“ปณิธาน”เผย“มาร์ค”แจงปัญหาไทย– เขมร

“ปณิธาน”เผย“มาร์ค”แจงปัญหาไทย– เขมร ต่อเวทีผู้นำอาเซียนครบถ้วน  ระบุมีแววเจรจาทวิภาคีไทย–เขมรพรุ่งนี้

วันนี้(7พ.ค.)ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย  นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากที่กัมพูชาหยิบยกปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา มาพูดในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ด้วยการกล่าวหาไทยว่าใช้กำลังรุกรานกัมพูชา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้ข้อมูลกับที่ประชุมสุดยอดอาเซียนอย่างครบถ้วน ทั้งความเป็นมา ปัญหาปัจจุบัน รายละเอียดแต่ละพื้นที่ แนวทางที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้ว แนวทางที่จะดำเนินการต่อไป และบทบาทของอาเซียน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าไทยตระหนักถึงความสำคัญของอาเซียนและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ถ้าประเทศที่เป็นสมาชิก เช่น ไทยและกัมพูชา มีความขัดแย้งกัน ไทยจึงมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยใช้กลไกลต่างๆที่มีอยู่ในระดับทวิภาคี ทั้งการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(จีบีซี) และคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม(เจบีซี)ไทย-กัมพูชา เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ต้องการให้ผลความขัดแย้งกระทบต่ออาเซียน
 
“นายกรัฐมนตรียืนยันกับสมาชิกว่า ไทยไม่มีนโยบายรุกรานใคร และไม่ได้ก่อปัญหานี้  ความเป็นมาเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งในส่วนของปราสาทพระวิหาร มีมานานแล้ว เมื่อศาลโลกตัดสินให้ไทยถอนกำลังออกจากพื้นที่ และปฏิบัติตามข้อตกลง และมีกลไกลขึ้นมารองรับ  รวมถึงเอ็มโอยู ปี 2543  ขณะที่กัมพูชาพยายามยกปัญหานี้เข้าสู่ปัญหาสากล เช่น ความพยายามของกัมพูชาที่นำปัญหานี้ไปยังสหประชาชาติและศาลโลก ซึ่งเรื่องนี้สมาชิกอาเซียนให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า ปัญหานี้ควรอยู่ในระดับใช้กลไกลทวิภาคีและอาเซียน โดยให้อาเซียนเป็นฝ่ายอำนวยความสะดวกในการประสานงาน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังชี้ให้ที่ประชุมเห็นด้วยว่า ไทยยินดีพูดคุยกัมพูชา จะเป็นวันนี้ พรุ่งนี้ ก็ได้”  นายปณิธานกล่าว
 
นายปณิธาน กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการส่งผู้สังเกตการลงพื้นที่ด้วยว่า
 
ได้แจ้งให้สมาชิกอาเซียนดำเนินการตามเจตนารมณ์คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี) และชี้แจงให้ข้อมูลเรื่องนี้กับสมาชิกอาเซียนว่าไทยกังวลเรื่องการส่งผู้สังเกตการณ์ว่าการที่มีทหารของกัมพูชาที่อยู่บริเวณปราสาทพระวิหารนั้นขัดข้อตกลงของคณะกรรมการมรดกโลก และการมีกองกำลังและชุมชนอยู่ในพื้นที่จะทำให้เกิดความซับซ้อนในการให้ผู้สังเกตการณ์ จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชาถอนทหารออกจากพื้นที่ อีกทั้งไทยยืนยันว่าเจตนาดีและยินดีมุ่งมั่นแก้ไขปัญหา ขณะที่ ผู้นำประเทศต่างๆส่วนใหญ่ให้ความเห็นกว้างๆว่ายึดมั่นในหลักการสันติที่จะแก้ไขปัญหาในลักษณะที่ไม่ใช้กำลัง และต้องการให้อยู่ในกรอบที่ตกลงของอาเซียน และหวังว่าจะมีการพูดคุยกันในระดับทวิภาคี เพราะเป็นเรื่องของครอบครัวเดียวกัน จึงต้องแก้ไขปัญหาในครอบครัว ซึ่งนี่เป็นเจตนารมณ์ของเราอยู่แล้ว
 
ส่วนการหารือทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชานั้น นายปณิธาน กล่าวว่า
นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ แจ้งว่าอยู่ระหว่างการประสานงาน ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจจะเป็นวันที่ 8 พ.ค.นี้ ถ้ากัมพูชาพร้อม อาเซียนอาจช่วยเรื่องการประสาน แต่จะเป็นการพูดคุยกันระหว่างไทยกัมพูชาเป็นหลัก ส่วนบรรยากาศการประชุมอาเซียนนั้นดีขึ้นหลังจากรับฟังปัญหาโดยตรงจากทั้ง 2 ฝ่าย
 
นายปณิธาน กล่าวอีกว่า ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ยังแจ้งที่ประชุมว่าถ้าต้องการรับฟังข้อมูลเรื่องไทยกับกัมพูชา
 
ยังมีเวลาอีก 1-2 วันที่สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ และเชื่อว่าบรรยากาศการประชุมโดยภาพรวมคงดีขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีใช้เวลาชี้แจงกับอาเซียนประมาณ 10 นาที เพราะไม่ต้องการเวลาของอาเซียน  เพียงแต่เรื่องนี้กัมพูชาหยิบยกมาก่อน นายกรัฐมนตรีจึงใช้เวลาชี้แจง ประมาณ 8-9 ประเด็น เพื่อให้หลายฝ่ายได้รับทราบโดยตรง และเห็นภาพรวมทั้งหมด


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์