ยิ่งลักษณ์ปลื้มปชช.ตอบรับดีทุกพื้นที่

 

คมชัดลึก :"ยิ่งลักษณ์"เป็นปลื้มกระแสตอบรับจากปชช.ทุกพื้นที่แรง มั่นใจ"พท."กวาดที่นั่งส.ส.ได้เกินครึ่ง ด้านกรุงเทพโพลล์ ชี้คนกรุงหนุน"ยิ่งลักษณ์"มากกว่า "อภิสิทธิ์" แต่เหลืออีกเกินครึ่งยังไม่ตัดสินใจ ส่วนมาก 66.1% ไม่เชื่อมั่น กกต.


เมื่อถามว่า ในการขึ้นเวทีปราศรัยในภาคเหนือที่ผ่านมาเห็นมีข่าวระบุออกมาว่าถึงกับหลั่งน้ำตาเลย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ถึงหลั่งน้ำตา แต่น้ำตาคลอๆ สาเหตุที่เป็นอย่างนั้น เพราะมีความตื้นตันใจที่เห็นพี่น้องประชาชนให้การตอบรับตน และพรรคเพื่อไทยอย่างล้นหลาม และที่สำคัญตนเพิ่งได้มีโอกาสเดินทางไปในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่บ้านเกิดของตนเอง


เมื่อถามว่า มีโอกาสที่จะดีเบตกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังมีเวลาเยอะ ไม่ต้องรีบร้อน ช่วงเวลานี้ตนอยากจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ที่มีเวลาไม่มากนัก ขอไปพบปะประชาชนให้มากที่สุดก่อน ส่วนเรื่องการดีเบตตนเชื่อว่ายังมีเวลา


เมื่อถามต่อว่า มีความมั่นใจในการเลือกตั้งครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะพื้นที่กทม. ซึ่งในการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์กวาดที่นั่งเกือบทั้งหมด น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงเกินครึ่ง ส่วนจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่ขอตั้งความหวัง สำหรับพื้นที่กทม.นั้นเราคงจะต้องเน้นในการเข้าหาประชาชน เพื่อนำเสนอนโยบายพรรคต่อพี่น้องคนกรุงเทพฯมากที่สุด ส่วนการเดินทางไปในพื้นที่ภาคต่างๆ ตนจะพยายามที่จะลงไปพบพี่น้องประชาชนให้ทั่วทุกภาค


เมื่อถามอีกว่า ในพื้นที่ภาคใต้ได้มีการเตรียมการลงพื้นที่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในขณะนี้ทีมงานกำลังเตรียมแผนงานเอาไว้แล้ว ซึ่งคงจะต้องรอแผนงานที่เตรียมเอาไว้ 


เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีเสียงวิจารณ์อย่างมากถึงเรื่องโคลนนิ่งจากพ.ต.ท.ทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คำว่าโคลนนิ่งนั้นตนคิดว่าน่าเป็นเรื่องแนวความคิด และหลักการทำงานมากกว่า

เมื่อถามต่อว่า ที่ผ่านมาได้มีโอกาสพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณบ้างหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ได้พูดคุยกันบ้าง ซึ่งท่านก็ให้กำลังใจ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน กทม ในหัวข้อ “คะแนนนิยมของคนกรุงเทพฯ ในช่วงโค้งแรกของการเลือกตั้ง 54”.   โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่าง  1,178  คน  โดยเก็บข้อมูลเมื่อวันที่ 20 - 22 พ.ค. ที่ผ่านมา พบว่าเกณฑ์ที่คนกรุงเทพฯ ใช้ในการตัดสินใจเลือกผู้สมัคร ส.ส. ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ อันดับแรก ดูจากผลงานที่ผ่านมาในอดีต ร้อยละ 31.7   รองลงมาดูนโยบายที่หาเสียง ร้อยละ 31.2   และดูพรรคที่สังกัด ร้อยละ 16.6


สำหรับคะแนนนิยมที่มีต่อพรรคการเมืองในการเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อ พบว่า  พรรคที่ได้คะแนนนิยมมากที่สุดได้แก่ พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 25.8  รองลงมาคือ พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 14.7  และพรรครักประเทศไทย ร้อยละ 2.0 อย่างไรก็ตามมีถึงร้อยละ 52.0 ที่ระบุว่ายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกคนของพรรคใด


ส่วนคะแนนนิยมที่มีต่อพรรคการเมืองในการเลือกตั้งระบบแบ่งเขต พบว่า คน กทม. ตั้งใจจะเลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยมากที่สุด ร้อยละ 26.3 รองลงมาคือ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 15.2   และผู้สมัครจากพรรครักประเทศไทย ร้อยละ 1.7  ขณะที่มีถึงร้อยละ 51.9 ระบุว่ายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร 


เมื่อสอบถามว่าอยากได้ใครมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปมากที่สุด พบว่าอันดับแรกได้แก่  น.ส. ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร ร้อยละ 26.9 รองลงมาคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 17.4  และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์  ร้อยละ 3.6  ขณะที่อีกร้อยละ 49.2 ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใครดี


ทั้งนี้เมื่อสอบถามถึงความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งในการควบคุมดูแลการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพและบริสุทธิ์ยุติธรรมพบว่า ร้อยละ 66.1 ไม่ค่อยเชื่อมั่นถึงไม่เชื่อมั่นเลย ขณะที่ร้อยละ 33.9 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงเชื่อมั่นมาก



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์