พท.ดิ้นเฮือกสุุดท้ายต่อรองเก้าอี้รมต.


ส.ส.อีสาน พท. ตั้งวงถก ลั่นล็อคโควตา 8 รมต. ขณะที่ ส.ส.เหนือ ปรับแผนหลังไม่คืบ รุกตรวจสอบคนทำงานไม่ดี ด้าน 'เหลิม' น้อยใจ แต่ยังแอบลุ้นอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเสร็จสิ้นลง กลุ่มส.ส.อีสานได้ประชุมหารือกันที่พรรคเพื่อไทย โดยนายพายัพ ชินวัตร ประธานภาคอีสานนั่งหัวโต๊ะในการประชุม

ทั้งนี้ ได้มีการหารือถึงตำแหน่งรัฐมนตรีและประธานกรรมาธิการคณะต่างๆ ที่ส.ส.ภาคอีสานควรจะได้รับ โดยเบื้องต้นส.ส.ภาคอีสาน มองว่า ควรจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างน้อย 8 ที่นั่งเพราะภาคอีสานมีส.ส.ถึง 104 คน


อย่างไรก็ตาม สำหรับตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ที่มีส.ส.ภาคอีสานเข้าไปทำหน้าที่ถึง 2 ตำแหน่ง โดยเฉพาะกรณีของนายเจริญ จรรย์โกมล นั้น ที่ประชุมมีการวิเคราะห์กันว่า น่าจะเป็นเรื่องดี ที่นายเจริญ ได้เป็นรองประธานสภาฯ เพราะถือเป็นการหลบทางให้กับส.ส.ชัยภูมิอีกหนึ่งคนที่มีชื่อว่า อาจจะได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีด้วยคือ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเบื้องต้นคาดการณ์กันว่า อาจจะนั่งในตำแหน่งรมช.สาธารณสุข เพื่อจะได้ไม่เกิดภาพว่า ส.ส.ชัยภูมิ ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีถึง 2 คน

หนุน“ชัจจ์”นั่งรองนายกฯ คนที่ 1

          ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับกลุ่มส.ส.อีสานในจังหวัดที่มีส.ส.ไม่มากนั้น เมื่อเห็นว่า จังหวัดชัยภูมิได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ ไปแล้วก็มีความเห็นว่า ควรจะแบ่งตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับส.ส.จังหวัดอื่นบ้าง

          นอกจากนี้ กลุ่มส.ส.อีสาน ยังได้วิเคราะห์ถึงภาพลักษณ์ของคณะรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ 1 ด้วยว่า น่าจะออกมาหน้าตาดี เพราะต้องการที่จะให้ประชาชนเห็นถึงความตั้งใจ ที่จะเข้ามาทำงานเพื่อสร้างความปรองดอง ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากจะเห็นคนนอกเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้มากกว่าปกติ

          อย่างไรก็ตาม กลุ่มส.ส.อีสานยังมีการวิเคราะห์ถึงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 ด้วยว่า จะต้องเป็นบุคคลที่สามารถไว้วางใจได้ เพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ซึ่งเมื่อครั้งที่ให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นรองนายกรัฐมนตรี สุดท้ายทำให้เกิดการพลิกขั้ว ในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งที่ประชุมมองว่า พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้หนึ่งที่มีความเหมาะสม

“โอฬาร”เรียกประชุมทีมศก. หาทางเยียวยาสินค้าราคาแพง

          ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ได้เรียกประชุมคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดทำแนวนโยบายในการแก้ปัญหาค่าครองชีพ และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคราคาแพง ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคที่หาเสียงไว้

          ทั้งนี้ ที่ประชุมมีการหยิบยกกรณีของราคาเนื้อหมู ราคาไข่ และราคาน้ำมันแพงขึ้นมาหารือว่าจะมีมาตรการในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างไรได้บ้าง รวมทั้งโครงการช่วยเหลือประชาชน อาทิ ค่าไฟ ค่าน้ำ รถไฟ และรถเมล์ฟรีว่า ยังจะมีการต่อยอดออกไปอีกหรือไม่

          อย่างไรก็ตาม การประชุมในครั้งนี้ ถือเป็นการหารือในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งหากได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ ก็จะนำเสนอต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อออกเป็นมาตรการช่วยเหลือประชาชนต่อไป

ส.ส. เหนือ ปรับแผน ไม่ต่อรองเก้าอี้ รมต. ลั่น ลุยตรวจอสบคนทำงานไม่ดี

          นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยืนยันว่าส.ส.ภาคเหนือไม่มีการนัดหารือใดๆ เพื่อต่อรองขอตำแหน่งรัฐมนตรี ทุกคนเห็นตรงกันว่า ควรจะปล่อยให้เป็นอำนาจของแกนนำพรรค เป็นผู้พิจารณาคัดเลือก บุคคลที่มีความเหมาะสมเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้บริหารประเทศเพื่อแก้ปัญหาตามที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ ดังนั้น จึงไม่อยากให้ไปทำลายความสุขที่ประชาชนกำลังได้รับอยู่

          ทั้งนี้ ทุกคนควรปล่อยให้แกนนำได้จัดตั้งครม.โดยไม่ไปต่อรองหรือกดดัน ควรให้ทุกอย่างเดินไปข้างหน้า ถ้ารัฐมนตรีคนไหนทำงานไม่ดี ก็มาท้วงติงกันอีกครั้ง

          "ขณะนี้ สังคมกำลังจับตาดูอยู่ และมีความคาดหวังอย่างมากกับพรรคเพื่อไทย ถ้าเป็นรัฐมนตรีแล้วแก้ปัญหาไม่ได้ คนในพรรคเพื่อไทย ก็ต้องออกมาพูดอย่างแน่นอน วันนี้ต้องให้เวลารัฐบาลและครม.ชุดใหม่ด้วย"

“เฉลิม” น้อยใจ แต้ยังแอบลุ้นเก้าอี้ รมต.

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกอาการน้อยใจ ที่จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีผู้ใหญ่ของพรรคทาบทามให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น ภายหลังเลิกประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานสภาฯ ร.ต.อ.เฉลิมได้เดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้พูดคุยกับนายธเนศ เครือรัตน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย คนใกล้ชิด ที่บริเวณชั้น 8 ของที่ทำการพรรค

          ทั้งนี้ เมื่อส.ส.ภาคอีสานของพรรคประชุมกันเสร็จสิ้น ส.ส.ภาคอีสานที่สนับสนุนร.ต.อ.เฉลิมประมาณ 10 คนก็ได้เข้าไปพูดคุยกับร.ต.อ.เฉลิม โดยร.ต.อ.เฉลิมได้กล่าวกับส.ส.อีสานที่เข้าไปพูดคุยด้วยว่า เขาย้ำมาตลอดว่า พร้อมจะทำหน้าที่ต่อไปอย่างดีที่สุด แม้จะไม่มีตำแหน่งก็จะไม่น้อยใจ

          รายงานแจ้งว่า ส.ส.อีสานบางคนพูดขึ้นว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน แต่ที่ผ่านมาส.ส.ทุกคนทราบดีว่า ร.ต.อ.เฉลิมตั้งใจ และทุ่มเทในการลงพื้นที่ ช่วยหาเสียงให้กับเพื่อนส.ส.ในหลายพื้นที่หลายจังหวัด จนทำให้ส.ส.บางคนชนะการเลือกตั้งได้เข้ามาเป็นส.ส. ดังนั้น เรื่องโผครม.นั้น อยากให้รอจนกว่าจะมีการประสานให้กรอกประวัติ และคุณสมบัติ ก่อนที่จะมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีก่อน

ยังเชื่อได้นั่งเก้าอี้ รมต.

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.อีสานบางคน ยังแสดงความเชื่อมั่นว่า สุดท้ายแล้ว ร.ต.อ.เฉลิมจะต้องมีตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในคณะรัฐมนตรีอย่างแน่นอน เพราะถ้าไม่มีชื่อร.ต.อ.เฉลิมแล้วจะมีใครที่เหมาะสม อย่างน้อยก็ควรจะให้ผู้ที่มีประสบการณ์ และไม่มีประวัติเรื่องการทุจริตมาทำหน้าที่ เพื่อจะได้ทำให้อายุของรัฐบาลอยู่บริหารประเทศได้ยาวนานที่สุด

          นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยแก้เกมในสภาฯ ที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านได้อีกด้วย

          อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ร.ต.อ.เฉลิมได้พูดคุยกับส.ส.อีสานอยู่พักใหญ่จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.20 น. ร.ต.อ.เฉลิมก็ได้แวะมาทักทายสื่อมวลชนที่ประจำอยู่ที่พรรคเพื่อไทย ก่อนจะเดินทางกลับบ้าน ซึ่งมีส.ส.อีสานจำนวนหนึ่งเดินลงมาส่งด้วย

          ทั้งนี้ ระหว่างที่ ร.ต.อ.เฉลิม กำลังจะขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเพื่อเดินทางกลับบ้านนั้น ร.ต.อ.เฉลิมก็ได้แง้มประตูรถออกมา พร้อมกับร้องเพลง “เผลอใจรัก” ช่วงหนึ่งด้วยว่า “เผลอใจใฝ่ปองจึงหมองหม่น เพราะเรามันเกิดมาจน” ก่อนที่รถจะออกจากที่ทำการพรรคไป

ส.ส.อีสานเดินสายขอเก้าอี้รมต. 8 ที่นั่งเท่าเดิม

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมส.ส.อีสานพรรคเพื่อไทย ที่มีนายพายัพ ชินวัตร ประธานภาคอีสาน เป็นประธานในที่ประชุม ได้มีการหารือถึงการปรับโครงสร้างพรรค ซึ่งจะมีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ประธานภาค รองประธานภาค และเลขานุการภาค รวมทั้งจะให้มีการเลือกหัวหน้าหรือตัวแทนจังหวัดขึ้นมา เพื่อดูแลในแต่ละส่วนอีกด้วย

          ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่าควรจะให้มีการตั้งครม.ยิ่งลักษณ์ 1 เสร็จสิ้นเสียก่อนว่าใครจะได้ตำแหน่งอะไรบ้าง จะได้นำคนที่มีเวลามาบริหารในภาพรวมได้

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมส.ส.ภาคอีสาน มี ส.ส.อีสานแยกกันไปคุยเป็นกลุ่มย่อย ๆ หลายกลุ่ม ถึงโควตารัฐมนตรีที่ภาคอีสานขอไว้ทั้งหมด 10 ตำแหน่ง แต่แกนนำพรรคจัดสรรให้เพียงแค่ 8 ตำแหน่ง รวมทั้งสถานการณ์ล่าสุดที่พรรคมีมติให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น และนายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ไปแล้วด้วยว่า จะทำให้โควตาของภาคอีสานลดลงเหลือเพียงแค่ 6 ตำแหน่งหรือไม่

          อย่างไรก็ตาม ยังมีความพยายามที่จะให้โควตาของภาคอีสานคงไว้ที่ 8 ตำแหน่งให้ได้ โดยเห็นว่า ไม่ควรนำตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ มานับรวมด้วย ขณะที่ส.ส.ส่วนใหญ่ยังเห็นด้วยว่า 2 จังหวัดภาคอีสานที่มีตัวแทนนั่งตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ไปแล้วนั้นไม่สมควรจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีอีกด้วย

“เผดิมชัย สะสมทรัพย์”เต็งนั่งรมต.โควตาภาคกลาง "วิทยา" ส่อแห้ว

          ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับโควตาภาคกลาง ที่ล่าสุดปฏิเสธรับตำแหน่งรองประธานสภาฯ นั้น ส.ส.ภาคกลาง ได้มีการนัดหารือในเบื้องต้น ถึงรายชื่อผู้เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่จะส่งให้แกนนำพรรคพิจารณาด้วย โดยค่อนข้างจะแน่นอนว่า นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม จะเป็นรัฐมนตรีในโควตาของภาคกลาง

          ส่วนนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ที่ประกาศไม่รับตำแหน่งๆ ใดในฝ่ายนิติบัญญัติ แต่จะขอมาอยู่ในฝ่ายบริหารแทนนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่า จะได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงใดหรือไม่

          ขณะที่ส.ส.ที่เป็นส.ส. 4 สมัยขึ้นไป และคนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยรับปากไว้ก่อนเลือกตั้งว่า จะได้รับตำแหน่งรับมนตรีนั้น หลายคนปิดปากเงียบไม่ขอพูดอะไรในช่วงนี้เพราะกลัวว่า อาจจะไม่ได้ตำแหน่ง จึงพยายามทำตัวนิ่ง ๆ ให้เหมือนกับนายสมศักดิ์ และนายเจริญ ที่ได้เป็นประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ

ทีมรปภ.“ยิ่งลักษณ์” เข้มตรวจอาคารที่ทำการพรรคละเอียดยิบ

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 2 ส.ค.54 หลังจากเกิดเหตุขู่วางระเบิด ที่อาคารรัฐสภาหลายจุด ซึ่งเป็นช่วงที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ที่รัฐสภาด้วยนั้น ทำให้ในช่วงบ่ายวันเดียวกันที่พรรคเพื่อไทย มีทีมรักษาความปลอดภัยทั้งตำรวจและทหารที่เป็นคนเก่าแก่ และเคยทำงานมาตั้งแต่สมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้ามาดูแลความปลอดภัยให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยได้ขอพิมพ์เขียวแผนที่อาคารจากเจ้าหน้าที่พรรคเพื่อไทย เพื่อนำไปตรวจสอบจุดเสี่ยงต่างๆ ด้วย

          ทั้งนี้ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยนั้น ด้านหน้าติดกับถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ส่วนด้านหลังติดคลองแสนแสบ และมีทั้งหมด 3 อาคาร ซึ่งจากการตรวจสอบของทีมรปภ. พบว่า มีจุดเสี่ยงอยู่ที่บริเวณบันไดหนีไฟ จึงอาจจะต้องเพิ่มมาตรการป้องกัน พร้อมทั้งได้กำชับพนักงานรปภ.ของอาคารให้เข้มงวดในการแลกบัตรต่อทุกคน ที่ผ่านเข้าออกอาคารที่ทำการพรรคโดยไม่มีข้อยกเว้นอีกด้วย

          นอกจากนี้ ยังมีการมองหาพื้นที่สำรองสำหรับมวลชนต่างๆ ที่เดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อให้กำลังใจหรือร้องเรียนเรื่องต่างๆ ด้วย แม้ว่า ก่อนหน้านี้ไม่นานจะเพิ่มการตรวจสอบใต้ท้องรถยนต์ทุกคัน ที่ผ่านเข้าออกอาคารที่ทำการพรรคเพื่อสแกนหาวัตถุระเบิด รวมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมที่บริเวณชั้นล่าง และทางเข้าลิฟท์แล้วก็ตาม


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์