มาร์ค ปัดข้อหาฆ่าประชาชน อ้างแกนนำแดงเลี่ยงได้แต่ไม่ทำ

 


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถลงผ่านเฟซบุ๊ก ปัดข้อหาฆ่าประชาชน อ้างแกนนำเสื้อแดงหลีกเลี่ยงได้แต่ไม่ทำ ยืนยันทำไปเพื่อรักษากฎหมายและใช้ความอดทนอย่างที่สุดจนโดนกล่าวหาว่าขี้ขลาด...


วันที่ 13 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุถึงความพยายามสร้างกระแสเกี่ยวกับเหตุการณ์ เม.ย.-พ.ค. ว่า เหตุการณ์ความรุนแรงมีมาตั้งแต่ปี 2552 ที่มวลชนมาทุบรถตนที่พัทยา ล้มการประชุมอาเซียน ไล่ล่าตนที่กระทรวงมหาดไทยแล้วก่อจลาจลในช่วงสงกรานต์ ซึ่งตนทีหน้าที่รักษากฎหมาย ก็ได้คลี่คลายปัญหาด้วยความอดทนอดกลั้น แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มพยายามกล่าวหาว่ารัฐบาลฆ่าประชาชน ทั้งที่ไม่มีมูล อีกทั้งยังตัดต่อเสียงจากรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ เรียงคำพูดใหม่ ให้กลายเป็นว่า ตนสั่งฆ่าประชาชน เพื่อปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชัง แต่เมื่อสังคมส่วนใหญ่รู้ความจริง จึงทำให้ประเด็นดังกล่าวจุดไม่ติด

นายอภิสิทธิ์ ระบุต่อว่า ชนวนเหตุการณ์ปี 2553 เริ่มจากที่ศาลตัดสินยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท จาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากนั้น อดีตนายกฯก็ได้วีดิโอลิงค์ มีเนื้อหาไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทย


"เท่ากับว่าถ้าศาลตัดสินแล้วตัวเองได้ประโยชน์ถือว่าเป็นธรรม แต่ถ้าทำผิดหลักฐานมัดแน่นศาลตัดสินลงโทษกลายเป็นสองมาตรฐาน นี่คืออันตรายที่ คุณทักษิณใช้พี่น้องประชาชนที่ศรัทธาคุณทักษิณด้วยความบริสุทธิ์ใจเป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างโหดร้าย"

นายอภิสิทธิ์ ระบุต่อว่า ได้พยามยามอย่างที่สุดในการประนีประนอมบนหลักกฎหมายและความถูกต้อง ไปนั่งเจรจาคุยกับแกนนำเสื้อแดงสองวัน 6 ชั่วโมง เสนอทางออกด้วยการยุบสภาในช่วงปลายปี ไม่ใช่เพราะต้องการถ่วงเวลาอยู่ในอำนาจให้นานที่สุดแต่ต้องการให้เศรษฐกิจมั่นคง แต่การเจรจาก็ไร้ผล ซึ่งหากมีจุดประสงค์เพียงแค่ต้องการให้ยุบสภา ไม่เกี่ยวกับการล้างความผิดให้อดีตนายกฯ ย่อมไม่มีความตาย 91 ศพ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งตลอดเวลาเจ้าหน้าที่แสดงความอดกลั้นมาโดยตลอด  มิฉะนั้นคงเกิดเหตุแบบที่เราเห็นอยู่ที่ตะวันออกกลาง เมื่อมีการต่อสายระหว่างนักการเมืองผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ฝ่ายผู้ชุมนุมอ้างว่าไม่เกี่ยวกับผู้ใช้อาวุธ และบอกให้เจ้าหน้าที่จัดการกับคนกลุ่มนั้นได้ตามใจชอบ แต่เจ้าหน้าที่ขณะนั้นใช้กำลังเพียงแค่ปกป้องตนเอง และคุ้มครองการลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากสถานการณ์เลวร้ายดังกล่าว


"ผมต้องพิจารณาทบทวนตัวเองอยู่หลายครั้ง เพราะได้เกิดความสูญเสียขึ้น แต่เพราะความเข้มแข็งของสังคมไทยที่รับทราบข้อเท็จจริงว่า ความสูญเสียไม่ได้เกิดจากการก่ออาชญากรรมโดยรัฐ เพราะผมแสดงให้เห็นมาโดยตลอดที่จะใช้การเจรจาแก้ปัญหา จนถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขี้ขลาด อีกทั้งยังปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีกองกำลังติดอาวุธจริง ทำให้สังคมให้โอกาสผมทำงานต่อ"

นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังระบุด้วยว่า ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่น้องคนไทยในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดสำหรับประเทศ และยังต้องร่วมฟันฝ่าเพื่อให้ความสูญเสียที่เกิดขึ้น "เป็นจุดต่ำสุดของวิกฤตการเมืองแล้วและผมตั้งใจว่าเราจะก้าวพ้นความรุนแรงนี้ไปด้วยกัน" ทั้งนี้ ยังมุ่งมั่นคิดถึงแผนปรองดอง ซึ่งจะโพสต์ในตอนต่อไป ทั้งนี้ ยังระบุด้วยว่า แกนนำสามารถหยุดยั้งไม่ให้เกิดศพเพิ่มได้ แต่พวกเขากลับเลือกแนวทางสร้างศพเพิ่ม เพื่อยัดเยียดข้อหาฆ่าประชาชนให้.

Thairath


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์