ชพน.เมิน‘ชูวิทย์’ขู่ฟ้อง วอนพลังเงียบเลือกพรรคกลาง-เล็ก

ที่โรงพยาบาลเด็ก ราชวิถี น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน(ชพน.)

พร้อมด้วยนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง ประธานพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ผู้สมัครส.ส.กทม. อาทิ น.ต.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ผู้สมัคร ส.ส.เขตสายไหม น.ส.เยาวภา บุรพลชัย ผู้สมัคร ส.ส.เขต หลักสี่-ดอนเมือง ร่วมกันแจกแผ่นพับหาเสียง ช่วยนายโสภณ ดำนุ้ย ผู้สมัคร ส.ส.เขต ดุสิต-ราชเทวี โดยได้จัดเปิดตัวนโยบาย “เงินออมX2” เกิดวันนี้ 20 ปีมีเงินล้าน โดยให้วัยรุ่นแต่งตัวในชุดคลุมท้อง หุ้มหุ่นเด็กร่วมรณรงค์ถือป้ายเปิดนโนบายช่วยสร้างสีสัน โดยน.พ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า เป็นนโยบายส่งเสริมการออมของบุตรกับกองทุนเด็กเงินล้าน ที่การบริหารงานแบบ กบข. โดยรัฐจะจ่ายเงินสมทบในจำนวนเท่ากับยอดเงินฝากในแต่ละงวด ประมาณการตลอดการออม 20 ปี เฉลี่ยเดือนละ 900 บาท คิดอัตราผลตอบแทนที่ร้อยละ 8 จะมีเงินฝากประมาณ 1 ล้านบาท

 จากนั้นนพ.วรรณรัตน์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ขู่ว่าจะฟ้องบรรดาแกนนำที่อยู่เบื้องหลังการเมือง

อาทิ นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ชทพ. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรค ชพน. ที่ออกมาแสดงความเห็นทางการเมือง คิดว่าเป็นสิทธิของบุคคลที่จะแสดงความเห็นทางการเมืองได้ และการบริหารงานของพรรคที่ผ่านมา นายสุวัจน์ก็ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยเลย นายชูวิทย์จะเอาอะไรไปฟ้อง 

 ส่วนที่มีกระแสข่าวที่มีการจับขั้วรัฐบาลแล้วนั้น น.พ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า การฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของพรรคขนาดใหญ่ เราเป็นพรรคขนาดกลางคงต้องรอดูต่อไป ซึ่งวันนี้หากจะพูดว่าจะจับขั้วกับใครในการเป็นรัฐบาลคงเร็วเกินไป

 ด้านนายชาญชัย กล่าวว่า คนอีกเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ยังไม่ตัดสินใจ พรรคเลยต้องมาขอคะแนน
 
หากต้องการความสมานฉันท์ก็ขอให้สนับสนุนพรรคขนาดกลางหรือเล็ก เพื่อเป็นทางเลือกทางออกในความปรองดองสมานฉันท์ของประเทศ ในส่วนของการจับขั้วตั้งรัฐบาล จะจัดตั้งกับพรรคใดนั้น ต้องดูความพอใจของประชาชนเป็นหลัก ส่วนจะได้นายกฯคนไหนก็เป็นมงคลทั้งนั้น จะเป็นหญิงหรือชาย สิ่งสำคัญคือต้องยุติความขัดแย้ง