ผบ.สส.ยันรัฐบาลเปลี่ยนแต่ทหารไม่เปลี่ยน


พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงกรณีการแต่งตั้ง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ว่า

จะมีรัฐมนตรีเก่าหรือใหม่ก็เหมือนกัน การทำงานของกองทัพเหมือนเดิม โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาของรมว.กลาโหม และรมว.กลาโหมเป็นผู้บังคับบัญชาของทุกเหล่าทัพ เมื่อรัฐบาลได้มอบนโยบายผ่านทางรมว.กลาโหม ท่านก็จะสั่งการลงมา โดยผ่านตน และตนจะเชิญ ผบ.เหล่าทัพมาประชุมหารือ 


ผบ.สส. สำหรับโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.)ตนไม่อยากวิจารณ์ ส่วนการคาดหวังกับรัฐบาลชุดนี้ ต้องถามประชาชน อย่างไรก็ตามแม้จะเปลี่ยนรัฐบาล แต่นโยบายของกองทัพยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เพราะกองทัพมีหน้าที่ในการป้องกันอธิปไตยตามแนวชายแดน 

พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ส่วนการแก้ไขปัญหาชายแดนไทยกัมพูชานั้น ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน หากรมว.กลาโหมต้องการทราบสิ่งใด เราพร้อมนำเรียน ส่วนการส่งผู้สังเกตุการณ์ลงไปในพื้นที่ชายแดนเป็นเรื่องของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องประชุมหารือกันถึงมาตรการในการดำเนินการ ส่วนหากรัฐบาลจะสั่งถอนกำลังทหารก็ขอให้สั่งมา 

ขณะที่ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า เมื่อมีผู้บังคับบัญชาเข้ามาใหม่ จะมีการนำเสอให้ท่านทราบว่า วิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ของเราเป็นอย่างไร และมีการดำเนินการอะไรไปบ้าง และสิ่งที่เราจะดำเนินการในวันข้างหน้า รวมถึงอุปสรรคข้อขัดข้องในวันข้างหน้าที่จะมีขึ้นว่า จะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไร และจะขอความอนนุเคราะห์จากรัฐบาลใหม่อย่างไร

ส่วนเรื่องความพร้อมในการเสนอโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำมือสองจากประเทศเยอรมัน พล.ร.อกำธร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สิ้นปีงบประมาณ ซึ่งยืนยันจะเสนอโครงการเดิมที่เราได้ศึกษาไว้ เพราะได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่า งบประมาณที่มีอยู่เท่านี้ ควรจะเดินหน้าอย่างนี้ ซึ่งการใช้งบประมมาณเป็นการจัดสรรงบจากกองทัพเรือเอง เป็นงบในกรอบที่รัฐบาลให้อยู่แล้ว เป็นการอนุมัติขอดำเนินการ เพราะต้องทำในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล โดยจะเสนอไปที่รมว.กลาโหมอีกครั้ง จากการที่รัฐบาลเดิมสั่งการไว้ว่า ให้เราเสนอโครงการนี้ในรัฐบาลใหม่ เราก็ดำเนินการตามคำสั่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ทางเยอรมันยังไม่ได้ขายเรือดำน้ำให้ใคร 

ขณะนี้กองทัพเรือได้จัดซื้อเฮลิคอปเตอร์แบบ Naval Hawk รุ่น MH-60S เข้าประจำการ ซึ่งปีหน้าจะมีการจัดส่งมาให้จำนวนทั้งหมด 4 เครื่อง โดยซื้อจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีขีดความสามารถในการปกิบัติการทางทะเล ซึ่งมีลักษณะพิเศษเกี่ยวกับอุปกรณ์ในการเดินอากาศ ที่ต้องมีความพร้อม เพราะหากอยู่บนเรือจะมองไม่เห็นอะไร นอกจากน้ำกับฟ้า รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ต้องไม่เป็นสนิม เพราะอยู่บนน้ำทะเล สำหรับภารกิจในการปราบเรือดำน้ำ ค้นหา และกู้ภัย จะใช้เป็นเฮลิคอปเตอร์ในภารกิจควบคู่กับเรือจักรีนฤเบศร์” พล.ร.อ.กำธร กล่าว 

เมื่อถามว่า โครงการการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ต่อรัฐบาลใหม่จะราบรื่นหรือไม่ พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่จะเสนอด้วยเหตุด้วยผลมากที่สุด ตอบข้อสงสัยให้ได้มากในทุกด้าน ถ้าชี้แจงแล้วไม่มีข้อสงสัย ก็ไม่น่ามีข้อขัดข้อง

เมื่อถามว่า จะมีการนัดพบกับรมว.กลาโหมหรือไม่ พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี แต่คงไม่มีปัญหาเพราะเคยทำงานกับท่านมาในด้านกีฬา ซึ่งท่านสนับสนุนเมื่อครั้งตนทำงานอยุ่ที่สมาคมเรือพาย และสมาคมเรือใบ มีความคุ้นเคยกัน ที่ผ่านมาท่านเคยเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม และรมช.กลาโหม ดูจากสายงานต่างๆไม่น่ามีปัญหา ทั้งนี้ตนคงไม่กล้าต่อสายหาเป็นการส่วนตัว ตอนนี้ท่านยังยุ่งอยู่ ไว้รอให้เข้าที่เข้าทางก่อนคงจะได้พบท่าน จะได้นำเรียนในเรื่องงาน
 



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์