ผบ.ทบ.สั่งเตรียมกำลังหลังพบเขมรเสริมกำลัง

ประวิตร-ประยุทธ์ ถกสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

พร้อมสั่ง มทภ. 2 ติดตามสถานการณ์ 24 ชม. หลังพบทหารกัมพูชาเสริมกำลังหวังชิงพื้นที่ ตาเมือนธม - ตาควายคืน ประยุทธ์สั่งหน่วยอาร์ดีเอฟ จากทัพภาค 1 และพล.ร.4 จากทัพภาค 3 เตรียมพร้อมสนับสนุนทัพภาค 2


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

เดินทางกลับจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อกลางดึกของวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา วันนี้ พล.อ.ประวิตร ได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังมีการปะทะกันของไทยและกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง และได้ให้ฝ่ายยุทธการของกองทัพบกสรุปสถานการณ์เหตุการณ์ที่ผ่านมาให้รับทราบ นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 ติดตามสถานการณ์ และเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ในพื้นที่ แม้ว่าการการปะทะจะเบาบางลงก็ตาม

ทั้งนี้แหล่งข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับให้แม่ทัพภาคที่ 2 ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

โดยเฉพาะให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานแนวหน้าเฝ้าติดตาม พร้อมกับให้ประสานงานกับผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาในเรื่องการหยุดยิง ซึ่งขณะนี้รมว.กลาโหมของไทยก็ได้พยายามติดต่อประสานงานกับ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหมของกัมพูชา ที่จะนัดพูดคุยตกลงการหยุดยิง และเดินหน้าในการจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี เพราะ พล.อ.ประวิตร ไม่อยากให้สถานการณ์การสู้รบยืดเยื้อ เพราะจะส่งผลกระทบกับประชาชนทั้งสองประเทศ

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุว่า ขณะนี้กัมพูชาได้เคลื่อนกำลังพลตลอดเวลา

โดยเฉพาะการเคลื่อนกำลังพลมาสนับสนุนกำลังพลเดิมที่เป็นอดีตเขมรแดงซึ่งประจำการที่บริเวณปราสาทตาควาย และ ปราสาทตาเมือนธม เพื่อหวังที่จะโจมตีกำลังทหารไทยที่ขณะนี้ยังสามารถควบคุมพื้นที่ทั้งสองแห่งได้อยู่ จึงทำให้กองกำลังทหารกัมพูชา พยายามที่จะโจมตีเพื่อยึดฐานทหารไทยตรงนั้นได้ ที่สำคัญการที่กองทัพกัมพูชานำกำลังเข้ามาเสริมในพื้นที่เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์ โดยเฉพาะหวั่นว่ากำลังพลซึ่งเป็นอดีตทหารเขมรแดงจะไม่สู้รบกับกำลังทหารไทย หลังจากมีข่าวว่ากองทัพกัมพูชาได้จับตัวลูกเมียไว้เป็นตัวประกัน

รายงานข่าวจากกองทัพบก เปิดเผยว่า หลังจากที่กองทัพกัมพูชามีการเคลื่อนย้ายกำลังมาอยู่บริเวณปราสาทตาควาย และ ปราสาทตาเมือนธม อีกหลายกองพัน

ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก สั่งการให้ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 เฝ้าระวังเหตุการณ์ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้มีการสั่งเตรียมกำลังเสริมจากกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 3 เพื่อมาเสริมกำลังทหารหลักในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 สำหรับกำลังที่ พล.อ.ประยุทธ์ สั่งเตรียมพร้อมไว้ ประกอบด้วย กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร. 31 รอ.) หรือ อาร์ดีเอฟ จากกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วที่มีศักยภาพสูง รวมถึงอาวุธที่มีความทันสมัยมีความคล่องตัวในการทำงาน นอกจากนี้ยังได้เตรียมกำลังจากจากกองทัพภาคที่ 3 โดยมีการสนธิกำลังจาก กองพลทหารราบที่ 4 (พล.ร. 4 ) จำนวน 1 กองพัน ทั้งนี้หาก พล.อ.ประยุทธ์ มีคำสั่งให้ปฏิบัติการ ทางกองทัพภาคที่ 1 และ กองทัพภาคที่ 3 ก็พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจในการเข้าไปเสริมกำลังของกองทัพภาคที่ 2 ทันที


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์