จี้ ทรท.แจง พจมาน ถกบ้านพิษฯ ฐานะอะไร - หาโม่งจ้างพรรคนอมินี

จี้ ทรท.แจง พจมาน ถกบ้านพิษฯ ฐานะอะไร - หาโม่งจ้างพรรคนอมินี

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 มีนาคม 2549 19:28 น.

ปชป.ไล่บี้ กกต.หาไอ้โม่งบงการว่าจ้าง พรรคนอมินี ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง ชี้สถิติการเลือกตั้งคราวที่แล้วมีถึง 32 เขตที่พรรคไทยรักไทยได้คะแนนไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ จี้แจงกรณี พจมาน เข้าร่วมประชุม ครม.ที่บ้านพิษณุโลก ในฐานะอะไร

วันนี้ (14 มี.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่นายสุธรรม แสงประทุม รองหัวหน้าพรรคพรรคไทยรักไทย ระบุว่าผู้สมัคร 3 คนที่ จ.ตรังของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ที่มาร้องเรียนกับพรรคเป็นการจัดฉากโดยมีตนเกี่ยวข้องและมีพรรคประชาธิปัตย์รับรู้ว่า ขอปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และยืนยันว่าพรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะไม่ได้ลงแข่งขันเลือกตั้งในครั้งนี้ แต่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะชาวบ้านที่ถูกหลอกให้ไปสมัครเกิดความเกรงกลัวว่าจะมีความผิดจึงมีการร้องเรียนมาและได้พบกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค และทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ จึงได้ให้คำปรึกษาข้อเสนอแนะ จัดทำเอกสารให้

ผมตั้งข้อสังเกตว่า คนที่ได้ประโยชน์หากมีพรรคเล็กลงแข่งขันด้วย คือคนที่ต้องการหนี 20 เปอร์เซ็นต์ที่จะต้องได้จากการลงสมัครเพียงคนเดียวในเขตเลือกตั้งนั้นๆ ซึ่งในพื้นที่ภาคใต้มีผู้สมัครของพรรคเล็กลงแข่งขันมากเป็นพิเศษ และพรรคได้ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังการเลือกตั้งครั้งหลังสุดทั้ง 54 เขตเลือกตั้งของภาคใต้ ผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยได้คะแนนไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ มีถึง 32 เขตเลือกตั้ง เช่น บางเขตเลือกตั้งได้เพียง 7-15 เปอร์เซ็นต์ ข้อสังเกตเหล่านี้ทำให้พรรคสงสัยว่าทำไมจึงมีผู้สมัครพรรคเล็กจำนวนมากในจังหวัดภาคใต้ นายสาทิตย์ กล่าว

กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประเด็นใหญ่ที่พรรคต้องการเรียกร้อง คือ การออกมาแฉข้อมูลของขบวนการอีสารกู้ชาตินั้นสอดคล้องกับข้อมูลที่พรรคได้รับ คือเจ้าหน้าที่ กกต.มีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือพรรคการเมืองใหญ่ ดังนั้น กกต.ต้องสอบสวนเพราะเรื่องนี้ผิดทั้งกฎหมาย และวินัย และกกต.ต้องสืบหาคนกลางเพื่อที่จะโยงไปถึงผู้ที่ออกเงินให้กับผู้สมัครพรรคเล็กเพื่อฟอกตัวให้กับผู้สมัครอย่างไม่ถูกต้องด้วย

นายสาทิตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปปราศรัยที่ จ.อุบลราชธานี โดยถามหาจริยธรรมของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยในขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ ว่า การที่นายบรรหารยุบสภาไม่ใช่สาเหตุมาจากการอภิปราย แต่เป็นเรื่องของนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้น การหยิบยกขึ้นมาโยงกันของ 2 เรื่องนี้ เป็นการกล่าวหาลอยๆ โดยบิดเบือนคำพูดเท่านั้น ชี้ให้เห็นว่าเป็นการบกพร่องทางจริยธรรม และคุณธรรม มีเพียงแค่หยาบๆ และคิดเพียงเรื่องกำไร-ขาดทุนเท่านั้น

ผมคิดว่าคุณทักษิณไม่มีจริยธรรมที่เหมาะสมจะเป็นผู้นำ เอาแค่จริยธรรมหัวหน้าครอบครัวก็ไม่มีแล้ว เพราะคนอะไรจะปล่อยให้เมียและลูกผิดกฎหมายถึงขั้นติดคุก และปรับคนละ 6 ล้านบาทได้ ดังนั้น จริยธรรมผู้นำครอบครัวก็บกพร่องไปแล้ว จึงยากที่จะถามหาจริยธรรมของผู้นำประเทศ ดังนั้น ผมคิดว่าคุณทักษิณไม่มีศักดิ์ศรีพอที่จะมาถามพรรคประชาธิปัตย์ว่าจริยธรรมและคุณธรรม ดังนั้น จากนี้ไปไม่ควรจะมาพูดเรื่องนี้ แต่จะพูดประเด็นเดียวว่าคุณทักษิณจะออกไปเมื่อไร นายสาทิตย์ กล่าว

นายสาทิตย์ ยังกล่าวถึงกรณี ครม.มีมติอนุมัติขึ้นเงินเดือนพนักงานรัฐวิสาหกิจ 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอยู่ในช่วงการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยแสดงเหตุผลในการถอนเรื่องการพิจารณาออกไป โดยอ้างกฤษฎีกาเป็นเพราะมีข้อกฎหมายศึกษาเอาไว้ว่าทำไม่ได้ แต่จู่ๆ ครม.ก็นำเรื่องนี้กลับเข้า ครม.อีกนั้นได้มีการพิจารณาข้อกฎหมาย และความเหมาะสมหรือไม่ เรื่องนี้ต้องตามต่อเพราะเป็นประเด็นที่มีข้อกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังดิ้นเฮือกสุดท้ายและทำทุกอย่างไขว่คว้าเกาะหาที่พึ่งเพื่อพาตัวเองให้จากกระแสประชาชนที่ถาโถม พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ตลอดเวลา เพราะก่อนยุบสภาจะขอเป็นนายกฯ 1 ปี บวกหรือลบ 6 เดือน และเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมาปราศรัยที่ จ.อุบลราชธานี บอกว่าจะอยู่อีก 3 ปี เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การกลับไปกลับมาของนายกฯ แต่บ่งบอกตัวตนที่แท้จริง และเป็นการดิ้นเฮือกสุดท้าย

ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ปราศรัยว่าอดีต 3 พรรคร่วมฝ่ายค้านรังเกียจอำนาจประชาชนจึงไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งว่า พรรคไม่ได้รังเกียจอำนาจประชาชน และเชื่อมั่นว่าอำนาจประชาชนไม่ได้มีเฉพาะตอนเลือกตั้ง แต่มีอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นตอนเลือกตั้งไม่ใช่การคืนอำนาจให้ประชาชน แต่สิ่งที่พรรครังเกียจคือรังเกียจนายกฯ ที่ชอบอ้างประชาชนทั้งๆ ที่จิตใจไม่เคยเชื่อมั่นประชาชน แต่เชื่อมั่นในเงินทองที่นำไปหว่านให้ประชาชนมากกว่า เพราะถ้านายกฯ เชื่อมั่นในประชาชนก็คงไม่ใช่เงินไปหว่านและฟาดหัวประชาชนอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น พรรคมีความชัดเจนในเรื่องอำนาจของประชาชน และเชื่อว่าอำนาจและพลังของประชาชนจะเป็นพลังสำคัญที่จะโค่นล้มอำนาจระบอบทักษิณอันน่ารังเกียจให้หมดสิ้นไปได้

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลมักไปปราศรัยในสถานที่ต่างๆ ว่า วันนี้ถ้ารัฐบาลแพ้ คือคนจนแพ้ทั้งประเทศซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะถ้ารัฐบาลแพ้คนจนจะชนะจากความยากจน ซึ่งจะนำไปสู่ชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง มีชีวิตที่มั่นคงยั่งยืน โดยตลอดระยะเวลา 4-5 ปีจะเห็นว่าตัวเลขการเป็นหนี้ประชาชนมีมากกว่าเดิม ส่วนที่นายกฯ อ้างว่าหากลาออกจากตำแหน่งเหมือนเป็นการหักหลังประชาชนนั้น ถ้านายกฯ อยู่ต่อไป ประชาชนจะหักหลังมากกว่าเดิมจนไม่สามารถดามได้

ส่วนที่นายกฯ ระบุว่า คนที่ทั้งชีวิตไม่เคยทำมาหากินอะไรจะไปแก้ปัญหาความยากจนได้อย่างไรนั้น นายองอาจ กล่าวว่า คนไทยทุกคนเกิดมาต้องทำมาหากิน ยกเว้นคนเสียสติหรือประสาทฟั่นเฟือนที่อยู่โรงพยาบาลประสาทคงไม่สามารถทำมาหากินได้ เพียงแต่การประกอบอาชีพย่อมแตกต่างกันไป และเชื่อว่าในอนาคตจะมีคนไข้จำนวนไม่น้อยจากรัฐบาลชุดนี้ไปอยู่ตามโรงพยาบาลประสาท

มีหลายคนในประเทศนี้ทำมาหากินจากการกราบไหว้ขอสัมปทานผูกขาดจากนักการเมืองบางคน ผมไม่ทราบว่าคนในรัฐบาลนี้หลายคนเคยจำภาพของตัวเองได้หรือไม่ ที่กล้าเข้าไปคุกเข่าก้มลงกราบบนตักของนักการเมืองบางคนซึ่งเป็นแค่ระดับรัฐมนตรีธรรมดาในห้องทำงานในกระทรวงแห่งหนึ่ง เพื่อจะได้งานสัมปทานผูกขาดบางงานมาต่ออายุเช็คเด้งของตัวเอง ซึ่งคนที่ทำมาหากินในลักษณะเช่นนี้ไม่น่าจะเป็นคนที่มาช่วยแก้ปัญหาความยากจนได้ เพราะวิถีชีวิตของเขาไม่ได้มาจากการทำมาหากินโดยสุจริต แต่เป็นคนทำมาหากินบนธุรกิจสัมปทานผูกขาดเพียงผู้เดียว และยังประพฤติตนทำมาหากินด้วยการทุจริตคอร์รัปชันตลอดเวลา นายองอาจ กล่าว

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการประชุมรัฐมนตรีที่บ้านพิษณุโลก โดยมีคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าร่วมประชุมด้วยว่า การประชุมดังกล่าวใช้สถานที่ราชการและมีการพูดคุยถึงเรื่องความมั่นคงของประเทศ จึงอยากให้รัฐบาลช่วยชี้แจงว่าคุณหญิงพจมานเข้าร่วมประชุมในฐานะอะไร มีตำแหน่งหน้าที่อะไรในรัฐบาลชุดนี้ ถึงมีสิทธิพิเศษในการล่วงรู้เกี่ยวกับความมั่นคง และสถานการณ์การเมืองของประเทศ ดังนั้น มีความเหมาะสมหรือไม่ที่ภริยาผู้นำประเทศจะเข้าร่วมด้วย เพราะหากเป็นการประชุมพรรคไทยรักไทยก็สามารถเข้าประชุมได้ในฐานะผู้อุปถัมภ์รายใหญ่

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์