ผบ.สส.ชี้รมว.กลาโหมเก่าหรือใหม่ทหารยังเหมือนเดิม

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด

ให้สัมภาษณ์ถึง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ ว่า จะมีรัฐมนตรีเก่าหรือใหม่ก็เหมือนกัน การทำงานของกองทัพเหมือนเดิม โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้บังคับบัญชาของทุกเหล่าทัพ สำหรับโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตนไม่อยากวิจารณ์ ส่วนการคาดหวังกับรัฐบาลชุดนี้ ต้องถามประชาชน

พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า ส่วนการแก้ไขปัญหาชายแดนไทยกัมพูชานั้น ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน

หากว่า รมว.กลาโหมต้องการทราบสิ่งใด เราพร้อมนำเรียน ส่วนการส่งผู้สังเกตการณ์ลงไปในพื้นที่ชายแดนเป็นเรื่องของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องประชุมหารือกันถึงมาตรการในการดำเนินการ ส่วนหากรัฐบาลจะสั่งถอนกำลังทหารก็ขอให้สั่งมา

ด้าน พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)
 
กล่าวถึงความพร้อมในการเสนอโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำมือสองจากประเทศเยอรมนี ว่า ขณะนี้ยังไม่สิ้นปีงบประมาณ คิดว่าจะเสนอขอความเห็นชอบจากรัฐบาลต่อไป ซึ่งยืนยันจะเสนอโครงการเดิมที่เราได้ศึกษาไว้ เพราะได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่า งบประมาณที่มีอยู่เท่านี้ ควรจะเดินหน้าอย่างนี้ โดยจะเสนอไปที่ รมว.กลาโหมอีกครั้ง จากการที่รัฐบาลเดิมสั่งการไว้ว่าให้เราเสนอโครงการนี้ในรัฐบาลใหม่ เราก็ดำเนินการตามคำสั่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ทางเยอรมนียังไม่ได้ขายเรือดำน้ำให้ใคร

“ขณะนี้กองทัพเรือได้จัดซื้อเฮลิคอปเตอร์แบบ Naval Hawk รุ่น MH-60S เข้าประจำการ ซึ่งปีหน้าจะมีการจัดส่งมาให้จำนวนทั้งหมด 4 เครื่อง โดยซื้อจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางทะเล ซึ่งมีลักษณะพิเศษเกี่ยวกับอุปกรณ์ในการเดินอากาศ ที่ต้องมีความพร้อม เพราะหากอยู่บนเรือจะมองไม่เห็นอะไร นอกจากน้ำกับฟ้า รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ต้องไม่เป็นสนิม เพราะอยู่บนน้ำทะเล สำหรับภารกิจในการปราบเรือดำน้ำ ค้นหา และกู้ภัย จะใช้เป็นเฮลิคอปเตอร์ในภารกิจควบคู่กับเรือจักรีนฤเบศร์” พล.ร.อ.กำธรกล่าว

เมื่อถามว่า โครงการการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ต่อรัฐบาลใหม่จะราบรื่นหรือไม่ พล.ร.อ.กำธรกล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่จะเสนอด้วยเหตุด้วยผลมากที่สุด