มาร์คชี้3กค.มีผลต่อการปกป้องปท.

เมื่อเวลา 20.00 น. นายอภิสิทธิ์ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า สำหรับนโยบายคนกรุงเทพตนไม่ต้องพูดอะไรมาก

เพราะนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายกรณ์ จาติกวาณิช ก็ได้ชี้แจงในสิ่งที่ประชาธิปัตย์มีนโยบายอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามตนอยากย้ำใน 2 เรื่องคือ 1. ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลเราจะประสานกับกรุงเทพฯ เพื่อผลักดันโครงการได้เป็นอย่างดี หลังจากที่ผ่านมาเป็นรัฐบาล 2 ปีเศษ ยังมีบางกระทรวงที่ไม่ไม่ด้ทำงานอย่างเต็มที่ แต่ถ้าพี่น้องเลือกเบอร์ 10 อย่างท่วมท้น ก็จะสามารถทำงานในกระทรวงนั้นอย่างเต็มที่ งานที่ต้องเร่งรัดถึงกระทรวง ทบวง กรม ที่มีกฎหมายมาเกี่ยวข้องก็จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ 2. กรุงเทพฯคือเมืองหลวง เป็นศูนย์กลาง และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นหน้าตาของประเทศ ดังนั้นนโยบายต่างๆจึงนำร่องที่นี้ และเป็นตัวบ่งบอกสะท้อนของการทำทั่วประเทศ อาทิ ยาเสพติดที่มีการจับกุมผู้ค้ารายใหญ่มากขึ้น การช่วยประชาชน พ่อค้า แม่ขายในพื้นที่ต่างๆ ที่มีการจัดสินเชื่อ จัดระเบียบให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องได้ดีขึ้น และเราจะเดินหน้าต่อไปและขยายผลทั่วประเทศ

 นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า แต่ยังมีประเด็นที่แม้ไม่ใช่นโยบายของคนกรุงเทพแต่ได้รับความสนใจ
 
และจำเป็นต้องพูดให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ ที่ประชาชนต้องตัดสินใจในวันที่ 3 ก.ค.นี้ คือเรื่องไทย - กัมพูชา ที่แม้คนกรุงเทพฯจะไม่อยู่ชายแดนแต่ก็ต้องปกป้องประเทศ โดยปัญหาไทย - กัมกัมพูชาที่เกิดขึ้นเป็นระยะ และล่าสุดที่มีการเกิดขึ้นที่คณะกรรมการมรดกโลก และเราก็ต้องขอบคุณนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ ในฐานะเป็นหัวหน้าคณะเจรจาฯ ที่ดำเนินการเพราะนายสุวิทย์ใช้เวลานานในการทำงาน ตอนตนมอบหมายนายสุวิทย์ก็เกรงใจ เพราะรู้ดีว่านายสุวิทย์ก็ต้องหาเสียง แต่เมื่อทำมาแล้ว ก็ต้องเดินหน้าต่อสู้ต่อ แนวต่อสู้ที่ว่าเพราะกัมพูชาเอาปราสาทพระวิหารไปขึ้นทะเบียนโลก เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลพรรคพลังประชาชนที่ขณะนี้คือพรรคเพื่อไทย

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้เล่าลำดับเหตุการณ์กรณีปราสาทพระวิหาร ที่เป็นต้นตอพิพาทไทย - กัมพูชา เหมือนกับที่เคยบรรยายลงในเฟสบุ๊คส่วนตัว ทั้งนี้ได้ย้ำว่าอธิปไตยของประเทศเป็นสิ่งที่ยอมไมได้เด็ดขาด

 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า 3 ปีที่รัฐบาลประชาธิปัตย์บริหารงานได้ทำให้กัมพูชาไม่สามารถผลักดันแผนบริหารจัดการได้ นั่นก็เพราะแนวทางที่ชัดเจนของพรรคประชาธิปัตย์ และสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็เป็นธรรมดาที่จะด่าตน แต่ตนก็ทำหน้าที่เพื่อไม่ให้ไทยเสียดินแดน มันเป็นหน้าที่ ไมได้อยากมีเรื่องกับใครแต่ถ้ารุกล้ำดินแดนก็บอกให้กองทัพทำหน้าที่อย่างเต็มที่


นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนอาจจะมีแนวทางที่ต่อสู้ต่างจากพันธมิตรฯ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลยคือผลประโยชน์

แต่คำถามคือว่าพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนเรื่องนี้อย่างไร อย่าลืมว่าทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ตนไม่รู้ทักษิณคิดอะไร แต่ถึงขนาดไปเป็นที่ปรึกษาฮุนเซนได้พี่น้องจะยอมให้ทำไหม และในสภาพรรคเพื่อไทยก็มักด่าประชาธิปัตย์บอกว่าถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะไม่มีปัญหากับกัมพูชา และมันจะมีปัญหาได้อย่างไรเพราะส.ส.เพื่อไทยเห็นเหมือน
กัมพูชา ดังนั้นวันที่ 3 ก.ค.นี้จะมีผลต่อการปกป้องประเทศแน่นอน ตนจึงเขียนเฟสบุ๊คไว้ว่าให้เลือกระหว่างปชป . ที่ปกป้องพรรคเพื่อไทย หรือจะเลือกพรรคเพื่อไทยที่ยืนยันว่าตนเองสนิทกับฮุนเซ็น

 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หลังการปราศรัยที่ราชประสงค์เกิดอาการแปลก คือพรรคเพื่อไทยออกมาบอกว่า ไม่มีแผนนิรโทษกรรมให้คุณทักษิณ
 
เพราะวันรุ่นขึ้นตนไปดีเบตกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จู่ๆนายยงยุทธ์ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยบอกว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่มีนโยบายนิรโทษกรรม   และพ.ต.ท.ทักษิณ ยังให้สัมภาษณ์อัลจาซีราห์ให้ร้ายต่อกระบวนการยุติธรรมไทย โดยบอกว่าถ้าแผนปรองดองบรรลุจะกลับประเทศได้

 “4.6 หมื่นล้านมากกว่าการจ่ายเบี้ยยังชีพ สามารถไปสร้างโรงเรียนได้อีกเยอะ ตนยอมไม่ได้ที่จะเอาเงินพี่น้องประชาชนไปให้ วันนี้จึงต้องพูดให้ชัดว่าการเลือกตั้งเป็นการเลือกระหว่างอะไร ทั้งเรื่องกัมพูชา เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ประชาธิปัตย์จะเดินหน้าเป็นรัฐบาลที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนโดยเด็ดขาด เลือกตั้งครั้งนี้ก้าวให้พ้นปัญหาของทักษิณให้ได้ ถ้าให้พูดวิสัยทัศน์แล้วต้องมาพูดการแก้ปัญหาของทักษิณ ปัญหาของบ้านเมืองก็ยังไม่จบ เราต้องไม่เลือกพวกที่นิยมความรุนแรง ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่นายอภิสิทธิ์จะขึ้นปราศรัยนั้น ได้มีการเปิดคำให้สัมภาษณ์กับอัลจาร์ซีราห์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนเสื้อแดงและการนิรโทษกรรม และภาพวีดีทัศน์จากการปราศรัยสี่แยกราชประสงค์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์