ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรค ปชป. แถลงถึงปัญหาการก่อกวนการหาเสียงเลือกตั้งว่า
มีโอกาสพัฒนาไปสู่การใช้ความรุนแรงได้ เห็นได้ว่า ความรุนแรงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก็พัฒนามาจากการก่อกวน ทำให้ความรุนแรงทางการเมืองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่างในวันที่โหวตเลือกนายกฯ รถยนต์ของตนถูกกลุ่มเสื้อแดงทำร้ายและทุบจนเสียหายขณะวิ่งออกจากสภา และไม่ใช่เพียงก้อนหินทุบกระจกเท่านั้น เมื่อกระจกรถแตกแล้วมีการเอาน้ำมันสาดเข้าไปในรถที่มี ส.ส.นั่ง 10 กว่าคน เพียงแต่วันนั้นผู้ชุมนุมไม่ได้โยนไฟเเช็กเข้าไปด้วย แต่ถ้าได้โยนเข้าไปแล้วไฟไปติดเสื้อนอกของ ส.ส. โศกนาฏกรรมคงเกิดหน้าหน้าสภา ดีที่คนขับรถเร่งเครื่องหนีออกไป ทำให้รอดพ้นจากการถูกเผาทั้งเป็นภายในรถ
นายองอาจกล่าวต่อว่า ดังนั้น จะเห็นได้ว่าตั้งแต่วันที่เลือกนายกฯ พัฒนาการความรุนแรงเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ดังนั้น การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) บอกว่าต้องให้เกิดความรุนแรงก่อน ถึงจะเอาผิดตามกฎหมายได้ ก็อยากให้ กกต.เคร่งครัดกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 53 (5) กรณีมีผู้สมัครผู้ใดหลอกลวงบังคับขู่เข็ญ หรือจงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครอีกพรรคการเมือง การคุกคามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือผู้สมัครคนอื่นคงไม่เกิดขึ้น ถ้า กกต.เอาจริงในเรื่องนี้ และอยากเรียกร้องไปยังกลุ่มเสื้อแดงหรือกลุ่มใดก็ตามที่คิดไปขัดขวางนายอภิสิทธิ์หรือผู้สมัครคนใด ขอให้ระงับยับยั้งเพราะอาจมีความผิดทางกฎหมายได้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
