สู้ยิ่งลักษณ์ มาร์คพร้อม-ยอมรับสูสี

ชี้แพ้ชนะกันแค่ 4-5เก้าอี้ ชวนสั่งโต้ข้อหา'ดีแต่พูด' เพื่อไทยโวยลั่นเจอวิชามาร

ปชป.เปิดตัวผู้สมัครทั่วประเทศ 'มาร์ค'ชี้ศึกเลือกตั้งสู้กันระหว่างปชป.-เพื่อไทยประกาศพร้อมสู้'ยิ่งลักษณ์' ชิงเก้าอี้นายกฯ คาดแพ้ชนะกันแค่ 4-5 เก้าอี้

'เทพเทือก' นัดผู้สมัครเขตคุยอีก 22 พ.ค. หัวเราะ'เหนาะ'ปั้นนายกฯ เพื่อไทยโวยวิชามาร มีคนอ้างชื่อพรรคจะโอนเงินเข้าบัญชีสมาชิก ชี้เกมสกัดตั้งรัฐบาล ชพน.เปิดนโยบายเศรษฐกิจ 5 ข้อ ปูพรมประชานิยมอีก นักศึกษาจบใหม่ 5 ปี ไม่ต้องเสียภาษี ค่าแรงขั้นต่ำ 350 บาทใน 3 ปี ตั๋วเครื่องบิน-รถไฟราคาเดียว 'สมศักดิ์ เทพสุทิน' เล็งส่งลูกสาวลงปาร์ตี้ลิสต์ภท. กก.ปฏิรูปชุดอานันท์ ลาออกยกคณะ 'มาร์ค'ชี้เลือกตั้งสุดสูสี เวลา 09.00 น. วันที่ 14 พ.ค. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั่วประเทศ ภายใต้สโลแกน "เดินหน้าต่อไปด้วยนโยบายเพื่อประชาชน" โดยเปิดให้ว่าที่ผู้สมัครลงทะเบียนพร้อมระบุข้อมูลว่าใครเป็นคู่แข่งในพื้นที่ เป็นที่น่าสังเกตว่าบางเขตยังมีรายชื่อว่าที่ผู้สมัครมากกว่า 1 คน นอกจากนี้ในพื้นที่ภาคใต้ จ.นราธิวาส เขต 3 ที่มีชื่อนายนิมุตตาร์ วาบา อดีตส.ส.นราธิวาส พรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) เป็นว่าที่ผู้สมัคร แต่นายนิมุตตาร์ไม่ได้มาร่วมงาน มีรายงานว่าถูกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ดึงตัวไปแล้ว ทั้งนี้ ในส่วนที่แกนนำ ปชป.เคยประกาศว่าจะเปิดตัวผู้สมัครระบบเขตทั้ง 375 คน แต่เมื่อถึงเวลามีหลายเขตที่ไม่มีรายชื่อผู้สมัคร ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน ยกเว้น กทม.เท่านั้นที่มีรายชื่อผู้สมัครครบทุกเขต จากการตรวจสอบพบว่ามีว่าที่ผู้สมัครมาเซ็นชื่อรายงานตัวเพียง 284 คน จากทั้งหมด 375 คน

เวลา 09.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ขึ้นกล่าวบรรยายเปิดงาน หัวข้อ "นัยสำคัญและทิศทางการเมืองภายหลังการเลือกตั้ง" ตอนหนึ่งว่า บอกได้เลยว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความเข้มข้นเป็นพิเศษ เพราะผลการเลือกตั้งจะออกมาในลักษณะที่ค่อนข้างสูสี ทุกเขตเลือกตั้ง ทุกคะแนนมีความหมาย การชนะหรือแพ้อาจจะแค่ 4-5 ที่นั่ง จะเป็นตัวชี้ว่าประเทศไทยจะเดินไปในทางไหน การได้คะแนนบัญชีรายชื่อเพิ่มไม่กี่คะแนนอาจส่งผลให้ประเทศไทยได้รัฐบาล หรือ นายกฯ ที่แตกต่างกัน ผู้สมัครในระบบเขตของพรรคเกือบจะครบ ระบบบัญชีรายชื่อจะพิจารณาในวันที่ 16 พ.ค.นี้ ศึก'อภิสิทธิ์'แข่ง'ยิ่งลักษณ์'

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ระหว่าง 2 พรรคใหญ่ ตนไม่สบประมาทใครทั้งสิ้น 500 ที่นั่ง เริ่มจาก 2 พรรคใหญ่ที่มีผู้แทนเก่าอยู่พรรคละเกือบ 200 คน ดังนั้น การช่วงชิงการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นผลโดยตรงของการแข่งขันระหว่างปชป.กับพรรคเพื่อไทย (พท.) สันนิษฐานว่าพท.จะเสนอชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นการเลือกว่าระหว่างปชป.หรือพท. จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล รวมทั้งบุคคลที่จะเป็นนายกฯ ตนอยากให้ทุกคนตระหนักเรื่องนี้ เพราะระหว่างการแข่งขันกันจะมีประเด็นมากมายให้ประชาชนต้องคิด ทั้งนโยบายระดับชาติ นโยบายระดับพื้นที่ หรือเรื่องตัวผู้สมัคร แต่บรรทัดสุดท้ายไม่ว่าเขาจะเลือกเพราะอะไรสิ่งที่ตามมาคือรัฐบาลปชป.หรือรัฐบาลพท. จะเป็นตนหรือคุณยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ นี่คือทางเลือกของประเทศ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทางเลือกดังกล่าวมีความแตกต่างกัน ไม่ได้มาจากความขัดแย้งหรือผลประโยชน์ส่วนตัวแต่เป็นเรื่องของจุดยืน อุดมการณ์และความเป็นจริงทางการเมือง ปชป.ถืออะไรเป็นภารกิจสำคัญ คำ ตอบคือการนำการเมืองกลับมารับใช้ประชา ชน เดินหน้าด้วยนโยบายเพื่อประชาชน ตลอด 2 ปีกว่า ได้พิสูจน์แล้วว่าท่ามกลางความวุ่นวาย ความขัดแย้ง เรายังมุ่งมั่นผลักดันนโยบายที่มีความหมายต่อประชาชน นโยบายที่เขาจำได้ตอนนี้ คือ

1.เรียนฟรี 15 ปี

2.เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

3.ประกันรายได้เกษตรกร
 
นโยบายเหล่านี้เป็นนโยบายใหญ่ซึ่งเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก เรียนฟรี 15 ปี เด็ก 10 ล้านคนได้ประโยชน์ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมีคน 7 ล้านคนได้ประโยชน์ ประกันรายได้เกษตรมีอย่างน้อย 3-4 ล้านคนได้ประโยชน์