ซุกหุ้นภาค 2 พ่วง โอ๊ค-เอม! คตส.ลั่น แก๊งอ้อ อย่าเสียเวลายื้อ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 ธันวาคม 2549 23:58 น.

โอ๊ค-เอม ดิ้นไม่หลุด คตส.ออกหมายเรียกแจงซุกหุ้นภาค 2 หลังพบเงื่อนงำหุ้นแอมเพิลริช ด้าน นาม สอนมวยทีมทนายตระกูลชินวัตร ตีกันแก๊ง หญิงอ้อ ยื่นคัดค้านอนุไต่สวนให้เสียเวลา เหตุระเบียบไม่เปิดช่องให้ตีรวน คดีปิดสำนวนเงินกู้เอ็กซิมแบงก์ 4 พันล้าน เตรียมนับถอยหลัง

วันนี้ (18 ธ.ค.) นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมได้มีหารือเรื่องที่ นายธีระ ธรรมสิทธิ ทนายความของ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ยื่นหนังสื่อต่อ คตส.เพื่อคัดค้านการแต่งตั้งนายสัก กอแสงเรือง และนายกล้านรงค์ จันทิก คณะอนุกรรมการไต่สวน กรณี นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ซื้อหุ้นบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ จำนวน 4.5 ล้านหุ้น ซึ่งที่ประชุม คตส.เห็นว่า คำคัดค้านดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามระเบียบของ ป.ป.ช.ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของอนุกรรมการไต่สวน พ.ศ.2547 เนื่องจากคำคัดค้านดังกล่าวอ้างถึงความไม่เป็นกลางทางการเมือง ซึ่งไม่ได้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่จะใช้สิทธิคัดค้านได้ตามระเบียบนี้

และผู้ที่ถูกกล่าวหาในกรณีนี้ก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์คัดค้านได้อีก อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ในอนาคตหากมีการตั้งอนุกรรมาการไต่สวนในโครงการอื่นที่มีกรรมการ คตส.คนอื่นไปเป็นอนุกรรมการไต่สวนอีก เช่น นายแก้วสรร อติโพธิ และตนเองด้วย เพราะที่ผ่านมาก็เคยถูกกล่าวหาในเรื่องความไม่เป็นกลางทางการเมือง ตั้งแต่ไปรับสมัครเป็น กกต.ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งอาจจะมีการคัดค้านในลักษณะนี้อีก แต่การยกคำคัดค้านอันนี้ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นบรรทัดฐานต่อไป เพราะจะต้องดูเป็นกรณีไป

แหล่งข่าวจาก คตศ.เปิดเผยว่า นายวิโรจน์ เลาหะพันธุ์ ประธานอนุกรรมการตรวจสอบกรณีการซื้อขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ป ได้ทำหนังสือไปยัง นายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจัดส่งในรูปแบบไปรษณีย์ ซึ่งขณะนี้กำลังรอการตอบรับจากทั้ง 2 คน ว่า จะสะดวกเดินทางมาชี้แจงเมื่อไหร่ พร้อมทั้งให้เดินทางมาชี้แจงด้วยตนเอง ห้ามส่งบุคคลอื่นมาชี้แจงแทน ทั้งนี้ อนุกรรมการตรวจสอบได้เรียกทั้ง 2 คนมา เพื่อให้ถ้อยคำในเรื่องการซื้อหุ้นจากบริษัท แอมเพิลริช มาในราคาหุ้นละ 1 บาท จำนวน 329.2 ล้านหุ้น ในฐานะที่ทั้ง 2 คนเป็นกรรมการในบริษัท แอมเพิลริช เนื่องจากเข้าข่ายเป็นบุคคลที่ต้องประเมินภาษีตามมาตรา 40(2) แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ คงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคำนวณถาษีของทั้งคู่ เนื่องจากอนุกรรมการตรวจสอบสามารถที่จะนำข้อมูลในเรื่องคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรที่ 28/2538 และตัวเลขการซื้อขายมาคำนวณภาษีได้เช่นเดียวกับนายบรรณพจน์

ส่วนกรณีการตรวจสอบการทุจริตโครงการธนาคารเพื่อการนำเข้าและการส่งออก (เอ็กซิมแบงก์) ที่ให้เงินกู้กับประเทศพม่า จำนวน 4 พันล้านบาท นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้อนุกรรมการตรวจสอบกำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ว่ารัฐได้รับความเสียหายในการออกเงินกู้หรือไม่ หากพบว่าเสียหายก็จะมีการรวบรวมข้อมูลเพื่อสรุปสำนวน แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าจะเสร็จก่อนปีใหม่หรือไม่

แหล่งข่าวจาก คตส.เปิดเผยว่า ทางอนุกรรมการตรวจสอบกำลังจะทำหนังสือเชิญผู้บริหารระดับสูงของธนาคารเอ็กซิมแบงก์ มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนในการออกเงินกู้ นอกจากนี้ จะเชิญบุคคลอีกจำนวนมากที่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการดังกล่าวมาให้ข้อมูล ส่วนรัฐบาลพม่าจะไม่มีการเรียกมาชี้แจง เพราะยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่เป็นคนลงนามในสัญญาให้กู้ทางอนุกรรมการการตรวจสอบจะไม่เชิญมา เนื่องจากมีหลักฐานอยู่แล้วว่าเป็นผู้ลงนามในสัญญาดังกล่าว