โพลหนุน ยิ่งลักษณ์ นั่งแท่นปราบโกง

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

เปิดเผยถึงผลการสำรวจ เรื่อง ความต้องการของประชาชนต่อรัฐบาลชุดใหม่ ในการสร้างชาติโปร่งใส สร้างไทยซื่อตรง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัด จำนวน 2,559 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 13–19 ก.ค. พบว่า กลุ่มตัวอย่างระบุว่าถ้าพบเห็นแกนนำชุมชนของตน ทุจริตคอร์รัปชั่น ร้อยละ 74.4 จะแจ้งความเอาผิด รองลงมา ร้อยละ 72.9 จะแจ้งความเอาผิด ข้าราชการทุจริตคอร์รัปชั่น ร้อยละ 72.2 ระบุจะแจ้งความเอาผิด นักการเมืองทุจริตคอร์รัปชั่น นอกจากนี้ ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.5 คิดว่ายอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่นแล้วทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนกินดีอยู่ดี ตนเองได้รับประโยชน์ด้วย ในขณะที่ร้อยละ 35.5 ยอมรับไม่ได้
   
ดร.นพดล กล่าวว่า เมื่อจำแนกกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามออกตามลักษณะเฉพาะตัว
 
พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.0 ของกลุ่มเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ต่างก็ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น นอกจากนี้ คนยิ่งมีรายได้สูงกลับมีสัดส่วนของจำนวนผู้ยอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่นแล้วตนเองได้รับประโยชน์ด้วย เมื่อจำแนกตามอาชีพ พบว่า กลุ่มนักเรียน นักศึกษา มีสัดส่วนสูงที่สุดคือร้อยละ 72.3 ยอมรับได้ รองลงมาคือ พ่อค้า กลุ่มนักธุรกิจ และที่น่าสนใจพิจารณาคือ กลุ่มข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ครึ่งต่อครึ่ง คือร้อยละ 50.9 ที่ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น
   
ดร.นพดล กล่าวอีกว่า เมื่อวิเคราะห์แนวคิดของ “กลุ่มต่อต้านคอร์รัปชั่นในทุกกรณี”

 
คือกลุ่มที่ยอมรับไม่ได้ ถึงแม้รัฐบาลจะทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ตนเองได้รับผลประโยชน์ด้วย พบว่า ร้อยละ 87.5 ของกลุ่มต่อต้านคอร์รัปชั่น ระบุให้เพิ่มโทษ ยึดทรัพย์ นักการเมือง ข้าราชการ และของเครือญาติ ร้อยละ 67.5 ร้อยละ 62.7 ระบุต้องปลูกจิตสำนึก ให้ประชาชนเห็นผลร้ายของการทุจริตคอร์รัปชั่น นอกจาก
นี้ ผลสำรวจยังพบด้วยว่า ร้อยละ 67.8 เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เหมาะสมที่จะเป็นประธานรณรงค์สร้างชาติโปร่งใส สร้างไทยซื่อตรง อย่างจริงจังต่อเนื่อง ในขณะที่ร้อยละ 32.2 ระบุว่าไม่เหมาะสม
   
ดร.นพดล กล่าวด้วยว่า นี่คือสัญญาณเตือนภัยว่า คนไทยที่ถูกศึกษามีทัศนคติอันตรายมากอันเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ

และสะท้อนให้เห็นถึง “ความเห็นแก่ตัว” หรือผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องต้องมาก่อนผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพราะถ้าพบเห็นคนอื่นทุจริตคอร์รัปชั่นก็จะเอาเรื่องเอาผิดถึงขั้นแจ้งความร้องเรียนดำเนินคดี แต่กับคนใกล้ชิดที่สนิทสนมด้วยก็จะปล่อยปละละเลยมองข้ามไป ถ้าปล่อยไว้เช่นนี้ อนาคตของสังคมไทยจะตกอยู่ในสภาวะวิกฤติได้โดยง่าย ดังนั้นข้อมูลชุดนี้คือโจทย์ใหญ่ที่ผู้คนในสังคมไทยต้องช่วยกันคิด หาคำตอบและทางแก้ไข.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์