ผ่าไต๋ฮุนเซนชูลูกชายรบไทย-ข่มเขมรแดง

 

คมชัดลึก : สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จาก เขาพระวิหาร สู่ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ก็ร้อนระอุไปด้วยเสียงปืนใหญ่ที่สาดกระสุนตอบโต้กันไปมา

 แต่สิ่งที่น่าจับตามองคือการเคลื่อนย้ายกำลังทหารของกัมพูชาจากบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ไปประชิดชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด้านทิศตะวันตก-ออก ของปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย ในพื้นที่ จ.สุรินทร์


 โดยกัมพูชาหวังเพียงแค่เพื่อต้องการแย่งชิงพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นของตัวเองให้ได้ ทั้งๆ พื้นที่ดังกล่าวได้มีการตกลงกันของทั้ง 2 กองทัพ คือ เขตปลอดทหาร หรือ No Man’s Land

 บุคคลที่มีบทบาทบัญชาการของฝ่ายกัมพูชา พล.ท.ฮุน มา เนต รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้เคลื่อนทับมาตีโอบกำลังทหารไทยที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ทั้ง 2 ปราสาท

 สิ่งที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น คือกำลังทหารส่วนใหญ่ที่ พล.ท.ฮุน มา เนต สั่งให้ออกปฏิบัติการล้วนแต่เป็นกำลังที่เป็นอดีต เขมรแดง เก่าเกือบทั้งหมด แม้ว่าปัจจุบันอดีตเขมรแดงเก่าเหล่านี้ จะแปรสภาพมาเป็นทหารประจำการในกองทัพกัมพูชาไปแล้วก็ตาม

 แต่ลึกๆ ทหารอดีตเขมรแดงเก่า ก็ยังไม่ได้รับความไว้วางใจเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ จากรัฐบาลกัมพูชาเท่าใดนัก พยายามส่งทหารกัมพูชามาเรียนรู้และจับความเคลื่อนไหวของทหารเขมรแดงด้วย

 โดยเฉพาะตัวของ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ ณ เวลานี้ไม่สามารถออกมาบัญชาการ หรือสั่งการในการเคลื่อนไหวของกองทัพได้ เนื่องจากล้มป่วยนอนพักรักษาตัวอยู่ภายใน “คฤหาสน์” ที่ห่างจากเมืองหลวงกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ออกไปประมาณ 30-40 กิโลเมตร

 แม้มีข่าวลือเล็ดลอดถึงอาการป่วยของ สมเด็จฮุน เซน ได้แพร่สะพัดออกไป ทำให้สถานการณ์การเมืองภายในกัมพูชาเริ่มสั่นคลอน แม้สมเด็จฮุนเซน จะครองอำนาจมานานกว่า 20 ปี อาจจะสะดุดลง จึงได้มีความพยายาม “ต่อยอด” อำนาจให้ พล.ท.ฮุน มา เนต เข้ามามีบทบาทในการปกครอง-การทหาร อย่างสมบรูณ์แบบ

 ด้วยการเป็นหัวเรือใหญ่ในการนำทัพกำลังทหารกัมพูชาหน่วยรบ และกำลังทหารอดีตเขมรแดงเก่า ออกไปปฏิบัติการในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย ในพื้นที่ จ.สุรินทร์

 ซึ่งการนำกำลังทหารอดีตเขมรแดงเก่า ออกปฏิบัติการสู้รบกับกำลังทหารไทยครั้งนี้ ถูกมองว่าส่วนหนึ่งต้องการ “ล้าง” ทหารอดีตเขมรแดงเก่าให้สิ้นซาก

 โดยการปฏิบัติการครั้งนี้ร่วมกับกำลังจากกองพลน้อยที่ 41-42 ของกองพลทหารภูมิภาคที่ 4 ประเทศกัมพูชา ที่มี พล.ท.เจียมอน ผบ.กองพลภูมิภาคที่ 4 ซึ่งเป็นผู้ที่รับผิดชอบพื้นที่ จ.พระวิหาร-จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา และเป็นผู้บัญชาการ

 โดยตั้งกำลังห่างจากชายแดนไทย 6 กม. มีอาวุธหนักทั้งปืนใหญ่ รถถัง อาวุธขนาดกลาง มีปืน ค. ปืนอาร์พีจี 7 และกองกำลังสนับสนุนทหารบก บันเตียเมียนเจย จำนวน 1 กองพัน โดยมีอาวุธปืนใหญ่ และรถถัง

 ถ้าเกมการเคลื่อนย้ายพลในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จสามารถตีทหารไทยได้ชื่อของ พล.ท.ฮุน มา เนต ที่ถูกวางตัวไว้ให้สืบทอดอำนาจหลังจากที่สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถอดเขี้ยวเล็บลงจากบัลลังก์

 จึงทำให้ พล.ท.ฮุน มา เนต มีบทบาทสำคัญในการเข้ามาควบคุมพื้นที่ในการบัญชาการด้วยตัวเอง โดยทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการควบคุมสมรภูมิ นอกจากนี้การเดินเกมของสมเด็จฮุน เซน ที่ต้องการให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนได้รับการยอมรับจากคนในกัมพูชาแล้ว โดยเฉพาะการ “ยกระดับ” ตัวของ พล.ท.ฮุน มา เนต

 หมากต่อไปคือ สมเด็จฮุน เซน หวังดึงนานาชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง และยิ่งสำคัญการเลื่อนการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยของประธานอาเซียนอย่างกะทันหัน

 จึงยิ่งทำให้สมเด็จฮุน เซน ออกแรงเต้นมากกว่านี้ เพราะจุดมุ่งหมายที่วางไว้ยังไปไม่ถึง จึงต้องจับตาเหตุการณ์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายในช่วง 2-3 วันนี้ ที่อาจจะส่งผลให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น

 และยิ่งอาการ “เพลี่ยงพล้ำ” ของกองทัพกัมพูชา ที่ ณ เวลา กองกำลังทหารไทยสามารถยึด และควบคุมพื้นที่ได้อย่างแบบเบ็ดเสร็จ บริเวณปราสาทเขาตาเมือนธม และปราสาทตาควาย

 ยิ่งทำให้ พล.ท.ฮุน มา เนต ผู้บัญชาการควบคุมสมรภูมิ ไม่ยอมง่ายๆ เพราะพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาจับจองไว้ตั้งแต่แรกๆ ถูกทหารไทยยึดไว้หมดเรียบร้อยแล้ว จึงทำให้การปฏิบัติการนับจากนี้คงต้องร้อนระอุเป็นเท่าตัว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์