่างมาก จึงได้ขอให้คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขออกประกาศให้ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งท้องถิ่นภายใน 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง ซึ่งคณะปฏิรูปก็เห็นด้วย จึงสามารถประกาศรับรองผลการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ จำนวน 285 แห่ง ถือเป็นผลงานแรกของ กกต. ที่พอใจ และต่อไปนี้การเลือกตั้งท้องถิ่นต้องรวดเร็ว จะไม่มีการค้างประกาศอีก

สำหรับเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นโดยเฉพาะการเลือกตั้ง ส.ก. 50 เขต ของ กทม.ที่ผ่านมา ตอนนี้ก็กำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่บางส่วน หากพบเหตุทุจริตก็จะสั่งเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจากที่ตรวจสอบข้อมูลจะต้องสั่งเลือกตั้งใหม่แน่นอน แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าในเขตใด ขอให้สืบสวนสอบสวนให้เรียบร้อยก่อน นายอภิชาต กล่าว

นายอภิชาต ยังกล่าวถึงการจัดระเบียบภายในองค์กรของ กกต. ว่า

การจัดระบบเริ่มดีแล้ว ทุกอย่างเริ่มเข้าที่ เจ้าหน้าที่เริ่มเข้าใจจุดมุ่งหมายการทำงานของ กกต. ที่เน้นเรื่องความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา ไม่ยอมให้มีการมาวิ่งเต้น ตนจะทำองค์กรให้เป็นสีขาว มองเข้ามาแล้วต้องบริสุทธิ์ โปร่งใส หากพบเจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมปรากฏข้อเท็จจริงว่าอาจจะเป็นการกระทำโดยไม่สุจริตก็จะตั้งกรรมการสอบ ซึ่งที่ผ่านมาทำไปหลายชุดแล้ว เช่น ชุดที่ให้สอบเจ้าหน้าที่กรณีที่ กกต.เคยมีมติให้เลือกตั้งใหม่และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งด้วย แต่เจ้าหน้าที่โทรสารแจ้งไปยัง กกต.จังหวัดเพียงแต่ว่าให้เลือกตั้งใหม่ ไม่ได้แจ้งเรื่องการเพิกถอนสิทธิผู้สมัคร ทำให้ผู้สมัครที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้งและได้กลับเข้าไปมีตำแหน่งทางการเมืองใหม่ได้ รวมทั้งเรื่องการลงนามของ กกต.ในคำวินิจฉัยไม่ครบ การปล่อยเรื่องที่จะต้องดำเนินคดีให้ผ่านมาเกิน 1 ปี

มีหลายเรื่องที่เราตั้งกรรมการสอบเจ้าหน้าที่ในเรื่องการทุจริต มีผลประโยชน์อามิสสินจ้างเข้ามาเกี่ยวข้อง

ผมก็ต้องดำเนินการตามกฏหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการตั้งกรรมการสอบต้องใช้เวลา การสอบตอนนี้มีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สรุปผล ซึ่งก็ใกล้จะสรุปผลแล้วเราต้องให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ นายอภิชาต กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่กลัวว่าเจ้าหน้าที่จะฮั้วกันหรือ เพราะ กกต.ชุดนี้ตั้งเจ้าหน้าที่เป็นกรรมการสอบกันไปมา คนนั้นสอบเรื่องหนึ่ง คนที่สอบก็ถูกตั้งกรรมการสอบอีกเรื่องหนึ่งโดยเจ้าหน้าที่ที่ถูกสอบเอง นายอภิชาต กล่าวว่า อย่าให้ตนรู้แล้วกันว่าฮั้วกัน ถ้าหลักฐานชัดหรือรู้ว่าฮั้วกันจะดำเนินการอย่างจริงจังแน่นอน

นายอภิชาต กล่าวด้วยว่าปัญหาการโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของสำนักงาน กกต. ซึ่งมีเสียงสะท้อนไม่พอใจและระบุว่ามีการวิ่งเต้นว่า

ขณะนี้ กกต.อยู่ระหว่างการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด การขยับปรับเปลี่ยนของบุคลากรในแต่ละสายมีความจำเป็นต้องทำ เพราะบางคนที่ทำงานเดิม ๆ อยู่อาจจะเบื่อหน่าย หรือสามารถดึงศักยภาพของตนเองออกมาได้จำกัด หากขยับหมุนเวียนกันบ้างอาจจะทำให้ทำงานให้ดีขึ้นได้ ซึ่งการตัดสินใจว่าพนักงานคนใดจะอยู่ในตำแหน่งใดนั้นเป็นการพิจารณาร่วมกันระหว่าง กกต.ทั้ง 5 คน และเลขาธิการ กกต. โดยดูความรู้ ความสามารถ ความถนัด อาวุโส ตลอดจนการพิจารณาเรื่องการยอมรับของเพื่อนร่วมงาน ตนขอยืนยันว่าไม่มีการวิ่งเต้นอย่างแน่นอน

"พวกเราเป็นผู้พิพากษา ยึดหลักหลักความเป็นธรรมอยู่แล้ว หลังจากมีการโยกย้ายปรับเปลี่ยนตำแหน่งกันแล้ว กกต.จะจับตาดูการทำงานของทุกคนโดยตลอด ใครทำงานไม่เป็นไม่มีผลงานอีกไม่นานก็รู้ หากทำงานได้ไม่เป็นไปตามเป้าก็คงต้องมีการปรับเปลี่ยนอีก อย่าชะล่าใจว่าเมื่อได้รับแต่งตั้งแล้วจะไม่มีการโยกย้ายอีก หากไม่มีผลงานก็ต้องปรับปรุงกันใหม่จนได้ประสิทธิภาพการทำงานที่เต็มร้อยมากที่สุด เมื่อแต่งตั้งได้ก็ต้องย้ายได้เช่นกัน" นายอภิชาต กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์