“สุเทพ”ชี้คดียิง“ประชา”ส่อโยงเลือกตั้งอบจ.

“สุเทพ”ชี้คดีลอบยิง“ประชา”ส่อโยงเลือกตั้งอบจ.ไม่ใช่เลือกตั้งระดับชาติ ยันตำรวจทำคดีคืบหน้า

วันนี้ 12 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่พรรคประชาธิปัตย์  นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายประชา ประสพดี อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ระบุว่าผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ลอบยิงนายประชา เป็นลูกชายของนักการเมืองใหญ่ ว่า ทำไมไม่ถามนายประชาให้ชัดว่าคนคนนั้นชื่ออะไร ถ้ารู้ว่าเป็นลูกใคร ก็ต้องบอกว่าคนไหน ชื่ออะไร เพราะนายประชา เป็นคนห้าวหาญอยู่ตลอด แต่ตนไม่ทราบว่าเป็นใคร จึงตอบไม่ได้ โดยตนจะรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวน ซึ่งถ้าตำรวจได้พยานหลักฐานว่าเป็นใคร เราต้องจับกุมมาดำเนินคดีทันที ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา สบ 10 ในฐานะรักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้รายงานความคืบหน้าของการสืบสวนคดีนี้ให้ตนทราบมาเป็นระยะๆ โดยกองพิสูจน์หลักฐานตรวจพิสูจน์ได้ว่าหัวกระสุนปืนที่ได้มาถูกยิงมาจากปืนประเภทใด และรถที่คนร้ายใช้เป็นอย่างไร ซึ่งตนไม่สามารถลงในรายละเอียดได้ 

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนการจับกุมผู้ต้องหานั้น ตำรวจทำต้องอย่างรอบคอบ

ต้องได้พยานหลักฐานที่มั่นคงพอจะไปขอหมายศาลแล้วมาใช้จับกุมไปดำเนินคดีต่อไป ตนไม่กดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าต้องจับกุมภายในเวลาเท่าใด อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ถือคดีแรกที่เกิดขึ้นในบรรยากาศของการเลือกตั้ง ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเรื่องของการเลือกตั้ง ระดับชาติ แต่น่าสงสัยว่าจะเกี่ยวกับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)มากกว่า แต่ตนจะทำเป็นรู้ดีก็คงไม่ได้ จึงรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความชัดเจนก่อน ทั้งนี้ การที่คดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชนจึงต้องระดมตำรวจฝีมือดีไปสะสางคดี โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจสันติบาล และตำรวจในพื้นที่มาประสานบูรณาการกัน

เมื่อถามว่าถ้าการสอบสวนคดีนี้มีความล่าช้า จะส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.หรือไม่ 

นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีผลกระทบ เราต้องไม่กดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องความเร็วหรือความช้าในการทำคดีนี้ บางคดีทำยาก แต่บางคดีก็ทำง่าย ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไปตามวิชาชีพของเขา  เมื่อถามต่อว่าพล.ต.อ.อัศวิน ระบุว่าดูจากกระสุนปืนและการสอบปากคำนายประชา พบว่าผู้ก่อเหตุอาจเป็นคนในเครื่องแบบ นายสุเทพ กล่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน เป็นตำรวจ คงไม่พูดอย่างนั้น แต่เป็นไปได้ที่นายประชา อาจเป็นคนพูดเอง ทั้งนี้ ตนก็ไม่ยืนยัน อย่างไรก็ตาม การพูดเช่นนั้นถือเป็นการสรุปเร็วเกินไป โดยปืนที่ใช้ในการก่อเหตุนั้นเป็นปืนที่ใช้ในราชการสงคราม ซึ่งอาจเป็นปืนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หรือคนร้ายถืออยู่ก็ได้ เพราะปืนของราชการเกิดการสูญหายบ่อยครั้งตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 2553 เป็นต้นมา และปืนบางส่วนก็ถูกแย่งชิง และยังไม่ได้กลับคืน