ชัยชนะ เพื่อไทย ชัยชนะ พลังประชาชน ใต้กฎ ′อนิจจัง′

การที่พรรคเพื่อไทยได้ 15,744,190 คะแนน จากผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 35,203,107 คน อันส่งผลให้ ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ 61 คน

เมื่อผนวกเข้ากับ ส.ส.ระบบเขต 204 คน ก็เท่ากับ 265 จากจำนวนทั้งสิ้น 500 มากกว่ากึ่งหนึ่งถึง 15

ถือว่าเป็นชัยชนะ

ชัยชนะเหนือกว่าพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ 11,433,762 คะแนน ซึ่งได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 44 ผนวกเข้ากับ ส.ส.ระบบเขต 115 เท่ากับ 159 คน

เหนือกว่าเพราะ 265-159 เท่ากับ 106

ชัยชนะเหนือกว่าพรรคภูมิใจไทยที่ได้ 1,281,577 คะแนน ซึ่งได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 5 ผนวกเข้ากับ ส.ส.ระบบเขต 29 เท่ากับ 34

เหนือกว่าเพราะ 265-34 เท่ากับ 231

แม้จะรวมคะแนนระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ 11,433,762 กับคะแนนระบบบัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย 1,281,577 เป็น 12,725,339 ก็ยังน้อยกว่า 15,744,190 ถึง 3,018,851 ขณะที่ 265 ก็มากกว่า 159+34 ถึง 72

กระนั้น ชัยชนะนี้ก็เสมอเป็นเพียงชัยชนะจากการเลือกตั้ง

เป็นชัยชนะอันแสดงให้เห็นว่า ในทางการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยครองความเหนือกว่า
พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย

แต่กระนั้น ก็อย่าลืมบทเรียนจากชัยชนะเมื่อเดือนธันวาคม 2550 ไปอย่างเด็ดขาด

ชัยชนะเมื่อเดือนธันวาคม 2550 พรรคพลังประชาชนครองความเหนือกว่าพรรคประชาธิปัตย์ด้วยจำนวน ส.ส.233 ต่อ 165

พรรคพลังประชาชนได้จัดตั้งรัฐบาล โดยมี นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี

เป็นรัฐบาลร่วมกับ
พรรคชาติไทย พรรครวมใจพัฒนา พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคมัชฌิมาประชาธิปไตย พรรคประชาราช

แล้วเป็นไง

ไม่เพียงแต่ในเดือนพฤษภาคม 2551 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะจัดชุมนุมใหญ่และยืดเยื้อด้วยการยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบินไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน

หากในเดือนกันยายน 2551 นายสมัคร สุนทรเวช ก็พ้นจากตำแหน่งด้วยคำวินิฉัยของศาลรัฐธรรมนูญโทษฐานทำกับข้าวออกโทรทัศน์ เดือนธันวาคม 2551 พรรคพลังประชาชนก็ถูกยุบ

เดือนธันวาคม 2551 พรรคประชาธิปัตย์ก็จัดตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี "งูเห่า" จากพรรคพลังประชาชนเข้าร่วม

เรื่องเหล่านี้สอนอะไร

ต้องยอมรับว่าชัยชนะของพรรคเพื่อไทยในเดือนกรกฎาคม 2554 ก็เช่นเดียวกับชัยชนะของพรรคพลังประชาชนในเดือนธันวาคม 2550

เป็นชัยชนะภายใต้กรอบกติกาอันมาจากรัฐประหารเดือนกันยายน 2549

ขณะเดียวกัน ชัยชนะจากเดือนธันวาคม 2550 ก็ลงเอยด้วยการชุมนุมประท้วงของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ลงเอยด้วยการเล่นงานหัวหน้าพรรคและยุบพรรคพลังประชาชนในเดือนธันวาคม 2551

เป็นกระบวนการและกลไกอย่างเดียวกันกับที่เกิดขึ้นก่อนและภายหลังรัฐประหารเดือนกันยายน 2549

ณ วันนี้ กลไกอำนาจรัฐอย่างเดียวกันก็ยังดำรงคงอยู่

ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระไล่ตั้งแต่ ป.ป.ช.ถึง กกต. ถึงศาลรัฐธรรมนูญ ถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

เพียงแต่ดำรงอยู่อย่างสงบนิ่งรอจังหวะเวลาในการสำแดงบทบาทเท่านั้นเอง

ชัยชนะอันพรรคเพื่อไทยได้มาจึงเป็นชัยชนะอย่างเดียวกันกับที่พรรคพลังประชาชนเคยได้

แต่ชะตากรรมของพรรคเพื่อไทยจะลงเอยเช่นเดียวกับที่พรรคพลังประชาชนเคยประสบหรือไม่ ยังไม่สามารถให้คำตอบได้

ชัยชนะอันพรรคเพื่อไทยได้มาจึงไม่แน่ว่าจะเป็นชัยชนะที่จีรังยั่งยืน


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์