“สุเทพ” ยันไทยไม่ได้เริ่มก่อนทำตามข้อตกลง

“สุเทพ” ชี้เหตุปะทะหลังเจรจาหยุดยิง อาจเพราะระบบการสื่อสาร-สั่งการของเขมรมีปัญหา ยันไทยไม่ได้เริ่มก่อน

วันนี้ (29 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุปะทะล่าสุดระหว่างไทยและกัมพูชาเมื่อคืนวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังมีการเจรจาหยุดยิงระหว่าง พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.ท.เจีย มอน ผู้บัญชาการภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชาแล้ว ว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานว่ามีทหารระดับสัญญาบัตรเสียชีวิต กำลังตรวจสอบอยู่ แต่ทราบว่ามีการปะทะกันตลอดเมื่อคืนวันที่ 28 เม.ย. โดยเป็นการใช้อาวุธประจำกายเช่นปืนเล็กยาว แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ของเราได้รับบาดเจ็บ  เมื่อถามว่าข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว ถือว่าทุกระดับเข้าใจตรงกันทั้ง 2 ฝ่ายหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่แน่ จะเรียกว่าเข้าใจตรงกันทุกระดับคงไม่ได้ แต่ทางฝ่ายไทยเข้าใจกันหมด เพราะพอแม่ทัพภาคที่ 2 ไปเจรจา ทุกฝ่ายก็ได้รับรายงานและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดทันที เจตนารมณ์ของคนไทยต้องการให้สงบสุขอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นเมื่อคืนก็คงมีปืนใหญ่ถล่มมากแล้ว แต่ทางฝ่ายกัมพูชาก็ยังมีปัญหาอยู่ อย่างไรก็ตามเราก็มองในแง่ดีว่าการติดต่อสื่อสาร และการสั่งการของฝ่ายกัมพูชาอาจจะมีปัญหา เพราะเขากระจายตัวกันอยู่ และสายการบังคับชา รวมทั้งระบบการสื่อสารอาจจะไม่สมบูรณ์

เมื่อถามว่าหลังเจรจาหยุดยิง แต่ก็ยังเกิดเหตุปะทะอีก แสดงว่าการเจรจาไม่สามารถเชื่อได้แล้วใช่หรือไม่

นายสุเทพ กล่าวว่า เรายังไม่ถือว่าเป็นอย่างนั้น แต่เราจะติดตามดูสถานการณ์ต่อไป ถึงแม้ว่าเมื่อคืนจะมีการใช้อาวุธ แต่ก็เป็นการใช้อาวุธที่เบาลงมา แต่ถ้าเขายังขยายขีดการรบ โดยใช้อาวุธหนักมากขึ้น ถึงจะถือว่าที่พูดคุยกันไว้ใช้ไม่ได้  เมื่อถามว่ากัมพูชาอาจจะเล่น 2 หน้าก็ได้ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ไทยก็ยังยืนว่าต้องการยุติปัญหาข้อขัดแย้งทั้งหลายด้วยการเจรจา และถ้าเขาล่วงล้ำอธิปไตยเราจะตอบโต้อย่างรุนแรง เพื่อหวังให้เขายุติการการกระทำที่เป็นอันตรายต่อคนไทยและประเทศไทย

เมื่อถามว่าสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าวอีกครั้ง และระบุว่าการเจรจาเป็นคนละส่วนกับการหยุดยิง

รวมทั้งเรียกร้องให้ฝ่ายไทยหยุดยิงก่อน นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปมีอารมณ์กับท่าทีของสมเด็จฮุนเซนเลย และไม่ว่าใครจะพูดจาอย่างไรก็ตาม แต่ความจริงก็เป็นความจริงเสมอ ยืนยันว่าทุกครั้งที่เกิดเหตุกระทบกระทั่งที่ชายแดน  ฝ่ายไทยไม่ได้เริ่มก่อนเลย และไทยก็ยืนยันที่จะไม่ยิงก่อนเป็นอันขาด แต่ที่ต้องตอบโต้ก็เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ ถือเป็นความจำเป็นที่เราต้องทำ  ส่วนที่ทางกัมพูชาเรียกร้องให้มีการเปิดด่านชายแดนนั้น  ก็ต้องดูสถานการณ์ก่อน ถ้ามีการยุติการใช้อาวุธกันจริง ๆ และเราเห็นว่ามีความปลอดภัยแล้วสำหรับประชาชนที่จะสัญจรไปมาได้ ไทยก็ยินดีอยู่แล้ว เพราะเป็นความตั้งใจเดิมของทางรัฐบาลไทยว่าการดำเนินการใด ๆ จะพยายามระมัดระวังไม่ให้กระทบกระเทือนต่อการใช้ชีวิตตามปกติของประชาชนบริเวณชายแดน

เมื่อถามว่าทำไมไทยไม่ใช้เรื่องการเปิด-ปิดด่านชายแดนกดดันกัมพูชาให้หยุดยิง

นายสุเทพ กล่าวว่า เราก็ใช้มาตรการตามที่เห็นว่าเหมาะสม โดยไม่เอาอารมณ์ ความรู้สึก กระแส และผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนที่ชาวบ้านบริเวณพื้นที่ปะทะเริ่มออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการให้เด็ดขาดโดยเร็วนั้น รัฐบาลเข้าใจดี และพยายามดูแลประชาชนให้ดีที่สุด แต่การตัดสินใจที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ได้เอาความมัน ความสะใจ หรือความชอบ ไม่ชอบมาเป็นตัวกำหนด ต้องคิดถึงส่วนรวมเป็นหลัก ส่วนข่าวการจับกุมสายลับได้นั้น ขณะนี้ยังไม่แน่ว่าเป็นสายลับจริงหรือไม่ กำลังสอบสวนอยู่ รอให้ชัดเจนก่อน ส่วนที่มีภาพข่าวปรากฏว่าทหารแนวหน้าในพื้นที่ไม่ได้รับการดูแลเรื่องการส่งกำลังบำรุงเท่าที่ควรนั้น ก็ไม่จริง ทหารได้รับการดูแลเป็นปกติทุกอย่าง และไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ แต่สังเกตว่ามีคนพยายามออกมาพูดจาอย่างนี้ 2-3 ครั้งแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าทหารกัมพูชาได้สร้างบ้านพักรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรด้านปราสาทพระวิหาร

นายสุเทพ กล่าวว่า ในพื้นที่ 4.6 ตรม.นั้น มีบันทึกข้อตกลงไว้แล้วว่าจะต้องไม่มีการเข้าไปตั้งกำลังทหารหรือเอาประชาชนเข้าไป ถ้ามีการกระทำผิดก็ต้องประท้วงกันและพูดกันบนโต๊ะเจรจา ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องไปดำเนินการ.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์